ธรรมดาสามัญคิดกันเสมอ ทั้งฉันเธอนิสัยใช่สีขาว เมื่อมองใครมักได้พบเรื่องราว ไม่สวยงามพริ้งพราวไปทุกคน แม้บางคนล้นน้ำใจใฝ่เกื้อหนุน หมั่นทำบุญสุนทานการกุศล ก็ยังเห็นจุดด้อยที่ปะปน มองว่าเขาเป็นคนอวดมั่งมี แม้บางคนจนยากมากปัญหา ทำการค้าขาดกำไรทุนหายหนี จับงานใดก็เป็นไปเสียทุกที ก็มองว่าเขานี้ไม่หมั่นเพียร ธรรมดาที่จะหาข้อตำหนิ รอยด่างดำแตกปริมาเล่าเขียน จุดเล็กน้อยเพียงไหนที่แนบเนียน ก็วนเวียนสนใจจนได้ความ ความเพียรนั้นหากหันมาสำรวจตน และขุดค้นรอยด่างดำตั้งคำถาม ว่าเหตุใดยังมีความไม่งาม อยู่ติดตามตัวเราได้อย่างไร หันกลับมาหวังดีชีวีตน มุ่งฝึกฝนขัดเกลาให้สวยใส ชีวิตคงจะดีขึ้นทันใด และสิ้นไร้รอยด่างอย่างน่าอาย
27 มีนาคม 2550 20:18 น. - comment id 677168
... น้อมฟังคำสอนสั่งจากหวังดี มองตัวเองอีกทีจึงได้เห็น สิ่งมากมายร้ายดีที่ซ่อนเร้น ค่อยหล่อหลอมคล้ายเป็นเช่นสันดาน จะทบทวนเส้นทางเคยห่างทิ้ง คือความจริงแต่ไม่จำทำเลยผ่าน ชำระรอยดื้อรั้นของวันวาน และสร้างสานชีวิตด้วยคิดดี ไม่มองตัวด้วยตาว่าข้ารู้ ฟังหนึ่งหูเว้นไว้ไม่ผลามผลี จะไตร่ตรองทบทวนให้ถ้วนถี่ ควรมิควรใจนี้จะตริตรอง ขอละเลิกเอาแต่คิดจับผิดเขา มีแต่ดึงตัวเราสิ่งเศร้าหมอง จะทำดีสร้างสรรค์ตามครรลอง ใช้หัวใจกรั่นกรองความชั่วดี ... สวัสดีครับ ตอบมากไปรึเปล่า หนอ
27 มีนาคม 2550 21:32 น. - comment id 677191
มาน้อมรับฟังความหวังดีด้วยคนค่ะ..พี่ดอกแก้ว.
27 มีนาคม 2550 21:40 น. - comment id 677201
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ครับยอดหญิงแห่งธรรม แก้วประเสริฐ.
27 มีนาคม 2550 21:51 น. - comment id 677209
แวะมาทักทาย ไพเราะดีจังครับ
27 มีนาคม 2550 23:03 น. - comment id 677230
นำไปใช้ได้ดีเลยครับ.....น้อมรับความหวังดี
27 มีนาคม 2550 23:08 น. - comment id 677234
มาฟังคำแนะนำดีๆ ครับ เอาไว้เตือนตัวเอง
27 มีนาคม 2550 23:56 น. - comment id 677255
ก่อนอื่นต้องหวังดีกับตัวเราก่อนใช่ไหมคะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะพี่ดอกแก้ว
28 มีนาคม 2550 02:25 น. - comment id 677290
แอบมาขโมยความหวังดีที่หลังบ้าน พี่ดอกแก้วค่ะ..อิอิ..
28 มีนาคม 2550 02:44 น. - comment id 677299
...มองตน...และปรับที่ใจเรา..... มารับความหวังดีจาก..พี่ดอกแก้วค่ะ..คิดถึงนะคะ...
