แด่..ยอดดวงหฤทัยในใจดวง ยังแดนฟ้าจรดทราย..และ แดนดินอันดามัน ผู้หมายรอ..รับขวัญ.. คุ้มขวัญ..คืนเรือน..แห่งรักเรา..ค่ะ ................ นานหลายปีที่ผ่านมา... กับทิวาวันขวัญราตรีที่ลาล่วง มีมากเรื่องราวให้เจ้าขวัญดวง ได้ทบทวนรำลึกนึกถึง ด้วยความซาบซึ้งประทับใจ ดวง..นั่งอยู่ตรงนี้ วิมานดิน กับเก้าอี้แดงในห้องขาว ที่มองออกไปเห็น ราวพฤกษ์ไพรซ่อนตัวอยู่ในเมืองหลวง เมืองที่งดงาม ในนิยามแห่งการดิ้นรนต่อสู้ ให้มวลมนุษย์ในไทพสุธานี้ ได้เรียนรู้ การดำรงชีวิตรอดอย่างปลอดภัย อย่างแสวงหาสิ่งใด ได้สิ่งนั้น ขึ้นอยู่กับฝันกับใจใครจะไขว่คว้า เมือง ที่มีสายน้ำใจเจ้าพระยายังคงไหลระรินล่อง คอยสอนสัจจธรรม อันระร่ำรินอย่างเงียบงาม ว่า.. ทุกโมงยามแห่งชีวีชีวิตนั้นประดุจดั่ง *สายน้ำไหลไป ไหลไป แล้วไม่ไหลกลับ * ฉันท์ใดก็เฉกนั้น.. นาน..เท่าไรแล้วนะ ที่จิตวิญญาณบ้านภายใน ยังซื่อสัตย์ รักเงียบงามอยู่กับสงบสมถะ รู้พอดี พอใจ ไปกับธรรมชาติ ที่วนเวียนเพียรเฝ้าสอนใจ ให้มิไหวครวญกับสุขเศร้ารานร้าวใด..นาน กับความมิเที่ยงแท้ แน่นอน กับทุกข์ทุกสรรพสิ่ง ให้ค่อยๆรู้วางเฉยนิ่ง รู้ถึงความเป็นไปในธรรมดาเช่นนั้นเอง ในทุกเพรงพรหมชะตา ฟ้าลิขิต จากวิบากรักวิบากกรรม อันจำต้องยอมรับโดยดุษณี.. และ.. พลีพร้อม..กับทุกข์การพรากจาก กับอนิจจังสังขารอันมิเที่ยง กับโลกศิวิไลซ์วัตถุที่ยากเลี่ยงหลบ ให้พบสารพัดสารพันธุ์มนุษย์ ที่.. ทั้งจิตพิสุทธิ์ใส.. แล... ที่ใจยังต้องรอรับการเยียวยา ยังรอท่าหยาดสายน้ำอมฤตทองอมฤตธรรม.. ให้รอพรำพรมลงบนจิตวิญญาณ... บ้านภายในให้ยังดำรงอยู่ได้ ด้วยเนื้อใจดวงแท้ดวงธรรม ดวงที่มิระกำ รู้อยู่อย่างพอดีพอเพียง... ตราบโลกนี้ยังหมุนไป หมุนไป ตราบลมหายใจยังไม่สิ้นสุด และ.. สำหรับชีวาชีวิตดวง... ราวค้นพบวิมานวิมุติ ราวหลุดพ้นจากโลกสมมุติมายา จากการเรียนรู้ทุกข์ จนรู้ธรรม ธรรมดา จนมิปราถนาใดในหล้าโลกนี้แล้ว นอกจากเหลือเพียงเพียรแผ้วถาง เสียสละเมตตา สร้างหนทางแห่งดวงชีวี ให้ผู้เป็นที่รัก ได้เดินตรงตามรอยหนทางแห่งพระพุทธองค์ ที่ทรงดำเนินไปก่อนหน้าแล้ว ทางสายแก้ว กระจ่าง ทางสายงามที่เรียกกันว่า ทางสายพระนิพพานอันสว่างโรจน์ มาตรแม้นแสนไกล..ก็ตามที.. ก็.. ยังหวังเพียงทุกคนดี ในดวงใจ.. จักเกี่ยวก้อยกันไป..