บุหลัน ลอยโรจน์รุ่ง จรุงฟ้า อยู่เอกา กลางรัต ติกาลเหงา มีฉากแห่ง แสงประพริม ที่พริ้มเพรา เละมีเงา มืดหม่น บนดวงเดียว บางคืน ก็สว่าง บ้างก็แรม บางคืนแสง เปล่งกระแส แค่เพียงเสี้ยว ในคมแห่งเคียงสว่างที่บางเรียว มาเก็บเกี่ยว ใจเหงา เอาไปฝัง จันทร์ลอยโผล่ พ้นฟ้า เวลาค่ำ ดั่งนาวา ลอยลำ ข้ามสองฝั่ง ฝ่ายหนึ่งนั้น คึกขรม ด้วยสมหวัง อีกฝ่ายวัง เวงใจ ในระทม อยู่ที่เธอ จะข้ามฝั่ง ไปยังฝ่าย ที่แพ้พ่าย ไร้ชื่น และขี่นขม จันทร์จะลับ แรมร้าง กลางระบม และเจ็บจม หายลับ ไปกับช้ำ แต่หากเธอ ลอยพา นาวาไสว ข้ามฝั่งไป พบรักปลื้ม ที่ดื่มด่ำ เหมือนจันทรา จ้ากระจ่าง กลางคืนค่ำ เงามืดดำ ก็คงคลาย ได้เพราะเพ็ญ ฉะนั้นจันทร์ ไปได้ คล้ายเภตรา สุดจะพา ล่องไป อย่างใจเห็น แล้วแต่ มโนฝัน ให้มันเป็น ชื่นหรือเช่น เข็นขม ด้วยลมใจ จึงก่อนที่ จะมองจันทร์ จงฝันหวาน เพื่อพาผ่าน ช้ำชา พาสดใส เพื่อข้ามขม ชมลิ้ม ยิ้มละไม แล้วหัวใจ จะชุ่มชื่น ในคืนรัก (ม้าก้านกล้วย)
23 กรกฎาคม 2549 21:39 น. - comment id 592400
เท่ากับว่า จันทร์นั้นจะงามหรือไม่งาม ขึ้นอยู่กับจิตใจของคนมองใช่ไหมคะ จันทร์ดวงเดียว ที่ใครต่อใครมอง และให้นิยามความหมายต่าง ๆ กัน บ้างก็รักจันทร์ บ้างก็ชังจันทร์ แท้ที่จริง คือหัวใจของเขาสินะคะ ที่เป็นไป
24 กรกฎาคม 2549 18:47 น. - comment id 592607