28 มีนาคม 2550 05:29 น. - comment id 677310
สวัสดีค่ะ...พี่ดอกแก้ว แวะมาอ่าน...มาสวัสดีพี่ก่อนไปทำงานค่ะ
28 มีนาคม 2550 06:00 น. - comment id 677316
ความหวังดีมีให้ได้เสมอ ขอเพียงเธอรู้จัก...รัก...จริงใจ ความเป็นเพื่อน..หวังดี..มีมอบให้ ทั้งห่วงใย..คิดถึง..ไม่เคยลืม ...แต่งตอบพี่แก้วแบบนี้คงไม่ว่ากันนะคะ
28 มีนาคม 2550 08:36 น. - comment id 677374
กานต์รักกลอนบทนี้ค่ะ ขอเก็บนะคะ ชอบตั้งแต่บทแรกยันบทสุดท้ายเลยค่ะ หวังดีต่อตนเองก่อนแล้วค่อยหวังดีต่อคนอื่น ได้ไหมคะพี่สาว
28 มีนาคม 2550 10:18 น. - comment id 677426
มารับความหวังดีจากพี่ดอกแก้วค่ะ รับเอาไปหมดแบบไม่เกรงใจนะค่ะ พี่ดอกแก้วสบายดีนะคะ
28 มีนาคม 2550 13:10 น. - comment id 677517
ความหวังดี จากกลอน ของดอกแก้ว คงไม่แคล้ว ต้องทำตาม พี่สอนไว้ เพราะรักตัว รักพี่ รักคนไทย จะอยู่ได้ สังคมดี มีน้ำใจ
28 มีนาคม 2550 15:52 น. - comment id 677572
เข้ามาเยี่ยมเยียนเสพกวีธรรม และทักทายมิ่งมิตรครับ พี่ดอกแก้วคงสบายดีนะครับ
28 มีนาคม 2550 15:54 น. - comment id 677574
@...ปักษาวายุ... หากใช้ตามองเขาเฝ้าจับผิด ก็หมดสิทธิ์มองตนเพื่อค้นหา สิ่งบกพร่องที่มีด้วยปัญญา ยิ่งมองเขายิ่งล้าและเครียดครอง หากมองตนค้นหาว่าสิ่งไหน ยังไม่สวยสดใสและหม่นหมอง รีบแก้ไขให้เกิดประกายทอง ทั้งเรามองผู้อื่นมองก็สุขใจ ความหวังดีควรมีที่ตนก่อน มุ่งถ่ายถอนสิ่งเสียในนิสัย แต่ละคนทำตนดีมากเท่าใด ส่วนรวมก็สดใสด้วยความดี ความหวังดีก็ควรมีแก่ผู้อื่น คือหยิบยื่นเส้นทางสร้างสุขศรี แนะนำใครใช้วาจาสร้างไมตรี และตนนั้นต้องดีก่อนแนะนำ ห่างหายจากการทักทายกันไปนานเลย ...สวัสดีค่ะปักษาวายุ คำตอบไม่มากไปหรอกค่ะ ..ชัดเจนทุกแง่มุมทีเดียว โดยเฉพาะท่อนที่ว่า .. "ไม่มองตัวด้วยตาว่าข้ารู้ ฟังหนึ่งหูเว้นไว้ไม่ผลามผลี จะไตร่ตรองทบทวนให้ถ้วนถี่ ควรมิควรใจนี้จะตริตรอง" เป็นการแสดงถึงความไม่ประมาทอย่างชัดเจนเลยค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่มาร่วมเขียนไว้ในงานของพี่ ขอให้มีความสุขค่ะ..ปักษาวายุ
28 มีนาคม 2550 15:54 น. - comment id 677575
