รจนาบทกวีเดียวดาย ในคืนไร้สิ้นแสงดาวไสว มีเพียงฟ้ามืดสนิทใจ จันทร์ในฤทัยลาลับดับดวง.. ลั่นทมโชยกลิ่นหอมเศร้า พุดซ้อนรานร้าวปลิดกลีบร่วง โมกค้อมดอกพลีพวง ดวงดอกปีบบีบหัวใจ สิ้นเสน่หาการเวก เลิกเสกมนตราหวามไหว รอเพียงวันพรากจากไกล เสมือนหัวใจ..ใครรอ วสันต์ลากี่ฟ้าแล้ว พร่างพรมดวงดอกแก้วผลิช่อ กี่เดือนปีแล้วละหนอ หวานพ้อหวานพรายในสายลม.. หลับตา.. ให้ดวงดอกไม้ในจินตนาหอมห่ม กี่วันกี่ปีลบเลือนตรม พรพรหมจัก...เมตตาประทาน....!!!!! ...................... ค่ำคืนที่เงียบเหงา ฟ้ามืด..สนิท ฝนตั้งเค้ามา..ทะมึน ฉัน..ออกไปยืนแย้มยิ้มริมกอกล้วย ที่ไม่นานนี้.. ฉันเพิ่งตัดเครือใหญ่ ลงมาจ่ายแจกไม่หวาดไหว ให้ใครต่อใครได้ลองลิ้มชิมรส หลังรอมาแสนนานเดือน ฉันทายทักสวนขวัญในดวงใจ.... สวนที่แสนยิ่งใหญ่ภายในใจฉัน สวนที่ฉันรดน้ำด้วยรักปลูกด้วยชีวิต มานานเนิ่นเกินนับนึกในฤดี... และ..กับ รู้สึก ในราตรีนี้ ที่ดูราวทุกดวงดอกกำลังร่ายฟ้อนระบัดใบ เพื่อไหวรอ..ออดอ้อนละออละอองสายวสันต์.. อันคือสายน้ำสวรรค์..ที่เป็นดั่งนิรันดร์รักแท้.... แด่.. พืชพรรณ แลมวลมนุษยชาติ... ให้ยังคงดำรง...ธำรง..สืบไป .......................
26 พฤษภาคม 2550 09:22 น. - comment id 701676
วันนี้มีความสุขที่สุด มือได้เปื้อนดิน จัดสวน..สวยของใจเรานะ เฟื่องฟ้าสดสีสดใสสดสวยสามสี.. แดง ส้มชมพูและขาวบานแฉล้มแกล้มใจเรา และตัดกับท้องฟ้าสว่างไสวสีน้ำเงินเข้ม..แสนงาม..กระจ่างใจ... โมก..สลัดใบกราวเลย เหลือดอกผลิติดก้านกอกิ่ง ขาวนวลพรายพราวหอมละมุน.. การะเวก..เราปล่อยให้เลื้อยพัน พ้นระแนงจนออกดอกดกละออนวลทองสยายพราวราวคนขี้เกียจ.. กล้วย..ต้นใหญ่มาก อวบอิ่มน้ำ ใบเขียวสดสบัดตามลมจนแตกลายรายริ้ว.. เราปลูกพ้อรอคนไกล ตั้งแต่แทงหน่อ ออกปลี ออกเครือ จนวันนี้ลูกเหลืองสวยอุดมด้วยวิตามิน..ย้อยระย้า.. รอคนไกลกลับมาปลิดกิน.. หรือไม่ก็ให้เรานี้นำไปบวชชียามชีช้ำใจกินกันวันเศร้าไง ไหนจะมะลิซ้อน มะลิลาช้อนหน้าท้าแดดอ่อนอุ่นโลมเล้า ราวสาวบริสุทธิ์ไร้มือชายเชยชมมาดมดอมหอมนวล.. วาสนา ที่ออกดอกโค้งงอ คลอดิน รอวาสนารักให้สมหวังดั่งฝันดั่งใจนี้..ที่เฝ้ารักเฝ้ารอ..มาแสนนาน.... กุหลาบ..แดง ..ดอกใหญ่.. เผยอคลี่กลีบหวานบานออกจากช่อตูมตั้ง สยายฝันรอรับหวานจากหยาดน้ำรัก จากใจมือนี้ที่รินรด..ค่อยๆหยดหยาด..ให้หยดค้างบนกลีบดอก.. ราวหยาดน้ำตาจากฟ้าจากใจขวัญ พุดสามสี..ม่วงโศกราน..บานแข่งกับหวานอมชมพู..