อย่างไม่ท้อเลย....! ........................ http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song1933.html วิมานดิน ฝากรักเอาไว้ ฝากไปในแสงดวงดาว ที่ส่องประกายวับวาว วาว อยู่บนฟากฟ้า ให้แสงสุกใส ได้เป็นเสมือนดวงตา คอยส่องมองเธอด้วยแวว ตา แห่งความภักดี เก็บฟ้ามาสาน ถักทอด้วยรักละมุน คอยห่มให้เธอได้อบ อุ่น ก่อนนอนคืนนี้ ให้เสียงใบไม้ ขับกล่อมเป็นเสียงดนตรี คอยกล่อมให้เธอฝันดี ดี ให้เธอเคลิ้มไป เป็น วิมานอยู่บนดิน ให้เธอได้พักพิง พิง และนอนหลับไหล เก็บ ดาว เก็บเดือนมาร้อยมาลัย เก็บหยาดน้ำค้างกลางไพร มาคล้องใจเราไว้รวมกัน ก่อนฟ้าจะสาง ก่อนจันทร์จะร้างแรมไกล ยังอยู่กับเธอข้างเคียง กาย อยู่ในความฝัน ฝากเสียงกระซิบ ฝากไปในสายลมผ่าน ข้ามขอบราตรีที่ยาว นาน ให้เธอฝันดี เป็น วิมานอยู่บนดิน ให้เธอได้พักพิง พิง และนอนหลับไหล เก็บ ดาว เก็บเดือนมาร้อยมาลัย เก็บหยาดน้ำค้างกลางไพร มาคล้องใจเราไว้รวมกัน ก่อนฟ้าจะสาง ก่อนจันทร์จะร้างแรมไกล ยังอยู่กับเธอข้างเคียง กาย อยู่ในความฝัน ฝากเสียงกระซิบ ฝากไปในสายลมผ่าน ข้ามขอบราตรีที่ยาว นาน ให้เธอฝันดี ให้เธอได้อบ อุ่น และนอนฝันดี ให้เธอได้อบ อุ่นอยู่ใน วิมาน... .................. http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song716.html บ้านของเรา บ้าน คือวิมานของเรา เราซื้อเราเช่า เราปลูกของเรา ตาม ใจ ย่อมเป็นสถานทิพย์วิมานพอหาได้ เป็นที่เกิด ที่ ตาย ที่เราสร้างเอาไว้คอยท่า บ้าน คือวิมานของ คน ถึงแม้ยากจน ก็ต้องดิ้นรน อย่าจนปัญญา หาบ้านสักหลัง ที่พอประทังชีวา เพื่อสนิทในนิทรา ให้ตื่นมามองโลกชื่นใจ บ้าน ฉัน มีเพลงฝันให้ฟัง มีเสียงระฆัง จากกังสดาลพริ้งไป มีสวนไม้ดอก ผลิบานก้านกอช่อใบ มีความรัก มีน้ำใจ มีให้อภัย มีกรุณา บ้าน คือวิมานของเรา ยามพบความเศร้า รีบกลับบ้านเรา จะเปรมปรีดา เพราะบ้านมีรัก น้ำใจอภัยกรุณา คอยเราอยู่ทุกเวลา ในชายคาเขตบ้านของเรา บ้าน ฉัน มีเพลงฝันให้ฟัง มีเสียงระฆัง จากกังสดาลพริ้งไป มีสวนไม้ดอก ผลิบานก้านกอช่อใบ มีความรัก มีน้ำใจ มีให้อภัย มีกรุณา บ้าน คือวิมานของเรา ยามพบความเศร้า รีบกลับบ้านเรา จะเปรมปรีดา เพราะบ้านมีรัก น้ำใจอภัยกรุณา คอยเราอยู่ทุกเวลา ในชายคาเขตบ้านของเรา... ....................