@...กุหลาบขาว... ความหวังดี ..คำนี้คนชอบใช้ และส่วนใหญ่ใช้แล้วมักหวังผล ต้องการให้ผู้อื่นคิดเหมือนตน ปัญหาจึงมากล้นเพราะหวังดี สวัสดีค่ะกุหลาบขาว ความหวังดีกับผู้อื่น..เป็นสิ่งดีที่ แต่บางทีก็เกิดผลเสียถ้าไม่เข้าใจกัน แต่ความหวังดีกับตนเอง...เป็นสิ่งที่ดีกว่า เพราะเวลาที่เสียเป็นการใช้เพื่อพัฒนาตนเองให้เป็นคนดี ขอบคุณที่แวะมาอ่านและทักทายนะคะ ขอให้มีความสุขความสบายใจค่ะ
28 มีนาคม 2550 15:55 น. - comment id 677576
@...คุณแก้วประเสริฐ... ความหวังดีที่มีอาจเป็นพิษ หากไม่คิดรอบคอบกอปรเหตุผล เพราะส่วนใหญ่ใช้อคติของตัวตน เป็นเหตุผลกล่าวอ้างสร้างหวังดี สวัสดีค่ะคุณแก้วประเสริฐ ขอบพระคุณมากนะคะที่แวะมาทักทาย ขอให้มีความสุขนะคะ
28 มีนาคม 2550 15:55 น. - comment id 677577
@...นายธนา... หากมองเขามากไปใจเราแย่ อาจเห็นแต่เสื่อมทรุดฉุดใจเฉา อยากแก้ไขให้เป็นไปตามใจเรา จึงต้องเศร้าที่สิ่งนั้นพลันสวนทาง สวัสดีค่ะ นายธนา ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่แวะเข้ามาอ่านและทักทาย ขอให้มีความสุขกายสบายใจค่ะ
28 มีนาคม 2550 15:57 น. - comment id 677578
@...อัสสุ... บางครั้งเราเสียเวลาไร้ค่านัก เฝ้าฟูมฟักบางสิ่งอย่างไร้ผล และหงุดหงิดกับเรื่องราวของบางคน หากหันกลับย้อนดูตนก็คงดี สวัสดีค่ะอัสสุ ธรรมดาของสายตา..ที่มักถูกใช้เพื่อมองผู้อื่น จึงเห็นจุดเด่นและจุดด้อยของผู้อื่นชัดเจนมาก และธรรมดาของผู้ที่มีปัญญา ..นอกจากจะใช้สายตาอย่างไม่ให้เกิดโทษแล้ว ยังรู้จักมองตนด้วยความหวังดีได้อีกด้วย ขอบคุณมากนะคะที่มาร่วมทางเพื่อการพัฒนาตนเอง ขอให้มีความสำเร็จในชีวิตค่ะ
28 มีนาคม 2550 15:56 น. - comment id 677582
@...ร่มสัก... มนุษย์นี้ใช่ดีสมบูรณ์แบบ มีข้อเสียซ่อนแอบในนิสัย ความหวังดีบางครั้งที่ก่อภัย เพราะเกิดจากจิตใจไม่หวังดี สวัสดีค่ะร่มสัก ยินดีที่ได้พบกันนะคะ ... และขอบคุณมากด้วยค่ะที่ชอบงานชิ้นนี้ ขอให้มีความสุขและความปลอดภัยในการใช้ชีวิตนะคะ
28 มีนาคม 2550 15:58 น. - comment id 677585