ของชวนชม.. กุหลาบทะเลทรายที่ให้ดอกดกพราวราวไร้ใบทั้งปี ให้เรานี้ได้เด็ดดมมาลอยในแก้วสีฟ้าใส ตัดฉับกันกับหวานสวยของดวงดอก..ดอกดวงละมุน.... นั่นไงผีเสื้อ..บินว่อนร่อนถลามาเกาะกิ่งโมก.. แอบดูเห็นนกเขาคู มาเกาะขอบอ่างใหญ่ที่เราใช้ลอยดอกไม้หวานยามมีงานปาร์ตี้บนระเบียงนี้.. ยังมีอีกมากมวลหมู่พฤกษาที่เรานี้หนา พยายามหามาทำให้บ้านเราราวอยู่ในไพรพฤกษ์พงดงไม้งาม ให้ใจหวามไหว ไว้เขียนเรื่องรักฝันในจินตนาการ.. ให้หวานหวามตามใจไฟฝันนี้ที่คงยากที่จะมอดดับ... ดวงใจ.. เทพยดาพฤกษ์ไพรในวิมานวนา กำลังเมตตาปรานีประทานพร มาห้อมล้อมให้ฝ่าฟัน ให้ไม้ใบนับร้อยพันใน*สวนสรวงแสนขวัญ* ราวเรือนยอดไม้ได้เริงร่ายระบำ ระบัดพัดพลิ้วร่ายรำรับขวัญรับพรออดอ้อนอวดงาม เถาวัลย์พาดพันเกี่ยวเลี้ยวลด มากระซิบบอกรักทายทักเจ้าของสวนสวยราวสวรรค์สรวง ให้ลาล่วงเมืองหลวงเมืองลวงคืนหลังกลับมา
26 พฤษภาคม 2550 09:36 น. - comment id 701677
กระท่อมใบไม้! กระท่อมใบไม้.. แฝงตัวอยู่บนเนินผา ในหุบเขา..พะงันงาม.. ที่ปกคลุมด้วยพันธุ์ไม้เมืองร้อนนานาชนิดสูงใหญ่ เป็นช่อชั้น ราวป่าดงดิบสลับสล้าง..ใบไม้เขียวพร่างระยิบระยับ..ไปทั้งราวป่า และ... งามจับตายามถึงคราฤดูใบไม้เปลี่ยนสี...ที่มีเสียงจิ้งหรีด เรไร ดนตรีไพรดนตรีธรรมชาติและสายลมอันอ่อนโยนละมุน หอมกรุ่นกลิ่นดอกไม้ไพร..อวลไกล..ในยามค่ำ.. ..... ยามเช้า... ยามอุษาฟ้ากระจ่าง.. เมื่อดวงตะวันสาดแสงสีทอง อันอ่อนอุ่นมาแตะแต้มทายทักโลก.. มวลหมู่นกกา..พลันพรึบพรูโผผินบินว่อนร่อนจากรวงรังออกหาเหยื่อ.. .. สัตว์ป่านานา..ก็พากันเที่ยวท่อง.. จดจดจ้องจ้องออกล่าเหยื่อ..เฉกเช่นกัน เป็นวิถีอันเป็นธรรมชาติเพื่อดำรงรอด.. ไพรกว้างเงียบงาม.... ซ้องผสาน..เสียงเพลงไพรเสียงสัตว์ไพร ขับขาน ทั้งดุร้ายและหวานเศร้าคละเคล้าดำดิ่งลึกล้ำงามเงียบไห้ไหยหวน. สู่ห้วงหฤทัยผู้รักไพรพงเป็นชิวิตจิตใจ.. ธรรมชาติ..เปิดม่าน.. หวานหวานหว่านมนตราเริ่มตั้งแต่ยามทิวา อรุณรุ่ง มุ่งสู่ราตรีที่ฟ้ากว้างประดับด้วยทางช้างเผือก.. ระดะดาวพราวพร่างเต็มอ้อมฟ้าเต็มอ้อมฝัน..พริบพราวเคล้า นวลจันทร์กระจ่างฟ้า..เล้าโลมหล้าโลก ให้มวลมนุษย์คลายโศกหรือยิ่งเศร้าหม่น สุดแต่คน..แต่ใจใคร..จะไขว่คว้า กระท่อมใบไม้.. งามง่าย หลังคาจาก โครงเคร่าใช้ไม้มะพร้าวที่หักโค่น.. มาเป็นเสาค้ำตั้งรับสอดประสาน...ใช้ทุกส่วนให้งามอย่างคุ้มค่า ฝา..คือไม้ไผ่ขัดแตะอย่างละเอียด และยิ่งละเมียดละไมด้วยเสื่อจูดสานสวยซ้อนทับ..อีกชั้น.. กันสายฝนแรงรับลมพายุ.. ไม่มีโต๊ะ ตั่งเ ตียง..