วิหาร คนโซ
ศิลป์กีรติ ว่าโร๊ะ
. ศพมนุษย์ทั้งเป็น นอนหมดสภาพภายในถ้ำ
เอนกายนอนซมพิงผนัง อย่างคนโซ ขี้โรค
มีแค่แสงไฟจากเทียนใกล้จะมอดดับ ให้ความสว่าง
ความแข็งแรงจืดจาง ถูกแทรกซึมด้วยอาการอ่อนแอ
สุขภาพทรุดโทรม เป็นช่องทางให้โรคภัยเข้าครอบงำ
ถ้ำแห่งนี้ คือ มหาวิหารแห่งความย่ำแย่
คล้ายอาณาจักรโบราณ ที่ถูกข้าศึกตีจนพ่ายแพ้
เหลือแต่ซาก..สิ่งหักพัง และสุสานฝังศพ
อาจไมมีการค้นพบ จากจารึกทางประวัติศาสตร์
ปราศจากความสนใจจากนักโบราณคดีในการขุดค้น
ฉันนอนเอาตีนก่ายหน้าผาก...กระสับกระส่าย...
หัวเหมือนโดนกดบีบทับ จากหิน ก้อนใหญ่
ร่างกายร้อนฉ่า...เหมือนด้านในมีภูเขาไฟคุ
แต่ฉันกลับสั่นสะท้านเหมือนอยู่ขั้วโลกเหนืออย่างขัดแย้ง
หยิบ ยา พาราฯขว้างเข้าปาก กรอกน้ำเปล่าเข้าปากของตัวเอง
เพื่อบรรเทาอาการ....ไข้ ไม่สบาย ปวดหัว...
ถ้ำ,ปราสาท,มหาวิหาร แห่งฉัน...คือห้องนอนเก่าๆ
......ฉันคือซากศพโซเดียวดาย
ฉันไม่ชอบแสงสว่างไฟฟ้า ของหลอดนีออน
ฉันไม่ต้องการ..แสงสะท้อน มันเสียวบาดตา...
ขณะที่นอกบ้าน........
สายฝนตกพรำ กลางดึกฤดูหนาว
ลมพัดอากาศหนาวเย็น ยะเยือก
ปรวนแปร ผันผวน อากาศร้อนผ่าว...
ฉันนอนฟังเสียงฝนตก กระทบหลังคา...ไม่เพราะเลย...
27 ธันวาคม 2549
.