(โคลงสี่สุภาพ) อาทิตย์ลาลับแล้ว....................ลงรอน วิหคผกบินจร..........................ลับฟ้า สิ้นแสงแห่งทินกร...................พลบค่ำ แล้วนอ สรรพสิ่งเงียบเชียบช้า..............ตื่นเพี้ยงภาพภวังค์ ภพประหนึ่งดั่งฟ้า...................มืดหาว รัตติโชตินานยาว.....................หลับเร้น แฝงภัยผ่านลมหนาว................ขมขื่น ฟ้ามืดจึ่งชี้เน้น.........................ค่ำนี้พิโรธหนอ เหล่าอสรพิษสิ้น.....................ทั้งหลาย แฝงซึ่งอันตราย......................ไป่ถ้วน ความกลัวเกลื่อนภพพราย.......ยามค่ำ นี้นา เดือนดับพยับแสงล้วน............ประหลาดฟ้าน่าสะพรึง (อินทรวิเชียรฉันท์) เสียงร้องระงมหวน ณ พิภพก็ตังตึง กราดเกรี้ยวคระครวญขึง นิศะนี้สงบหรือ อีกลมก็พัดโหม พยุโครมระบัดฮือ ฟ้าลั่นสนั่นอื้อ ประทะหล้า ณ ราตรี (กาพย์ฉบัง ๑๖) ค่ำมืดเมฆหม่นราคี ยามราตรีนี้ ใดจึงน่ากลัวหนักหนา แลลอดตลอดพสุธา เกลื่อนด้วยเหล่าพญา- ล้วนอสรพิษฤทธิ์ร้าย ฟ้าคลั่งดั่งฟ้าจะทลาย แผ่นพื้นพิภพพราย ดูเหมือนจะพังลงครืน กว่ากาลจะพ้นค่ำคืน กว่าพ้นขมขื่น ต้องทนเหน็บหนาวเท่าไร (กลอนสุภาพ) ผ่านกลางคืนคืนนี้ช่างนานนัก ไยไม่มีรอยยิ้มทักจากดาวใส มีแต่ลมพายุถลามาแต่ไกล มีแต่ภัยแฝงเร้นเยียบเย็นกาย คมไอหนาวบาดลึกเข้าถึงเนื้อ ความมืดแทรกเจ็บเหลือจะต้านหาย ความกลัวเข้าครอบงำย้ำอันตราย ความเดียวดายซึมซาบอาบทั้งฟ้า วอนขอหวังจากฟ้าคราเช้าใหม่ ขอเพียงไออุ่นเอื้อมาเกื้อข้า ขอมีเพียงพลังแสงแห่งทิวา เปลี่ยนคืนค่ำที่ทรมาน์ชีวานี้ ข้าจะรอจนกว่าอรุณรุ่ง จะฉายรุ้งเป็นแสงใสให้ล้นปรี่ ข้าจะรอจนทุกวินาที จะพ้นผ่านราตรีที่เลวร้าย จะยังเต็มเปี่ยมหวังความเชื่อมั่น ว่ายังมีดวงตะวันทอแสงฉาย ค่ำคืนนี้อาจเงียบงันและอันตราย แต่สุดท้ายเราก็จะชนะมัน
4 มีนาคม 2550 12:42 น. - comment id 665063
วาดลีลาซะเต็มที่เลยนะ นายแดน ( ไพเราะ มาก)
4 มีนาคม 2550 03:38 น. - comment id 665551
ราตรีนี้ ยังมืดมิด สนิทนิ่ง สรรพสิ่ง สงบเงียบ เยียบเย็นนัก ตามองดาว พราวพราย มาทายทัก แจ้งประจักษ์ ความหวัง ยังคงมี รอจนรุ่ง พรุ่งนี้ เถิดที่รัก (ของใครไม่รู้นิ) ความทุกข์หนัก จะหมดไป ใจสุขศรี สิ่งที่หวัง อยู่ไม่ไกล ในธานี ขอคนดี จงเข้มแข็ง แกร่งกล้าเอย จบแบบถู ๆ ไถ ๆ ไปจนได้..อิอิ
4 มีนาคม 2550 03:48 น. - comment id 665555
อืม..ขนาดแต่งไม่ออกนะเนี่ยะ มาทั้งโคลงฉันท์กาพย์กลอน....แหม...หัวไม่แล่น เดี๊ยะๆธรรมชาตอลงโษ เจอไม้ตายหมูพิฆาตแดนไกลซะเลย อิอิ
4 มีนาคม 2550 09:12 น. - comment id 665577
เยี่ยมค่ะ...ทำไงนางฟ้าจะแต่งฉันท์ได้เก่งบ้างนะนี่
4 มีนาคม 2550 12:46 น. - comment id 665595
**.. ชอบวรรคสุดท้ายของกวีบทนี้จังครับ " แต่สุดท้ายเราก็จะชนะมัน " ชื่นชมครับผม
4 มีนาคม 2550 13:28 น. - comment id 665614
หวัดดีวันหยุดจ้าน้องซ่า..... ร้อนๆๆๆ เลยแวะมาอ่านนิทานก่อนนอนกลางวัน ......