มีเพียงเสื่อสานละเอียดปูฟูกที่นอนขาว กับหมอนอีกใบ.. มีมุ้งที่บัดนี้หอบขึ้นไปผูกไว้ ยามมิได้ใช้งาน..ก่อนนอน.. หัวนอน.. มีขอนมะพร้าว..เตี้ยๆไว้วางของจุกจิกไม่กี่ชิ้นจำเป็น มีตะเกียงเทียนเหลือเทียนครึ่งเล่ม..เพียงนั้น กับขันทองเหลืองที่เจ้าของกระท่อมทับ ใช้จัดใส่ดอกไม้ไทยรายรอบนานาพรรณ ที่บัดนี้พลันพากันมาหอมอวลคละคลุ้ง จรุงไปทั่วทั้งกระท่อม กับสายลมเย็นยามค่ำ กับยามที่พรายวสันต์เพิ่งราเม็ดพร่างพรมห่มไปทั่วทั้งราวไพร..ให้ฉ่ำเย็น.. ทางขึ้นกระท่อมนั้น.. ดังพรมสวรรค์สีเขียว..ของหญ้ามอสส์สอดแทรก ตามปุ่มปมหินแง่งาม ที่เกาะเกี่ยวให้ไต่ตาม ค่อยๆเลี้ยวเลาะ.. ให้สงบ..ให้ผ่อนคลาย ... ทุกก้าวย่าง...ในอ้อมเขียวเรียวไพลเรียวใบไม้ไหวระยับ.. ทุกฝีเท้า..ของผู้โชคดี... ที่ได้ละลดวางและหลีกลี้หนีจากความวายวุ่นจากสังคมเมือง.. เสมอเหมือน กำลังได้สลัดแอกใจ อันอ่อนล้า ที่โหยหา แสวงหาธรรมชาติเย็น.. ชุบชื้นชื่นชีวีต..ชุบดวงจิตดวงใจ ชุบจิตวิญญาณ ชุบใสงามดื่มด่ำฉ่ำเย็น ให้ระรินไหลเข้าเบื้องลึกภายใน ให้พลันสดใสตระการราวแก้วงามแก้ววิเศษ ที่จะพรายพร่างนำทางใจ..สู่ สว่างใส สงบ.พบ.ร่มชีวี.. ที่ดั่งหยาดน้ำทิพย์..ที่ละลายร่าง ไร้ร้างตัวตน ให้ห่างจากความยึดมั่นถือมั่น ในทุกวันทุกสิ่งมากมีที่ไม่จีรังยาวยืน.. ร่างกาย.. ร้อนรน..ได้ผ่อนคลาย ดวงใจได้นิ่งงันผ่อนพัก พึ่งพิงธรรมชาติไพร เกิดใสงามสวยสดเป็นธรรมดาใจธรรมชาติงาม..อันมิรู้สิ้นรู้จบ ......... เส้นทางสายสวย..สู่กระท่อมใบไม้. ราวเส้นทางสายสวรรค์สรวง กระท่อมใบไม้ ...ที่ไร้ร้างในสายตาคนเมือง ผู้นิยมวัตถุมากมี..หามาประดับบารมีให้เป็นที่ยอมรับนับหน้าถือตา. กระท่อมใบไม้.. ที่ไม่สิ้นเปลืองผลาญพร่าทรัพยากรธรรมชาติ หากเพียงแค่ได้เอนอิงเอื้อโอบใจไปพร้อมกัน..เป็นหนึ่งเดียว.. ให้นวลเนื้อใจละไมละมุน..ในงามง่ายนั้นมิมีวันสิ้นสุดรัก..สุดงาม! ........... กลางกระท่อม.. กลางเงาเทียนวูบไหว ในร่มเงาไม้ให้สงบเงียบ มีร่างงามเรียบนอนสยายผม มีดวงดอกไม้แนบนวลแก้ม มีเรียวรอยยิ้มพริ้มพราย คล้ายรอรับจูบละเมียดละไมจากชายในฝันในดวงใจ.. ..................... ตามมาสิทุกดวงใจ.. มาฟังเสียงนกไพร ฟังเสียงดุเหว่าแว่วหวาน ดูเงาดาวทอแสงนวลใย แข่งกับหยาดเพชรพราวในดวงตาดวงใจของนางไพรอันเป็นที่รัก ยามสะอื้นอ้อนหารักครางครวญ.. พระจันทร์หวานคงอิจฉา.. ราตรีคงเงียบงัน... ฟากฟ้านั้นเลิกหมองหม่นชั่วครู่ ลมคงหยุดพัดไหว ใบไม้คงปลิดปลิวโปรยพร..เพื่อสองเรา..ตราบชั่วกาล..