@...เฌอมาลย์... ทำตนเองให้พร้อมเพียงทุกสิ่ง ก่อนท้วงติงผู้อื่นยื่นข้อหา เมื่อตนดีบ้างแล้วจึงถึงครา ช่วยเขาแก้ปัญหาอย่างหวังดี สวัสดีค่ะน้องเฌอ คนเรามักจะอ้างว่า..ทำอย่างนั้นอย่างนี้ด้วยความหวังดี อยากให้คนนั้นคนนี้แก้ไขนิสัยที่แย่ๆ .. แต่มีมากมายที่ไม่ประสบผลดีและเป็นสิ่งที่ผู้รับไม่พึงปรารถนา ความหวังดีที่ปลอดภัยที่สุดก็คือ การหันกลับมาแก้ไขสิ่งบกพร่องของตนเอง เพื่อมิให้เกิดความเสียหายในชีวิต...ซึ่งตรงนี้มิใช่ความเห็นแก่ตัว แต่เป็นการพัฒนาตนเพื่อความสุขของส่วนรวมอีกประการหนึ่งด้วย ขอบคุณมากนะคะน้องเฌอที่แวะมาทักทายพี่ดอกแก้วเสมอ ขอให้น้องเฌอมีแต่ความสุขและความราบรื่นในชีวิตค่ะ
28 มีนาคม 2550 15:59 น. - comment id 677587
@...ปราณรวี... บางคนเห็นข้อเสียของผู้อื่น มุ่งหยิบยื่นรักษาในข้อเสีย ทุ่มเทสนใจเขาจนอ่อนเพลีย และโกรธเขาหัวเสียที่ไม่รักดี เห็นหลังไวๆ ไล่ตีขโมยไม่ทัน ..สวัสดีค่ะปราณรวี ความหวังดี..บางทีก็เหมือนโซ่ตรวนที่ผูกมัดผู้อื่นนะคะ เพราะในความหวังดีนั้นมักจะมีการหวังผลในเบื้องปลายด้วย ถ้าคนที่เราหวังดีเขารับไมตรีนี้ได้ ..ก็ดีไป แต่ถ้ารับไม่ได้ ..ก็ทะเลาะกันไป ฉะนั้น ก่อนที่เราจะทุ่มเทเพื่อแก้ไขใครจนสุดโต่ง ก็ควรทุ่มเทเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องของตนเองด้วยจะได้ไม่ขาดทุน ขอบคุณค่ะที่แวะมา..ขอให้มีความสุขใจมากๆ นะคะ
28 มีนาคม 2550 15:59 น. - comment id 677589
@...น้องราชิกา... พระมหาบุรุษสุดประเสริฐ เมื่อบังเกิดเมตตามหาศาล ได้สร้างสมบารมีหลายกัปกาล หวังดีตนก่อนเจือจานสู่เวไนย สวัสดีค่ะน้องราชิกา สบายดีหรือเปล่าคะ ตอนนี้อากาศร้อนมากแล้ว ...โรคภัยที่เนื่องมาจากความร้อนคงมีไม่น้อยเลย ขอให้น้องราชิกามีความเย็นกายเย็นใจอยู่ในร่มพระธรรม และน้อมนำเจือจานความดีและความสุขไปสู่ผู้อื่นได้ตลอดไปนะคะ ขอบคุณมากนะคะที่แวะมาทักทาย
28 มีนาคม 2550 16:00 น. - comment id 677592
@...น้องนาง เพรง.พเยีย... เพียรหวังดีที่มีต่อผู้อื่น อาจหยิบยื่นแผลใจให้สนอง เพียรหวังดีต่อตนบนครรลอง คือเลี่ยมทองหัวใจไว้ที่ตน สวัสดีค่ะ น้องนาง พี่ดอกแก้วประทับใจในเรื่องราวของพระพุทธประวัติมาก โดยเฉพาะมโนปณิธานที่ทรงต้องการช่วยผู้อื่นให้พ้นทุกข์ แต่จะต้องทำตนให้เป็นที่พึ่งของผู้อื่นได้เสียก่อน ไม่ใช่เพ่งมองเพื่อตำหนิหรือมุ่งจะแก้ไขคนอื่นเพียงอย่างเดียวโดยไม่พัฒนาตนเอง ขอให้มีความสุขกับการทำงานและผู้ร่วมงานนะคะ