4 มีนาคม 2550 15:12 น. - comment id 665640
ยามทินกรเริ่มเร้น หลีกลา ค่อยหรี่ภาพอาภา ผ่องแพร้ว ทั้งมวลหมู่ปักษา บินกลับลำเนา ม่านมืดมาคลุมแล้ว ลบล้างรอยเกษม ราตรีลู่ผ่านพื้น แผ่นดิน เพียบสรรพภัยรี่ริน แห่ห้อม ช่องว่างแห่งอนธจินต์ จักแผ่ เข้าขนาบเรียงรายล้อม สุดลี้เลยนา วิชชุ ปลาบแปลบเปรี้ยง ครืนโครม วายุ แห่ห่าโหม หื่นห้ำ วิรุณ สาดซัดโซม กำซ่าน วินาศ กราดกรายกล้ำ เกลื่อนพื้นแผ่นภูฯ อสร พิษแผ่พิษร้าย รุมเถือ อสูร สาบไพรมากเหลือ หลั่งไล้ อุบาทว์ ทุรจิตเจือ มาจ่อ อุบัติ เบียฬชีพให้ หวั่นเวิ้งวงศา
4 มีนาคม 2550 18:06 น. - comment id 665666
สวัสดีครับ น้องแดนไกล ราตรีกาลมีนิทานมาผ่านโสต ยังประโยชน์มิยั้งหยุดสุดเสน่หา มีนิทานมากล่อมปลอบรอบกายา อุ่นอุรารึงจิตสนิทดวง
4 มีนาคม 2550 18:39 น. - comment id 665682
ราตรีนี้..ช่างเหน็บหนาว..แสนร้าวลึก ฝังผนึก..ลึกถึงเนื้อ..จนสั่นไหว เย็นยะเยียบ..ลามถึงขั้ว..ของหัวใจ ความเดียวดาย..มาเยี่ยมเยือน..เป็นเพื่อนตน..
4 มีนาคม 2550 22:43 น. - comment id 665776
ดีคับพี่ปราณรวี.... ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมผมนะค๊าบบบบ พี่เปเป้.... จิงๆนะครับ สมองไม่แล่นจิงๆ พี่ Salukphin.... ผมก้อแต่งฉันท์ไม่ค่อยรอดเหมือนกันหรอกคับ
4 มีนาคม 2550 22:55 น. - comment id 665778
พี่น้ำนมราชสีห์..... ยังไม่เต็มที่หรอกคับ ยังต้องแก้อีกเยอะคับ พี่ต่องต้อง... ขอบคุณคับที่เข้ามาเยี่ยมชม สุดท้ายเราเองจะชนะได้คับ ดีค๊าบบบบ พี่เจน........ เค้าให้อ่านตอนกลางคืน ไหงมาอ่านตอนกลางวันซะนี่ อิอิ "นิทานราตรี" นะคับผม
5 มีนาคม 2550 01:57 น. - comment id 665799
ตอนกลางวันเครื่องดับก่อน มาต่อใหม่ ภัยทาบอเนกทั่ว กระหน่ำรัวบ่ร้างรา แห่งหนก็ยลหา- ยนะวาระวอดวาย ฟ้ามัวทะมืนม่าน พิษพาลก็แพร่งพราย นั่นวายุห่ากราย ขณะโกรกวิโยคกิน ฟ้าลั่นสนั่นเปรี้ยง ปะทะเพี้ยงจะพังภินท์ ราตรีลุราคิน ระกะถิ่นก็ทอดวาย
5 มีนาคม 2550 02:04 น. - comment id 665802
ม่านหมอกพยับประทับภาย แผกแพร่กำจาย สู่พื้นแผ่นดินจนเดือดดาล เหมือนยลแต่พวกพญามาร จะประหัตประหาร ส่ำสัตว์ฤาจักต่อกร คลั่งบ้ากระหายขจายตอน หนึ่งฤทธิรอน ฤาจักต่อต้านไฉนไหว ธรรมชาติกราดเกรี้ยวใดใด หรือจักมีใคร คิดต้านทานจนชนะมัน
5 มีนาคม 2550 02:10 น. - comment id 665803
เพียงแต่รอล่วงกาลให้ลาญโศก รอว่าโรคเรื้อรังจักจางหาย รอการปล่อยอิสรีให้คลี่คลาย เพื่อรอดตายจากภัยได้อีกครั้ง