26 พฤษภาคม 2550 09:42 น. - comment id 701684
26 พฤษภาคม 2550 09:49 น. - comment id 701688
อิ่มคำใหญ่...กับบรรยากาศที่เป็นใจอยู่ในสวน
26 พฤษภาคม 2550 10:12 น. - comment id 701700
พุดไพรขอพลีมอบภาพทุกภาพ แด่ทุกดวงใจที่ยังมีสวยสวยงามสงบ ณ..ภายใน ณ..กลางใจ..นะคะ และ.. พิเศษพิสุทธิ์สำหรับคุณ*อินสวน* ที่พุดรักแสนรักนามปากกาคุณเหลือใจแล้วค่ะ พร้อม.. คิดถึงคำแสน.*สวนทูนอิน*ของยอดนักเขียน ผู้ยิ่งใหญ่*คุณรงษ์ วงศ์สวรรค์*ค่ะ พุด..พลีใจคารวะ ขอน้อมนำคำงามจากบทกวีที่งามงด ของคุณเรวัตร์ พันธุ์พิพัฒน์* กวีซีไรท์ มาวางกำนัลแทบอกแทนใจค่ะ จาก..บทหนึ่งใน*นกชีวิต* เรือนเกิดกายหลังนั้น ถูกรื้อถอนไปนานเนิ่นแล้ว แต่เหตุใดเล่า คนสวนยังคงเฝ้าฝันถึงการพายเรือข้ามฟาก เพื่อไปขึ้นฝั่งยังหน้าเรือนไม้เก่าหลังนั้น หอมกรุ่นกลิ่นควันไฟในครัวหัค่ำ ซ้าแล้วซ้ำเล่ากว่าสองทศวรรษ เรืออีโปงผุกร่อนที่แหวกผ่านกระแสคลื่นกรากเชี่ยว ในห้วงดวงใจโดดเดี่ยวหวาดหวั่นลึกล้ำ ย้ำรอยฝันพันฝนอันมิเคยข้ามผ่าน.. ................ ................... ด้วยซึ้งใจค่ะคุณอินสวน...
26 พฤษภาคม 2550 10:22 น. - comment id 701705
ไม่นานวัน..ผ่านมา พุดไพรได้ไปเดินท่องป่าใหญ่ไพรกว้าง ที่แสนสล้างฝันในท่ามสายวสันต์ลีลาค่ะ งามเกินกว่าจักหาคำบรรยาย พุดไพรจะรจนามาฝันฝากคลอใจ ในไม่นานช้านี้ค่ะ พร้อมภาพผ่านเลนซ์ จากดวงใจสายน้ำรักนิรันดร์ ระยะนี้.. วิญญาณกวีกระวาด..นักอยากจะเขียน หายหด.. เพราะพรหมบัลดาลฟ้าเมตตา ประทานเงินตรา..ให้มามากมาย หาก.. ไยเล่า..ใจดวงร้าวถึงจำต้องปฏิเสธ... โอ้เพรงพรหม พรพรหม... ลูกขอก้มกรานกราบ..ด้วยแสนซาบซึงใจ ลูกขอเพียงเวลา..ตัดสินใจค่ะ
26 พฤษภาคม 2550 16:11 น. - comment id 701844
แวะมาเที่ยวชมสวน..และชมกวีที่งดงามค่ะ..
26 พฤษภาคม 2550 22:45 น. - comment id 701982
แวะมาเที่ยวสวนตามเคย
15 มิถุนายน 2550 23:56 น. - comment id 710782
สวยมากๆๆคะ มีความสุขเมื่อชม