28 มีนาคม 2550 16:01 น. - comment id 677594
@...ฝากรักฟากฟ้า... ถ้าหวังดี ไม่มีการหวังผล แต่ละคนคงสุขใจไร้ปัญหา ความหวังดี ที่ไม่เหมาะเวลา อย่าทำเลยดีกว่า เพราะไม่ดี สวัสดีค่ะ ฝากรักฟากฟ้า ยินดีที่ได้พบกันค่ะ ไม่ว่าหรอกค่ะที่เขียนตอบอย่างนี้ เพราะในแง่ของความหวังดีที่ไร้การหวังผลเช่นนั้น...เป็นไมตรีที่น่าชื่นชมมาก แต่ความหวังดีที่เป็นข้ออ้างและมีการหวังผลสิคะ ที่เป็นการกระทำที่ให้ผลเสียมาก สู้เราเอาเวลาที่ไปคอยจับจ้องมองคนอื่นด้วยความหวังดี กลับมาดูแลตนเองดีกว่า ได้รับความสบายใจและไร้ปัญหาทะเลาะเบาะแว้งอีกด้วย
28 มีนาคม 2550 16:02 น. - comment id 677596
@...น้องกานต์ หมูน้อย... ความหวังดีบางทีเป็นหวังร้าย หากแส่ส่ายจับผิดคิดว่าเขา หวังดีตนเองบ้างล้างคราบเงา แล้วค่อยหวังดีเขาอย่างสุขใจ สวัสดีค่ะน้องกานต์คนดี ความหวังดี..บางครั้งก็ต้องดูผู้รับเหมือนกันนะคะ ถ้าเขาไม่พร้อม ..แทนที่จะดีก็จะทำให้เสียหายมากขึ้น อย่างไรก็อย่าลืมหวังดีมีเมตตาตนเองด้วย เพราะตนเองไม่มีความดีความสุขแล้ว จะทำให้คนอื่นมีความสุขได้อย่างไร ขอบคุณมากนะคะน้องหมูน้อยคนดี ที่ตามมาให้กำลังใจกันเสมอ
28 มีนาคม 2550 16:03 น. - comment id 677597
@...ครูพิม... ความเป็นครูทำให้รู้ข้อดี-เสีย บางครั้งเพลียเพราะต้องตามแก้ไข จึงต้องหันกลับมาสร้างพลังใจ หวังดีตนแก้ไขใจที่เพลีย สวัสดีค่ะครูพิม พี่ดอกแก้วชื่นชมชีวิตครู..เพราะครูเป็นอาชีพของผู้ให้ด้วยความปรารถนาดี และหวังดีต่อผู้อื่นเป็นส่วนมาก จึงขอให้ครูทุกคนมีกำลังใจ และมีพลังอันเข้มแข็งที่จะทำหน้าที่นี้ต่อไปด้วยดี มีการหวังดีต่อตนเองด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอและเพิ่มพูนความอดทนให้ได้มากๆ ขอให้มีความสุขกับชีวิตของการเป็นผู้ให้นะคะ ครูพิม
28 มีนาคม 2550 16:03 น. - comment id 677599
@...ก่องกิก... แต่ละคนหวังดีตนเป็นหน่วยย่อย หนึ่งเป็นสิบเป็นร้อยเป็นหมู่ใหญ่ ความหวังดีที่กระจายอย่างปลอดภัย เพราะทุกคนมีใจที่หวังดี สวัสดีค่ะก่องกิก ในสังคมที่มากปัญหาและอากาศที่เริ่มระอุ หากคอยแต่จะตำหนิผู้อื่นและคิดแก้ไขผู้อื่นไปเสียทุกเรื่อง ความร้อนก็คงทวีขึ้นเพราะความขัดแย้ง แต่ถ้าหากต่างคนต่างคิดแก้ไขข้อเสียของตนเองเสียบ้าง ความสงบก็จะเกิดขึ้นได้มากท่ามกลางอากาศที่ร้อนระอุเช่นนี้ ขอบคุณมากนะคะที่แวะมาคุยมาเขียน ขอให้มีความสุขกายสบายใจค่ะ
