จันทร์นวลสีทองกำลังฉายแสงผ่องพราว เหนือราวฟ้า หว่านสายแสงเสน่หาแสนหวาน ทายท้าให้ทุกดวงใจ.. ได้ปันแบ่งความคิดถึงลึกซึ้งยามห่างไกล เมื่อได้แล เหลียวเห็น ดวง..เปิดบทเพลง*ม่านไทรย้อย* ที่กำลังครวญคร่ำบรรเลงในนาทีนี้ ที่หยาดน้ำผึ้งแสนหวานแห่งดวงจันทรา กำลังพร่างพรมห่มหอมให้ไปทุกถิ่นที่ .. ในท่ามราตรี ที่ฟ้าไทแสนทุกข์เทวษ ด้วย.. เหตุแห่งความไร้รักสมานสามัคคี http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song3700.html ม่านไทรย้อย ลืม ลืมหมดแล้วหรือไร แม้จันทร์ ที่เคยเป็นใจ หลบบัง ร่มไทรย้อยกิ่ง กระซิบรำพัน แฝงจันทร์ เคยแอบเอนอิง หนาวลม แนบอกเธอผิง สุขซึ้งใจจริง หาใดปาน ลืม ลืมหมดแล้วน้ำคำ ซึ้งจำ ติดรอยใจพิมพ์ เคยชิม ว่าเป็นน้ำตาล ยังหวานตรึงใจ รสใด จะเปรียบประมาณ แท้จริง ลมปากเธอหวาน หลอกฉันมานาน ร้อยหมื่นอย่าง กิ่งไทร ย้อยร้อยรักไว้ ลมไหวไทรเอน ใจเต้นคล้ายลาง แอบออดชู้ ชูกิ่งพลาง ไทรเจ้ากางใบบัง งามเหมือนดัง ม่านทอง ลืม ลืมหมดแล้วสายลม แม้ไทรที่เคยชื่นชม รื่นรมย์ แทนเรือนหอห้อง ไทรเอ๋ยเคยเอน พักเป็น แดนสุขเคียงครอง เย้ายวน กันอยู่เพียงสอง ขาดรักไทรมอง หมองวิญญา กิ่งไทร ย้อยร้อยรักไว้ ลมไหวไทรเอน ใจเต้นคล้ายลาง แอบออดชู้ ชูกิ่งพลาง ไทรเจ้ากางใบบัง งามเหมือนดัง ม่านทอง ลืม ลืมหมดแล้วสายลม แม้ไทรที่เคยชื่นชม รื่นรมย์ แทนเรือนหอห้อง ไทรเอ๋ยเคยเอน พักเป็น แดนสุขเคียงครอง เย้ายวน กันอยู่เพียงสอง ขาดรักไทรมอง หมองวิญญา... ดวง...แลลอดผ่านเรียวใบจำปี ริมหน้าต่างกระจกบานกว้าง เห็นมวลเมฆอ้างว้างลอยวนไปกับมนต์จันทร์ ให้ฝันฝากใจ.... แล้ว...ไฉน..ไยเล่า .. ในค่ำคืนนี้.... ที่ทั้งน้ำตาดวงน้ำตาดาว จึงต่าง...พราวพร่าง..พลี.. ฝากโศกสะเทือน..แด่โลกพร้อมกัน...!