นอนนิ่งนิ่งอิงหมอนนุ่มดูนวลฟ้า สนธยาแตะริมใจจนไหวหวั่น ขวัญกลางใจหายวับกับตะวัน รองามจันทร์หยาดสายหวานเสกม่านมนต์ เด็ดดวงดอกไม้ไทยหอมหอมนวลมาเคลียแก้ม แล้วก็แย้มแล้วก็ยิ้มรับโลกสับสน มายาฝันวันรักรอทุกข์เวียนวน ปล่อยกมลวางว่างกระจ่างใจ พบเงียบงามในท่ามโลกใบน้อย นั่นดาวลอยโน่นเดือนเพ็ญพูนไสว แล้วนี่เราดั่งธุลีหล้ารู้ทำใจ นับอสงไขยกัปป์กาลเวลามาชั่วกัลป์ มิช้านานวิบากรานวิบากรักจักพ้นโศก ดั่งบัวบานเหนือโลกปาริชาติสวรรค์ เพียรพายเรือใจข้ามมหาชลาลัยสีทันดรท่ามเวิ้งวัน สู่...เส้นทาง สวรรค์ ขวัญนิพพาน สถิตสถาพร...! .................................
13 มิถุนายน 2550 22:12 น. - comment id 709929
เพชร..พะงัน..! ดวงร้อยเรียงเรื่องนี้ หลังจากที่ได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่งจบลง WAT KOW TAHM (วัดเขาถ้ำ) INTERNATIONAL MEDITATION CENTER แห่งเกาะพะงัน.... ในฐานะที่ดวงเกิดที่เกาะพะงัน และดวงเคยตั้งใจว่า จะเขียนเรื่องเกี่ยวกับบ้านเกิด ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้...... เกาะพะงัน....ที่บัดนี้ มีชื่อกระฉ่อนโลก ไปทั้งด้านบวก และลบ สุดแท้แต่ใจของผู้มาเยือน จะสัมผัส ไขว่คว้า เอาแง่มุมไหนไปบอกกล่าว..เล่าต่อ... สำหรับดวง ... พยายามจดจำ แต่ด้านบวก ที่ใจดวงงามดวงนี้ เคยสัมผัสมาตั้งแต่วัยเยาว์ ด้านลบนั้น ดวงพยายามลบทิ้งไป......... ถ้าแม้นทำให้ใจดวงนี้ ปวดร้าว ด้วยแก้ไขอะไรไม่ได้ นอกเสียจาก ตั้งจิตอธิษฐาน.....ว่า..... ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์จงดลบันดาล ให้ธรรมชาติงามแห่งเกาะในฝัน ดั่งสวรรค์เนรมิตรของดวง ได้สอนให้มนุษย์ ใช้ธรรมชาติ แสนงามงดนี้ มาใช้ในทางสร้างสรรค์..... จรรโลงใจ และพาพบสงบงาม เรียนรู้ เห็นธรรม ในธรรมชาติ มิใช่ จาบจ้วง ทำลาย ทำร้ายแม้กระทั่งตัวเอง และ ต่อเพื่อนมนุษย์ร่วมโลก ที่โศกยังไม่พอกันอีกละหรือ...... . เกาะพะงัน....ไม่เคยทำร้ายใคร ยังคงเงียบงาม สงบนิ่ง ท้าทาย ราวบอก เราหยุดแล้ว ....... แต่....ตัวท่านสิ ยังไม่ยอมหยุด เพื่อผ่อนพักกายใจ ที่เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า วิ่งแสวงหาสิ่งใดกันเล่า...มนุษย์...