3 กรกฎาคม 2550 11:33 น. - comment id 719095
แพรวคิดถึงเพลงนี้จังเลยค่ะ Home .... ดอกไม้ ประตู แจกัน ดินทราย ต้นไม้ใหญ่ แก้วน้ำ จานชาม บันได โคมไฟ ที่สวยงาม ขอบรั้วและริมทางเดิน ต้นหญ้าอยู่ในสนาม บ้านนี้จะมีความงามได้ ถ้ามีเธอ *เพราะเธอคือที่พักพิง คือทุกสิ่งที่มีความหมาย เมื่อเธออยู่เคียงชิดใกล้ เรื่องร้ายใดใดไม่เกรง แม้ข้างนอกจะต้องเจอ กับเรื่องราว ที่ใครข่มเหง แต่ฉันเอง....ไม่คิดกลัว จากพื้นดินชนเพดานนั้นมีความหวานอยู่ เพราะรู้ว่าฉันมีเธอ คอยเป็นที่พักใจ จะรอคอยฉันจริงๆ เป็นหลักพึ่งพิงสุดท้าย จะล้มตัวลงเอนกายที่บ้านของฉัน ไม่ว่าวันเวลา จะเปลี่ยนหมุนเวียนไปเท่าไร ฉันยังคงมีแต่เธอ เป็นความหวังละความเข้าใจ พร้อมจะเก็บทุกสิ่ง ทิ้งความสุขทุกอย่าง และจะทำทุกทาง...เพื่อบ้าน...หลังนี้ ดอกไม้ ประตู แจกัน ดินทราย ต้นไม้ใหญ่ แก้วน้ำ จานชาม บันได โคมไฟ ที่สวยงาม ขอบรั้วและริมทางเดิน ก็ล้วนแต่มีคำถาม บ้านนี้จะงามอย่างไร ถ้าไม่มีเธอ ก็เพราะว่าใจของเธอ...คือบ้าน...ของ.....ฉัน
3 กรกฎาคม 2550 11:53 น. - comment id 719112
แด่น้องเพียงแพรว.. ผู้แสนน่ารักนักในนวลใจพี่พุดไพรค่ะ บทเพลงของน้อง ที่นำมามอบให้ ช่างแสนงดงามค่ะ พี่พุดก็ประทับใจเพลงนี้นะคะน้องรัก ซึ้งใจจังค่ะ คนดี และขอบคุณค่ะน้องน้อย จากใจ.. พี่พุดไพร
3 กรกฎาคม 2550 12:05 น. - comment id 719117
บ้านดอกไม้หอม.ม..ม... http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song82.html บทเพลงรักข้ามขอบฟ้า ฝอยฝนหลงฤดู ละอองละเอียด อ้อยสร้อย ค่อยค่อยปรายโปรยปล่อยสายพรายพลิ้ว พร่างพรม ห่มผืนหล้า..พรายพลัด..พรากฟ้า..ยามสนธยาใกล้ค่ำ.. นกกาพากันร่ำร้องระงมโผผินบินกลับรัง..รัก.. ไพล..นอนนิ่งเงียบทายทักใบจำปี ริมหน้าต่าง ที่พากันหยุดระบัดไหวไปตามแรงลมแล้ว.. ทั้งเรียวจำปีและหัวใจดวงนี้จึงนิ่งงันพอกัน.. กับฟ้าสีงามราวภาพฝัน ยามเย็น..ยากบรรยาย... ไพล..ไม่สบายมาหลายวัน เพิ่งจะหายครั่นเนื้อครั่นตัว เย็นนี้ และมือพอมีแรงจะจรดปากการจนา นะนาทีนี้นะคะ ทุกคนดีที่รักคิดถึงในร่มรักเรือนไทย ไพล..จุดเทียนกลิ่นยูคาลิปตัส เป็นเทียนกลมแท่งใหญ่ สีน้ำเงินเข้ม ที่เพิ่งซื้อมาพร้อมกันกับเทียนกลิ่นสตรอเบอรี่สีแดง สร้างแรงฝันพลังใจให้กับใจและ ร่างที่อ้างว้างและอ่อนล้า..มานานวัน.... หนาว..จนต้องหยิบผ้าทอมือผืนโตมาคลุมไหล่ ค่อยๆ..*จุดไฟสว่างกลางดวงใจ* ที่ใกล้มอดดับให้ไฟรักรจนากลับมา.