28 มีนาคม 2550 16:08 น. - comment id 677604
@...บุรุษแห่งสายน้ำ ลำน้ำน่าน... หวังดีที่ดีแท้ คงมีแต่เมตตาธรรม ไร้โกรธโทษก่อกรรม สังคมสุขทุกวันคืน สวัสดีค่ะ บุรุษแห่งสายน้ำ เนิ่นนานจากการทักทาย..ดีใจที่แวะมา พี่ดอกแก้วสบายดีค่ะ และขอส่งความปรารถนาดีให้บุรุษแห่งสายน้ำมีแต่ความชื่นฉ่ำใจกายอยู่ในธาราธรรม ขอบคุณมากนะคะที่แวะมา
28 มีนาคม 2550 16:27 น. - comment id 677612
หวังสิ่งใด โปรดฟัง แลยั้งจิต อย่าอุทิศ ทุ่มหวัง สิ่งทั้งหลาย แม้นพลาดหวัง ยั้งทันมิอันตราย มิควรหมาย สมหวัง เช่นดั่งปอง อันหวังดี เช่นดัง หวังให้เด่น หวังให้เป็น หวังให้ไป อย่าให้หมอง หวังกับเขา หวังไว้ อย่างใจปอง อาจจะหมอง มิเป็นดั่ง เช่นหวังเรา ถ้าหวังดี หวังได้ อย่างใจคิด อย่าหวังจิต หวังใจ กับใครเขา ที่หวังได้ เต็มสิทธิ์ คือจิตเรา เพราะถึงเศร้า ด้วยพลาดหวัง ก็ยังดี. หายไปนานหลายวันเลยนะครับ..มวลสมาชิกหลายคนคงคิดถึง ถ้ามีเวลาน้อยแวะมาเยี่ยมอย่างเดียวก็ได้ครับ...ช่วงนี้สถานการณ์บ้านเมืองยังลุ่มๆดอนๆฝากพี่แก้วช่วยเขียนแนวๆการบริหารแบบวิถีพุทธบ้างก็จะดีมากครับ เคยได้อ่านแบบไม่ละเอียดของท่านพระพรหมคุณาภรณ์ ลิขิตไว้ดีครับ มีหลายเล่ม ใจจริงก็อยากศึกษาเรื่องต่างๆที่เกี่ยวข้องกับ หลักพระธรรมคำสอน ของพระพุทธองค์ให้เข้าใจบ้างก็ยังเริ่มไม่ถูกว่าจะเริ่มตรงไหนก่อน ถ้าพี่แก้วมีข้อแนะนำก็จะดีนะครับ อย่างน้อย ก็หวังกับตัวเรานี้น่าจะดีกว่าไปหวัง หรือไปฝากความหวังไว้กับคนอื่นๆ เพราะถ้าเรายังทำให้บรรลุความหวังของเราไม่ได้ ก็ยากนะครับ ที่จะให้คนอื่นทำได้อย่างที่เราหวัง...ท้ายๆนี้ก็ขอมชื่นชมผลงานของพี่แก้วอีกหนึ่ง บทที่อนาคต ถ้ารวมเล่มเป็นหลักการ แนวคิด ในการดำรงชีวิตก็อาจจะดีสำหรับคนนอก หรือคนทั่วไป..เพราะคิดว่าพี่แก้วตั้งเข็มการประพันธ์สะท้อนไปที่หลักปรัชญา หรือแนวคิดในการดำรงชีพเป็นหลัก หวังว่า อนาคตจะมีผลงานทางหน้าหนังสือตามห้าง ร้านหนังสือบ้างนะครับ..อย่างน้อยก็เป็นการสืบทอดแนวคิดความเป็นคนพุทธ หรือหลักปรัชญาวิถีพุทธเอาไว้มิให้สูญไป ...