หนอ..มนุษย์ เกาะพะงันคงยังรองรับ ผู้ คนนับหมื่น นับแสน ที่ก้าวเข้ามาค้นหาความฝัน และ สัจจธรรมแห่ง ความจริงแท้แน่นอนของชีวีตนี้... ที่เกิดมา... สำหรับผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน......... ส่วนผู้มืดบอดนั้น ธรรมชาติงดงามปานใด ไหนเลยจะแลเห็นธรรม บ้างก็เห็นแค่งามไปตามดวงตา หาใช่ด้วยจิตวิญญานไม่ ดวงอ่านเรื่อง..วัดเขาถ้ำ จบลง ในคืนนี้ ด้วยจิตคิดดีที่แน่วแน่ ว่า จะช่วยเผยแพร่ สิ่งดีๆที่ดวงได้รับทราบ........ แม้นว่า ดวงจะเกิดที่เกาะพะงัน และใช้วัดนี้เป็นที่หลบพัก พึ่งพิง ไม่ว่าในยามสุข หรือยามทุกข์ แต่ ดวงก็เกิดมาช้า จนบางเรื่องดวงมิอาจจะทราบความเป็นมา ในหนหลังอย่างละเอียด แม่ชีอมรพันธ์ ทองเรือง ผู้พัฒนาวัดเขาถ้ำ มานานร่วม 40 ปีแล้ว ท่านได้อุทิศชีวิต เพื่อพระพุทธศาสนา มีปณิธานมุ่งมั่นพัฒนาให้วัดแห่งนี้ ที่เคยแร้นแค้น ด้วยเหตุเพราะขาดน้ำ เนื่องจากตั้งอยู่บนภูเขา ให้มีความสะดวกมีน้ำใช้ และท่านยังได้ขยายพื้นที่วัด ปลูกพืชพรรณไม้นานาให้ร่มเงาทั้งแก่นกกา และผู้ที่มาพึ่งพา หาความสงบงาม ทั้งจากธรรมชาติ และจากแสงแห่งธรรม เพื่อส่องนำทางจิตวิญญาน ให้ร่มเย็นเป็นสุขทุกผู้คน....... ท่านได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ มาประดิษฐานบนยอดมณฑปวัดเขาถ้ำ สถิตสถาพร เป็นมิ่งมงคล แก่ผู้คนจากทุกมุมโลก ได้เข้ามานมัสการ เพื่อประโยชน์สุขแก่ชีวิต ตราบจนชั่วกัลปาวสานต์ ....... นอกจากนี้..... ท่านได้สร้างพระพุทธปรินิพพาน(พระพุทธไสยาสน์) โดยการร่วมแรงร่วมใจกันของประชาชน ทั้งจาก เกาะสมุยเมืองพี่และ เกาะพะงันเมืองน้อง เพื่อเป็นมิ่งขวัญ กำลังใจ ได้กราบไหว้บูชา น้อมนำกำกับใจ ให้คิดดี ทำดี ในรอบสิบปีมานี้ เกาะพะงัน ได้กลายเป็นเมืองท่องเที่ยว มีชื่อในเรื่องกิจกรรม คืนวันพระจันทร์เต็มดวงของทุกเดือน (FULL MOON PARTY) บนหาดริ้น และ วัดเขาถ้ำเป็นทางผ่าน จึงมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาแวะเวียน และสนใจในธรรมชาติที่สุขสงบร่มเย็น...... ท่านจึงได้เปิดเป็นสำนักวิปัสนา โดยเชิญ คุณสตีฟกับคุณแมรี่ ที่สนใจศาสนาพุทธสายเถรวาท และปฏิบัติธรรมมานานตั้งแต่ปีพ.