อีกคราครั้ง ในความเงียบงาม ลำพัง ที่ไพลมักชอบนอนนิ่งทิ้งตัวในความมืด มองดูม่านฟ้าราตรีสีกำมะหยี่ ค่อยค่อยคลี่ดาวพราวฟ้าตระการตาตระการใจ ที่ละดวงละดวง จน รวงดาวเรียงดวงพราวพร่างกระจ่างใส เต็มไปทั้งท้องนภาเวหาหาว เป็นความเงียบว่างร้างไร้ ที่ไพลมีใจดวงแสนสุขพร้อมพลีรับกับคืนฝันวันแสนดีนี้ ที่โลกและธรรมชาติหยิบยื่นให้อย่างไม่เลือกที่รักมักที่ชัง.. และ หอม..ม....ม...ม......หอม...... มวลดอกไม้รายรอบวิมานดินรินร่ำรสรื่นชื่นฉ่ำใจเป็นที่สุดในนาทีนี้ สมกับที่มีคนให้สมญานามวิมานไพล..บ้านของไพลไปทั้งซอยว่า *บ้านดอกไม้หอม..บ้านหอมดอกไม้* ที่ทำให้ไพลยิ้มหวานบานเบิกใจด้วยยินดีเป็นที่สุดเลยค่ะ สมกับที่ไพลเพียรทะนุถนอม ปลูกหน่อกอรักด้วยภักดิ์พลีพวงดวงดอกพะยอมมานานปี ให้ทุกนาทีแห่งชีวิตได้สนิทแนบแอบร่มเงาไม้ให้รัก พอกันกับนกกาที่มาอาศัยชายคาแห่งรักนี้ ที่มีรักให้มิรู้จบตราบจนวันผืนดินกลบหน้า.. และตราบจนกว่าจะ ถึงวันลาพรากจำจากไกลแบบไม่หวนคืนกลับ... ไพล..ขอหยุดรจนาเพียงนี้ก่อนนะคะ อยากรู้จังเลยว่า.. จะพอมีใครคิดถึงไพลบ้างละหนอละนี่ ที่ห่างหายไป.. และ ไพล..ขอไปตัดกุหลาบแดงดอกใหญ่ พร้อม.. เก็บการะเวกมาใส่ให้เต็มตะกร้า เก็บชบาส้ม..ชวนชมชมพูพริ้งพราว และจำปีงามขาวราวนวลเนื้อนางใจ กระดังงาดอกใหญ่หอมอวลร่ำ มาร้อยรัดพันผูกใจ..กำนัลไปกับสายลมในยามค่ำนะคะ และด้วยหอมหอมร่ำ..ขอวางไว้ใกล้หมอนนอนหนุน.. ฝากคำกระซิบซึ้งซึ้งถึงทุกดวงใจในร่มรักเรือนไทยนะคะว่า.. หัวใจหวานไหวดวงนี้ ไหวหวั่นฝันหาพาคะนึงครวญ..ค่ะ ด้วยรัก..ล้นใจ.. http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song82.html บทเพลงรักข้ามขอบฟ้า ขอบฟ้า เหนืออาณาใดกั้น ใช่รักจะดั้น ยากกว่านก โบยบิน รักข้ามแผ่นน้ำ รักข้าม แผ่นดิน เมื่อความรักดิ้น ฟ้ายังสิ้นความกว้างไกล ขอบฟ้า ทิ้งโค้งมาคลุมครอบ อ้าแขนรายรอบโอบโลกไว้ ภายใน เหมือนอ้อมกอดรัก แม้ได้ โอบใคร ชาติภาษาไม่ สำคัญเท่าใจตรงกัน รัก ข้ามขอบฟ้า รักคือ สื่อภาษาสวรรค์ อาจมีใจคนละดวง ต่างเก็บอยู่คนละทรวง ไม่ห่วงถ้ามีสัมพันธ์ ขอบฟ้า แม้จะคนละฟาก ห่างไกลกันมาก แต่ก็ฟ้าเดียวกัน รักข้ามขอบฟ้า ข้ามมา ผูกพัน ผูกใจรักมั่น สองดวงให้เป็นดวงเดียว รัก ข้ามขอบฟ้า รักคือสื่อภาษาสวรรค์ อาจมีใจคนละดวง ต่างเก็บอยู่คนละทรวง ไม่ห่วงถ้ามีสัมพันธ์ ขอบฟ้า แม้จะคนละฟาก ห่างไกลกันมาก แต่ก็ฟ้าเดียวกัน รักข้ามขอบฟ้า ข้ามมา ผูกพัน ผูกใจรักมั่น สองดวงให้เป็นดวงเดียว...