ทุกข์ของชาวนา ฉบับ รวมบทประพันธ์
กุหลาบน้ำตา
ขอยกเรื่องเบื้องทุกข์แห่งชาวนา
เกี่ยวรวงราเรียวตะขอตอสนอง
หว่านเมล็ดเริ่มรวงเขียวกลายรวงทวง
เพื่อใฝ่ปองผู้บริโภควิโยคแทน
เหงื่อเป็นหยาดย้อยหยดรดธรณี
เกี่ยวรวงทองเข้าเครื่องสีลำบากแสน
หล่อเลี้ยงชนคนทั้งชาติมิขาดแคลน
เปรียบดั่งแกนหลักใหญ่แห่งไทยชน
ต้องทนแดดแผดเผาเร้ากายร่าง
ร้อนสรรพางค์อย่างขยาดอนาถผล
หล่อน้ำเลือดเชือดน้ำเหงื่อมาเจือคน
ต้องทุกข์ทนบนความสุขแห่งยุคกาล
( กลอนสุภาพ )
ต้องทนแดดแผดเผา ผลิผลาญ
ยอมทุกข์ซ้ำทำทาน ทั่วทุกข์
ยอมเป็นทาสบาทบริวาร เวรกรรม
ร่างกระสันบั่นบุก เบื้องบรรพ์ชั้นชน
จากแรงมาเป็นรวง ชนทั้งปวงควรตรึกจำ
เมล็ดข้าวทุกคราวคำ ล้วนคละทุกข์แลเหงื่อคน
จากเมล็ดเป็นรวงเรียว กูต้องเกี่ยวด้วยเคียวผล
หยาดเหงื่อกูจารปน ให้สูชนชะรอยกิน
เปิบข้าวทุกคราวคำ สูจำเป็นอาจิณ สูกินนั่นเหงื่อกู
ตรึกตรูเป็นชนชาว ข้าวนี้นั่นมีรส ได้ชดชิมทุกชั้นชน
ทุกข์ทนทุกเบื้องบาท และขื่นขาดจนเขียวคาว ราวแรงมาเป็นรวง
ช่วงทางนั้นเหยียดยาว เห็นเม็ดพราวสกาวหลาก ล้วนทุกข์ยากลำเค็ญ
เส้นเอ็นกูโปนปูด จึงรูดรวงมาเปิบกิน น้ำเหงื่อรินเรื่อแดง
น้ำแรงกูหลั่งริน ทั้งสิ้นคือสายเลือด ที่ข้อนเขือดไหลพรู
ที่สูซดกำซาบฟัน จงตรึกผนึกอนันต์ คุณต่าแห่งข้าว มนุษย์เอย
( ร่ายสุภาพ)