28 มีนาคม 2550 16:43 น. - comment id 677622
วันนี้มาสวัสดีพี่ดอกแก้วค่ะ
28 มีนาคม 2550 17:24 น. - comment id 677640
ธรรมดาสามัญจิตมนุษย์ จะพิศุทธิ์สดใสไร้หม่นหมอง คงขึ้นอยู่ความคิดใช้จิตตรอง ให้ผุดผ่องสะอาดที่จิตตน ผู้ที่เข้าถึงจิต ผู้ที่รวมจิต ผู้ที่รู้จักจิต ผู้ที่เข้าใจจิต ก็คือผู้ที่เข้าใจโลกและมัจจุราช หรือเปล่าค่ะพี่ดอกแก้ว สวัสดีค่ะพี่ พี่สบายดีนะค่ะ บัวขอให้พี่ เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปค่ะ
29 มีนาคม 2550 16:07 น. - comment id 678113
@...อรุณสุข... คนละมุมที่มองของจุดยืน อย่าไปฝืนให้เขาคิดเหมือนฉัน มาตรฐานคนเรานั้นต่างกัน เรื่องส่วนตัวใครนั้นยากวอแว เพียรค้นหาข้อด้อยคอยเตือนเขา แต่ตัวเราเว้นไว้ไม่แยแส หวังดีกับผู้อื่นไม่เปลี่ยนแปร แต่ตัวเองต้องแย่ขาดพัฒนา บางครั้งช้ำซ้ำซากจากผิดหวัง น้ำตาหลั่งเศร้าหมองครองโทสา ความหวังดีที่ไม่สมเจตนา กลับกลายเป็นปัญหาระหว่างกัน ถ้าหันมาหวังดีที่ตนบ้าง เหนื่อยก็พักหนักก็วางกลางทางฝัน สร้างเสริมความสมบูรณ์ของชีวัน แก้ไขสิ่งร้อยพันที่ไม่ดี หวังอย่างนี้ยังพอมีความสมหวัง แม้บางครั้งเกียจคร้านพาลหน่ายหนี ก็ไร้สิ้นปัญหาการต่อตี เพราะทะเลาะกับตนนี้เสียงไม่ดัง สวัสดีค่ะอรุณสุข มีเวลาน้อยก็ยังอุตส่าห์แวะมาพูดคุยทักทาย ขอบคุณในไมตรีนี้เป็นอย่างยิ่งเลยนะคะ อ่านบทกลอนของอรุณสุขแล้วก็ชอบใจโดยเฉพาะบทสุดท้าย ..ที่รู้จักการปล่อยวาง และสำหรับเรื่องการศึกษาพระธรรมนั้น ถ้าหากจะให้ตอบว่าควรจะเริ่มศึกษาตรงไหน โดยทั่วไปก็ต้องตอบว่า สนใจตรงไหนหรือเห็นว่าอะไรสำคัญก็ให้ศึกษาตรงนั้นก่อน เพราะถ้าหากไม่มีความสนใจแล้วจะไปศึกษาตรงไหนก็ไม่เข้าใจและไม่สำเร็จ แต่เมื่อเข้าใจและเห็นคุณค่าแล้วก็จะพอมีกำลังใจศึกษาในเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป อย่างเช่นบางคนที่มีความทุกข์มาก ..ต้องการความสุขความสบายใจ ก็ต้องศึกษาในเรื่องของการสร้างความสุขให้แก่ชีวิต หรือบางคนสนใจเรื่องการปฏิบัติธรรมก็ต้องศึกษาเกี่ยวกับกรรมฐานทั้งสองประเภทคือ สมถะ และวิปัสสนา หรือบางคนสนใจในเรื่องของความละเอียดลึกซึ้งของชีวิต และต้องการทราบเหตุและปัจจัย ..