ศ2522 มาเป็นผู้สอน และจัดหลักสูตรเป็นระบบ ครั้งละ 10วันประมาณเดือนละครั้ง จนผ่านมา66รุ่นแล้ว และ.. คงจะมีต่อไปไม่สิ้นสุด... แก่คนต่างชาติ และคนไทย ที่สนใจใฝ่หา ความสงบสุข อัน จีรังยั่งยืน...... วัดแห่งนี้..... เป็นจุดชมวิว ที่สวยที่สุด ราวสวรรค์ลอยอยู่ตรงหน้า ถ้าแม้นใครได้ขึ้นมาแลเห็นงามจะตะลึงใจ......เลยทีเดียว..... ดวงมีที่ดิน ผืนงาม เชิงเขา ทางขึ้นวัดนี้ และ.. ดวงได้บริจาคที่ดินส่วนหนึ่ง ให้ขยายเป็นถนนสายกว้างแสนสะดวก เพื่อพาผู้คนขึ้นไปสู่ประตูสวรรค์ ทางจิตวิญญาน ให้ได้พบสวรรค์ที่แท้จริงที่ใกล้ แค่เอื้อม เพียงแค่ใจเราไม่มืดบอด ไม่ต้องรอให้ชีวีดับดิ้น สิ้นใจ แล้วหวังไปพบเจอ ขอเพียง ตั้งใจ ทำดี มีศีล สมาธิ จะก่อเกิด ปัญญา พาสวรรค์ให้ลอยเลื่อน มาสู่กลางใจ ใสสว่างของเราเอง....... ดวงภูมิใจ....ในใจดวงนี้ ที่มีส่วนร่วม เปิดทางสายสวย สายสงบ สายสู่สวรรค์ ให้แก่มนุษย์ผู้สับสน เคว้งคว้าง หลงทางและแสนว้าเหว่ ในทะเลโลก ทั่วทุกสารทิศ.. เข้ามาค้นหา ความถึงพร้อมแห่งชีวิตนี้ที่แสนสั้น..... เหมือนเส้นทางสีขาว สร้างไว้รอท่า คนดี ที่ใจ สว่าง บริสุทธ์ใส ได้ก้าวเดินไป.... และ... ไว้ต่อกร.........กับเส้นทางสีดำ....... ที่กำลังเกิดบนเกาะนี้ ที่มาพร้อมกับ ความเจริญ ทางวัตถุ แต่ใจแสนมืดดำ แสนเสื่อมทราม คู่กับโลกมาช้านาน เพราะกิเลสของมนุษย์ ที่มีตัณหาพาหลงผิด ให้อยากได้ ใคร่ดี ในสิ่งที่ไม่ถูกทำนองคลองธรรม ชักนำให้หลงเป็นทาสอำนาจเงิน กัน จนลืมความผิดชอบชั่วดี...... สิ้นสำนึกตรึกตรอง....มองไกล....ว่า กำลังจะทำให้.... สิ้นชาติ ...สิ้นแผ่นดิน....เพราะสิ้นคิด.....ไงเล่า.... นานมาแล้ว.. มีภิกษุ อีมานูเอล เชอร์แมน เป็นชาวอเมริกัน เดินทางแสวงหา วิธีดำเนินชีวิต และเลือกประเทศญี่ปุ่น เป็นดินแดนแห่งแรก เพื่อค้นหาแก่นแท้ ของสายธารชีวีที่แสนยาวไกล...... เขาใช้เวลาศึกษาในวัดเซ็น และอุทิศตัว เป็นภิกษุในพุทธศาสนามหายาน..... และได้เดินทางมาไทย หวังได้พบกับ หลวงพ่อ พุทธทาส แห่งสวนโมกข์ .... อาศัยเรือเดินสมุทรเดินทาง รอนแรม มาขึ้นที่นี่ ที่เกาะพะงัน จนได้พบวัดเขาถ้ำแห่งนี้ ที่มีบรรยากาศโดยรอบ เงียบสงบงาม มีถ้ำสำหรับผู้ปฏิบัติธรรมตั้งอยู่บนผาสูง มีหินใหญ่มหึมา และเมื่อมองลงมารายรอบ จะเห็นดงมะพร้าวลานตา เห็นทะเลลิบลิบตรงหน้า...... ยามสนธยา จะเห็นแสงตะวันลาลับขอบฟ้า ซึ่งมีความหมายทางใจแก่ดวงจิตของ เซ็นผู้เลือก ทางเดินชีวิต ที่เรียกว่า........ แขวนชีวิตไว้ที่หน้าผา และหัวเราะเยาะเย้ยความตาย........ เป็นดังปริศนาธรรม..ที่ ปรากฏให้เห็น การเกิด ดับ ของกาลเวลา และ ชีวิตทั้งหลายในโลก....... และ...ณ....ถ้ำหน้าผาเขาข้าวแห้งแห่งนี้ เคยเป็นที่ซึ่งพระธุดงค์ ในอดีตกาล เคยขึ้นมาบำเพ็ญเพียร ทางด้านวิปัสนากรรมฐานมาแล้ว หลายยุค หลายสมัย ด้วยวิเวก ......... และช่วยให้ผู้ปฏิบัติธรรมบรรลุเป้าหมายสูงสุด...... ท่านเชอร์แมน.....พบว่า ทุกสิ่งที่รายรอบตัวท่านนั้น ไม่ว่าธรรมชาติงามในดินแดนแห่งนี้ และผู้คนที่หน้าตายิ้มแย้ม แบบชาวพุทธ ทุกสิ่งจูงใจให้ท่านประพฤติ ปฏิบัติธรรม ออกบิณฑบาตร .... และแม้จะมีภาษาเป็นอุปสรรค ท่านก็สำนึกในบุญคุณของคนพื้นบ้าน ที่ช่วยให้ท่าน มีชีวิตอยู่โดยไม่ต้องใช้เงิน ที่ท่านไม่เคยพบเจอ ในดินแดนรุ่งโรจน์ ของชาวโลกผู้คิดว่าศิวิไลซ์ ท่านได้ถ่ายทอด ภาพ ปริศนาธรรม เป็นภาพพิมพ์จากการแกะไม้ (WOOD CUT) ด้วยการแจกให้ชาวบ้าน และพูดชี้แจงให้ชาวบ้าน ซึ่งรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง เป็นการตอบแทน ท่านป่วยเป็นไข้ และปฏิเสธยาปฏิชีวนะ จนท่านมรณภาพลงภายในถ้ำ ...... หลังจากนั้นชาวเกาะได้พบ ภาพพิมพ์ม้วนซ้อนๆอยู่ คล้ายดังเป็นที่รวมความคิด จะทำวิทยานิพนธ์ เสนอต่อ ท่านอาจารย์พุทธทาส ชาวเกาะจึงได้นำภาพเหล่านั้น มาให้ หลวงพ่อพุทธทาสดู ท่านจึงสั่งให้เก็บรวบรวมมา และท่านได้ให้ศิลปิน จำลองขยาย ให้เหมาะกับผนังในโรงมหรสพวิญญาน ซึ่งปัจจุบันยังมีอยู่ .... โดยที่หลวงพ่อพุทธทาส ได้ตีความภาพปริศนา และตั้งชื่อพร้อมมีคำกลอนสอนใจ ในธรรมะ ที่ท่านค้นพบ..... แม้ภาพจะเป็นเส้นสายขยุกขยิก แต่ความหมายในนั้น สูงส่ง มากค่ายิ่ง เป็นการอธิบายถึงสัจจธรรม ให้ทุกคนได้ตระหนัก....ถึงชีวิตนี้ ที่ควรจะเป็น จะเลือกเดิน..... มิให้เพลิดเพลิน มัวเมา อยู่ในวังวน กิเลส มิจบสิ้น ไม่รู้อีกกี่ภพ กี่ชาติ.... ถ้าหาก ท่านผู้อ่านท่านใด ต้องการอ่าน และตีความภาพปริศนาธรรม ปัจจุบันมีที่สวนโมกข์... และวัดเขาถ้ำกำลังรวบรวมปัจจัย ที่จะจัดสร้าง ศาลาสุญญตา เพื่อจำลองภาพเขียนปริศนาธรรม ของภิกษุ อีมานูเอล เชอร์แมน จากฝาผนังสวนโมกข์ผลาราม เพื่อนำมาประดิษฐานไว้ ณ.