เมื่อมาสเมษาครานั้น ฤดูคิมหันต์ ฉันหอบความทุกข์ซุกดิน พอหยาดพิรุณหลั่งริน ยามกันยาสิ้น ธานินชุ่มชื่นอำนวย มาลย์ทุกข์ชูช่อ ณ ลานสวย บานกลีบกลิ่นระรวย ภิรมย์รื่นรสสุคนธา ผองมิตรชิดใกล้กล่าวว่า หลากล้วนคุณค่า เธอน่าเก็บเกี่ยวแบ่งปัน ยามโรยร่วงสิ้นชีวัน สะสมเมล็ดพันธ์ุ ช่อนั้นช่อนี้ชนิดใด จัดแจงจำแนกแจกให้ หมู่มิตรสนิทใจ เพาะชำชื่นชมสมจินต์ เพียงสิ้นสุ้มเสียงสำเนียงยิน ทุกข์นั้นบั่นบิ่น แท้จริงทุกข์เรามิเท่ากัน
12 มีนาคม 2550 05:29 น. - comment id 668925
ทุกข์เขาทุกข์เราล้วนไม่ต่าง แต่ใจพาพร่างพร่าเห็นไม่สม ทุกข์ก่อกำเนิดที่ใจตน หลงวังวนแห่งนิมิตชะตากรรม ใจอาวรณ์ก็เป็นทุกข์.....จริงไหมกร แต่ที่แน่ๆตอนนี้เป้ทุกข์หนักอ่ะ กำลังฝึกปล่อยวางอยู่ เฮ้อ
12 มีนาคม 2550 07:36 น. - comment id 668965
เมล็ดพันธุ์แห่งความทุกข์........ล้วนเกิดมาจากแหล่งกำเนิดเดียวกันทั้งนั้น........นั่นคือจากจิตของเราเอง ตราบใดที่เราไม่ได้หลุดพ้นจากวงกรรมดั่งพระพุทธองค์ เราก็คงว่ายวนอยู่ในความทุกข์ตลอดไป ทุกข์สุขย่อมอยู่ที่ใจเราเนาะ นางฟ้าก็ว่ายวนอยู่ในวังวนของทุกข์เหมือนกัน.....อิอิ..ก็ยังมีกิเลสอ่ะนะ
12 มีนาคม 2550 09:24 น. - comment id 669046
สวัสดีค่ะ เด็กชายกวีปกรณ์... ความทุกข์ เหมือนเป็นเพื่อนแล้ว ณ ตอนนี้
12 มีนาคม 2550 11:02 น. - comment id 669151
ทั้งทุกข์และสุข ของคนเราต่างก็ไม่เท่ากันนะคะ ขึ้นอยู่กับความพอใจเพียงพอ
12 มีนาคม 2550 11:20 น. - comment id 669169
แล้วแต่เหตุการณ์ และสถานะของใจว่ารับความทุกข์ได้แค่ไหน และเห็นความสุขมากเท่าไหร่ จ๊ะ
12 มีนาคม 2550 12:27 น. - comment id 669224
เราก็เพาะเมล็ดพันธุ์แห่งความทุกข์จนเติบใหญ่ ทำอย่างไรจะให้มันตายได้หนอ
12 มีนาคม 2550 14:31 น. - comment id 669288
จะเอามาเพาะทำไมล่ะค่ะ