พอปี่พาทย์ฉิ่งฉับขยับเร่ง ก่อนเสียงเพลงเศร้าสลดบทสุดท้าย ส่งวิญญาณถูกกระชากจากร่างกาย สิ้นสลายจากโลกที่โศกตรม เสียงพระสวดอภิธรรมชี้นำจิต ไปสู่ทิศสู่วิถีที่เหมาะสม อย่ายึดมั่นอัตตาตามอารมณ์ ขอจงข่มนิวรณ์อย่าร้อนรน อรุณรุ่งพรุ่งนี้ไม่มีเหลือ ทั้งเลือดเนื้อร่างกายได้หลุดพ้น คงสูญสิ้นแล้วสุขหรือทุกข์ทน ทอดร่างบนเปลวเพลิงที่เชิงตะกอน ยืนมองร่างมอดไหม้ถูกไฟเผา สะท้อนเงาภาพพร่าอุทาหรณ์ ให้ตายไปดีกว่าเลิกอาวรณ์ ไม่รุ่มร้อนใจสลายตายทั้งเป็น
28 กรกฎาคม 2549 08:06 น. - comment id 593311
กีตนา..
28 กรกฎาคม 2549 18:42 น. - comment id 593475
มีชีวิตบนโลกที่โศกเศร้า เพื่อประโยชน์ใดเล่าฉันเฝ้าถาม ต้องเจ็บปวดทนทุกข์ที่รุกลาม เกินจะห้ามจิตข่มอารมณ์ตน หากความตายคลายโศกบนโลกนี้ ขออุทิศชีวีเพื่อหลุดพ้น ใครจะว่าอ่อนแอยอมแพ้ตน ดีกว่าทนอยู่อย่างตายทั้งเป็น .. ชอบงานคุณจัง...