ศาลาสุญญตา..ในอนาคตอันใกล้นี้ หาก พุทธบริษัทได้ร่วมแรง ร่วมใจกัน ในโครงการมหากุศลนี้.....ไม่นานคงสำเร็จ... ภาพปริศนาธรรมต่างๆมีชื่อดังต่อไปนี้........ ภาพ พระพุทธองค์ อยู่หลังม่าน ไม่ต้องไปหาที่ไหนไกล แค่เปิดใจออกจะแลเห็น ภาพ อาบน้ำ คนเราอาบแต่กาย แต่ใจไม่เคยอาบให้สะอาดเลย ภาพ ลิ้นงู อยู่ในปากงู ที่อยู่ระหว่างเขี้ยว ไม่กระทบกระทั่งกับอันตรายใดๆ ภาพ ผู้ดับไม่เหลือ ดับกิเลส ตัณหา อุปาทาน ภาพ จิตว่าง ได้ยินใบไม้พูด จิตที่ดีไม่ยึดมั่น ถือมั่น ภาพอริยมรรค ภาพ พ้นแล้วโว้ย ภาพ ตัวกู ของกู ภาพ ทะเลไฟ ภาพ จากอนันตะสู่อนันตะ ภาพ เสียงตบมือข้างเดียว ภาพ การเผยแผ่ธรรม ภาพ การเผยแผ่ธรรมด้วยดนตรีประกอบ ภาพ การเผยแผ่ธรรมด้วยสัญญลักษณ์ของการหุบปาก ภาพ การเผยแผ่เรื่องสุญญตา ภาพ ทิ้งทวนของเชอร์แมน ภาพ ท่านเชอร์แมนยืนถือไม้เท้าสัญญลักษณ์ แห่งระฆังสันติภาพ ปลายไม้เท้ามีห่วง สามห่วง ตีให้เกิดเสียงดุจระฆังแห่งสันติภาพ หรือเตือนสติตนเอง มือขวาถือบาตรชูขึ้นฟ้า ข้างล่างมีผู้หญิงก้มใส่บาตร..... ภาพทิ้งทวนเป็นภาพที่น่าสนใจยิ่ง เป็นภาพเด็ก6คน เด็กคู่บนจะร้องเพลง ส่วนข้างล่างจะทะเลาะกัน ข่วนหน้าตากัน เป็นการบอกให้รู้ว่า ผู้ใหญ่มักจะโกรธกันทั้งปี ในขณะที่เด็กๆไม่ผูกพยาบาท อาฆาต มาดร้ายกัน มีแต่จิตใจบริสุทธ์งดงาม ไม่ยึดมั่น ถือมั่น...... ................... ดวงนำมาเรียงร้อยถ่ายทอด ได้เพียงนี้ เพราะแค่นี้ก็คงยาวพอแล้ว สำหรับผู้อ่าน ทั้งๆที่ยังมีเรื่องราว น่าสนใจอีกมากมายของวัดเขาถ้ำแห่งนี้ ซึ่งหวังด้วยใจว่า วันหนึ่ง เมื่อท่านไปสวนโมกข์ หรือ วัดเขาถ้ำ ที่เกาะพะงัน ท่านอาจจะได้เห็นด้วยตาตนเอง และได้อ่านกลอน ปริศนาธรรม ด้วยใจที่อิ่มเอิบงาม...... ท้ายสุด ดวงสะท้อนสะเทือนใจกับเกาะพะงัน ที่มีสิ่งดีๆมากมาย ให้มนุษย์ข้ามน้ำ ข้ามทะเล ฝ่าฟันมาไกลแสนไกล อยากให้เพื่อนร่วมโลกทุกคน คิดว่า..... ทะเลที่เดินทางมา ด้วยความยากลำบาก เปรียบประดุจดัง ทะเลไฟ ทะเลกิเลส ที่มนุษย์มากมี ดาหน้า พากันท่องมาในสังสารวัฏ .... อาศัยผู้มีบุญบารมี เท่านั้น จึงจะรอดพ้น ผ่านลุล่วง แลเห็น ธรรม....