ก็จะต้องศึกษาพระอภิธรรม เพื่อรู้จริงในเรื่องของชีวิต กรรม วิบาก การเวียนว่ายตายเกิด ตลอดจนเรื่องของการปฏิบัติเพื่อความพ้นทุกข์ จึงอยู่ที่ว่า อรุณสุขมีเป้าหมายศึกษาธรรมเพื่ออะไร และต้องการความสำเร็จในระดับไหน แม้พระพุทธองค์เองก็ยังต้องพิจารณาถึงอัธยาศัยของเวไนยสัตว์ก่อนที่จะทรงสอน ดังนั้น พระไตรปิฎกจึงมีมากถึง ๘๔๐๐๐ พระธรรมขันธ์ก็เพราะให้เหมาะแก่พุทธบริษัทนั่นเองค่ะ โดยปกติแล้วพระท่านก็จะสอนให้รู้จักและเข้าใจในเรื่องของศีล สมาธิ และปัญญา ไปตามระดับ เพื่อปูพื้นปรับคุณธรรมให้มั่นคงในแต่ละด้าน .. หนังสือที่เหมาะมากกับผู้สนใจทั่วไปก็คือพระไตรปิฎกฉบับประชาชน จึงขอตอบไว้กว้างๆ อย่างนี้ก่อนนะคะอรุณสุข และต้องขอขอบคุณมากที่ให้กำลังใจในงานเขียนของพี่นะคะ แต่ก็คงต้องขออกตัวไว้ว่า ยังขาดความพร้อมอีกมากในทักษะของงานเขียน และยังมีปัญหาสุขภาพอันเป็นประเด็นสำคัญในขณะนี้ ตอนนี้ที่ทำได้ก็คือ พยายามที่จะรักษาหลักเหตุผลพระพุทธศาสนาไว้ให้ได้ตามความสามารถเท่าที่มี และเผยแพร่ตามบางโอกาสที่เหมาะสมค่ะ ..อรุณสุขเองก็มีฝีมือมิใช่ธรรมดา พี่ดอกแก้วคิดว่าคงจะเป็นกำลังสำคัญของกวีธรรมได้เป็นอย่างดีในอนาคต ขอบพระคุณมากนะคะในความปรารถนาดีที่มอบมา ขอให้มีความสุขและสมปรารถนาในสิ่งที่มุ่งหวังค่ะ
29 มีนาคม 2550 16:08 น. - comment id 678117
@...ก้าวที่...กล้า... สวัสดีมีความสุขปลุกใจกล้า สร้างหวังดีแก่ชีวาอยู่เสมอ มอบไมตรีต่อกันเมื่อพบเจอ และไม่เพ้อผูกหวังตั้งมั่นใคร สวัสดีค่ะก้าวที่...กล้า ขอให้มีความสุข ความสมหวัง และมีพลังเต็มเปี่ยมนะคะ
29 มีนาคม 2550 16:09 น. - comment id 678118
@...น้องบัว ดอกบัว... เรามักชอบมองดูแต่ผู้อื่น และชมชื่นตำหนิติเรื่องเขา เกิดหวังดีหวังร้ายที่ใจเรา เข้าไปยุ่งเรื่องเขาแบบหวังดี ถ้าหวังดีมีเขตพร้อมเหตุผล ยอมรับแต่ละคนต่างสันสี ยอมรับในไตรลักษณ์ของชีวี ไม่อาจมีอำนาจบังคับกับผู้ใด ความหวังดีก็จะมีคุณค่า ให้เสรีในชีวาไร้เงื่อนไข ไม่บังคับด้วยเหตุผลประการใด แต่บอกให้รู้แตกต่างอย่างหวังดี สวัสดีค่ะน้องบัว ปกติของคนเรามักใช้ความคิดส่วนตนที่ปนเปื้อนกิเลสมาตัดสินคนอื่นเสมอๆ ทั้งในทางที่ดีและไม่ดี แต่สำหรับผู้ที่จิตบริสุทธิ์นั้นไม่ว่าจะเป็นความคิดหรือการกระทำใดๆ ใจของท่านเหล่านั้นจะปราศจากกิเลส ผู้ที่เข้าถึงจิตย่อมรู้ถึงการปรุงแต่งและความเป็นไปตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ผู้ที่รู้จักจิตก็จะคลายจากความยึดถือ และยอมรับในสามัญลักษณะของสรรพสิ่งในโลก อาจกล่าวได้ว่า ผู้ที่มีความรู้และความเข้าใจในเรื่องจิตแล้ว ก็ย่อมเข้าใจความเป็นไปของโลก และการเวียนว่ายตายเกิดได้แจ่มแจ้งกว่าผู้ที่ไม่เข้าใจค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่แวะมาสนทนากัน ขอให้น้องบัวมีความสุขในชีวิต และมีความแตกฉานในธรรมได้ยิ่งๆ ขึ้นไปค่ะ