ธรรมชาติ อย่างแท้จริง ของเกาะพะงันแห่งนี้ .. ที่เปรียบดังสวรรค์ ดวงภาวนาให้ผู้มืดบอด ที่เวียนว่าย ได้ค้นพบ ด้านที่แสนดีแสนงาม เพื่อเป็นแสงส่องสว่าง นำทางไปสู่การหลุดพ้น...... มิใช่เวียนว่ายวน เพียงเพื่อมาดื่มด่ำ มัวเมา ดังแมลงเม่าบินเข้ากองไฟ เหลือรอดเพียงหยิบมือ ที่ได้มาพบ..... เพชรแท้ของเกาะพะงัน....... ที่ซ่อนไว้ให้ผู้ไม่ประมาท ได้ค้นพบ และเพื่อจรรโลงโลกนี้ ให้สงบงาม และร่มเย็นเป็นสุขสืบไป........ อยากพบ..เพชรพะงัน...... ฝ่าฟันไปด้วยกัน ข้ามบททดสอบ แห่งความสนานสนุก ข้ามทะเลโลก ที่ทำให้โศกตรม ระทมทุกข์ ไม่วายเว้น...... ข้ามทะเลใจ ทะเลไฟ ที่เผาไหม้ให้ใจเร่าร้อนทุรนทุราย ด้วยความไม่รู้จักคำว่าพอเพียง และเพียงพอ....... ไปให้ถึงฝั่งฝันนั่นคือ..... แสวงหานิพพาน......ความว่าง...... ความดับไม่เหลือ..เยื่อใย สำหรับดวง....... ได้เปิดประตูสววรรค์ให้ทุกคน และตัวเอง แล้ว ด้วยใจดวงนี้ ที่พลีพร้อม เพื่อเพื่อนมนุษย์ และเกาะพะงัน ดินแดนแผ่นดินเกิด ที่ได้ให้ชีวิตดวงเติบโต มาในร่มเงา อันร่มเย็นและสวยงาม ...... ได้เรียนรู้รัก รู้โลก และชีวิตนี้ ที่ไม่อยากดับสูญไปอย่างสิ้นไร้ค่า นะดวงใจ แม้เป็นได้เพียง แค่เม็ดทราย ให้ผู้คนได้ก้าวเดิน เหยียบย่ำ เพื่อปูทางไป สู่แสงธรรม..... แสงทอง ให้ส่องสว่างกลางใจ ให้ใสฉ่ำเย็น ดั่งสายธาร แห่งชีวีนี้... ที่ต้องไหลไป....ในอนันตกาล......ไม่สิ้นสุด......
13 มิถุนายน 2550 23:39 น. - comment id 709942
ข้าน้อยมีครูอยู่ทั่วหล้า ************************ ด้วยความเคารพ ********************** ทุกสรรพสิ่งที่พึงมี ****************** http://www.thaiall.net
14 มิถุนายน 2550 00:33 น. - comment id 709955
สวรรค์อยู่ในอก และรอบๆตัวเรา แต่ไม่มีใครค้ามาใส่ในชีวิตตัวเราเองต่างหาก เพราะทุกวันนี้คนเลือกแต่สิ่งที่ไม่ ok เข้าหาตัวเอง ก็เลยกลายเป็นมนุษย์ที่ไม่มีความสุข มีแต่ความทุกข์ ค้นหาตัวตนของตัวเองไม่เคยเจอค่ะ แวะมาทักทายยามดึก
14 มิถุนายน 2550 05:23 น. - comment id 709994
สวัสดีค่ะพี่พุด หาทางไปสู่สวรรค์มาให้ค่ะ..อิอิ..
14 มิถุนายน 2550 07:42 น. - comment id 710046
ยังไม่เคยไปเกาะพะงันเลยค่ะ ได้แต่อ่านงานเขียนของคุณพุดพัดชาที่เขียนถึงเกาะพะงันบ่อย ๆ สักวัน อัลมิตราคงได้ไปเยือน ถิ่นที่สวยสงบอย่างเกาะพะงัน
14 มิถุนายน 2550 09:40 น. - comment id 710128
พุดพัดชามารับอรุณอุ่นไอโอบเอื้อ ด้วยใจดวงหอมหวานละมุน นาทีนี้.. พุดกำลังรจนางานเรื่อง *เดือนดอกกุหลาบ* เพราะ.. พุดมีความสุขสงบ มาทายทักโลกภายใน..ดวงใจพุด ที่แสนรักความเรียบง่ายสมถะเสมอมา ตราบชั่วชีวิตก็คงว่าได้ แม้... ในยามที่โลกภายนอก *โลกโศกศิวิไลซ์* จะหมุนไปเกรียวกิเลสแทบมอดมลายหายวับ ไปกับตามวลมนุษยชาติแล้วก็ตามที แต่มนุษย์ผู้คิดว่าตนแสนฉลาดล้ำ ก็ยังหาได้มีปัญญามีดวงตาเห็น แสงแห่งธรรม ธรรมชาติ ที่เพียรเฝ้าสอนสัจจธรรม ฤาก็หาไม่ ยังคงหลงในกิเลส แห่งการแย่งชิงทำลายล้าง สร้างความวิปโยคโศกสะเทือนใจ ไปทุกธุลีหล้า ทุกข์หย่อมหญ้า แม้นในแผ่นดินไทยไท แผ่นดินธรรม แผ่นดินอันให้อิสราเสรี มี...น้ำใจเผื่อแผ่เมตตา รัก.. ทุกชาติศาสนา ให้อาศัยร่มไม้ชายคารัฐ..รัตน์ ได้.. อยู่มาอย่างร่มเย็นเป็นสุขช้านาน ชั่วลูกหลาน...หลายชั่วบรรพ.. ทุกคนดี... พุดพัดชาสะเทือนใจจนน้ำตาจะไหล ในเช้าวันหนึ่งที่ได้ยินข่าว สองครูสาวผู้บริสุทธิ์ เสียสละอุทิศตน ให้กับชาติกับแผ่นดิน อย่างรู้กตเวทิตาคุณ อย่างผู้มีหัวใจดวงทอง ดวงผ่องแผ้ว ดั่งเพชรแพร้วพรรณราย เพื่อฉายฉานแสงเทียน แสงทอง แสงธรรม ให้อบร่ำ เฝ้าพร่ำสอน เพียรเพาะบ่ม ให้ลูกศิษย์มิหลงทาง ได้เดินไปบนเส้นทางสีขาวที่ แสนงามพราวด้วยคุณธรรมแห่งความดี ความงาม ในท่ามโลกมายาแล้งลวง เพื่อ.. ต้านกระแส การหลงโลกวัตถุ โลกที่แท้แล้วไซร้ กำลังพามวลมนุษยชาติ ลงเหวร้าย แห่งความฉิบหายสูญเสีย ที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ผลาญพร่าทั้งทรัพยากร ให้โลกแล้ง เหมือนแกล้งให้โลกพิโรธกี่ครั้งครา ก็หาได้มีจิตสำนึกไม่ พุด..ขอน้อมจิตกราบกรานคารวะ บูชาแด่ดวงวิญญาญผู้เสียสละ แด่แผ่นดินด้ามขวานทอง ขอให้ปองปวงคนดี มีคุณธรรม ที่ยอมพลีร่าง น้อมนำสอนสัจจธรรม แม้นจะปราศจากลมหายใจระรินร่ำ ก็ยังคงมีหยาดน้ำตาแห่งเราทุกคน ผู้อยู่ ณ..เบื้องหลังพร้อมกันหลั่งรินคารวะ ขอให้สวรรค์รับดวงจิตของผู้กล้าเหล่านั้น ให้เสวยบุญ บารมีที่ได้พลีเพื่อแผ่นดินไทยด้วยเทอญ... พุดพัดชา...จึ่งขอน้อมจิตน้อมใจคารวะ แด่..คุณครูคุณธรรม ผู้สร้างสรรจรรโลงโลก ด้วยดวงใจที่แสนซึ้งเศร้าโศกสะเทือน หากแสนผ่องพราว ด้วยความภาคภูมิปิติใจ..ในทุกค่าแห่งคน ที่ตนได้เรียนรู้บูชา เพื่อเป็นศรัทธานิรมิต สร้างดวงจิตดำเนินรอย..ตาม..ค่ะ