ปิดโครงการอิ่มอุ่น ที่ทำร่วมกับ บ้านกลอนไทย เปิดใจภูตะวัน ถึงปีกฟ้า (ถ้าจะลบกระทู้นี้ ขอให้ปีกฟ้า เป็นคนลบ) ********************************************************************* 2 - 3 เดือนที่เริ่มต้นลงมือทำ CD วรรณกรรมเยาวชนอิ่มอุ่นขึ้นมาเพื่อขาย หารายได้ ตั้งใจจะไปช่วยเหลือเด็ก ๆ ในชนบท หลังจากนั้น ก็เริ่มขาย CD กับเพื่อน ๆ ทางอินเทอร์เนต กับเพื่อน ๆ ที่ทำงาน เพื่อนสนิท เจ้านาย ญาติพี่น้อง และบางทีก็ขายคนซื้อที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลยในชีวิต... 5 เดือน เต็ม ๆ กับการขาย ไม่ว่าจะเหนื่อยแค่ไหน แต่ก็เต็มใจทำ...รวมทั้งเพื่อน ๆ ที่มาช่วยกันขาย ตั้งใจจะเริ่มคัดโรงเรียนที่จะไป ก็พอดีได้ทราบจากทางผู้ดูแลระบบ ว่าจะจัดโครงการปันน้ำใจ ซึ่งวัตถุประสงค์เดียวกันกับโครงการอิ่มอุ่น และได้ให้รายละเอียดของโรงเรียนบ้านตานวน ของครูใหญ่โรงเรียนเล็กมา ซึ่งพิจารณาแล้วก็เห็นว่า เข้าข่ายที่ทางอิ่มอุ่นตั้งเป้าหมายเอาไว้ อีกทั้ง ได้ยินชื่อครูใหญ่ จากปากพี่ที่เคารพคือพี่พระจันทร์เศร้า ที่ชื่นชมครูใหญ่ฯ ให้ฟัง ว่าเป็นครูผู้เสียสละ ครูนักพัฒนา ยิ่ง ศรัทธาและชื่นชม. ทางผู้ดูแลระบบก็แจ้งให้ทราบว่า จะมีโครงการไปเที่ยวพบปะกับสมาชิกบ้านกลอนแถบอีสานใต้ ในตอนนั้นทางเราเองก็ยินดี แต่ไม่ใช่เรื่องเที่ยวจะเป็นเรื่องใหญ่ ตั้งใจไปทำบุญอยู่แล้ว แต่ดีใจที่จะได้ไปพบปะกับเพื่อน ๆ สมาชิกด้วยกันมากกว่า 2 3 สัปดาห์ ที่นำเงินจากโครงการอิ่มอุ่น ไปวิ่งหาซื้อหนังสือ หาจักรยาน ติดต่อประสานงาน หาของ หาเงินบริจาค ทั้งที่งานประจำก็มาก จนกระทั่งอาทิตย์ที่ 1 ก.ค. 2549 ก็ช่วยกันขนของขึ้นปิ๊คอัฟ ไปส่งรวมไว้ที่คลินิกคุณหมอ ผู้หญิง 3 คน ตั้งใจแบกตั้งใจขน ด้วยความเต็มใจ และภูมิใจ. ก่อนหน้านั้น เคยถามผู้ดูแลระบบว่าใครไปบ้าง ได้รับคำตอบว่า คนนอก 4-5 คน เพื่อนของผู้ดูแลระบบ ส่วนทางโครงการอิ่มอุ่นไป 4 คน (แม้จะมีบางคนเป็นคนนอกเวป แต่ก็เป็นคนที่ช่วยเหลือโครงการ...ช่วยหาของ ..หาเงินให้ ทุ่มแรงกายแรงใจ...เพื่องานนี้) นอกนั้นทุกคนก็เข้าใจกันว่าเป็นคนในเวปบ้านกลอน วันเดินทาง คืนวันที่ 7 นัดเจอกันที่อนุสาวรีย์ เจอคนในเวปคือ พี่พระจันทร์เศร้า คุณเรไร และน้องยังเยาว์ ในที่นี้ได้เจอคุณปีกฟ้า (เจ้าของเวปไทยโพเอ็ม) ที่เดินไปกด เอ.ที.เอ็ม พร้อมกัน แล้วคุณปีกฟ้า ก็ฝากเงินมาช่วยโครงการกับภูฯ เพื่อทำบุญ จำนวน 2,000 บาท ซึ่งภูฯ ได้สมทบกับเงินบริจาคเพื่อการศึกษา ยังจำได้ถึงรอยยิ้มบนแก้มที่มีลักยิ้มของคุณปีกฟ้าได้ คุณภูฯ ครับ ผมฝากเงินคุณภูฯ ไปทำบุญด้วยครับ เรายังคุยกับคุณปีกฟ้าเลยว่าน่าเสียดายที่ไม่ได้มาด้วย แต่พอไปขึ้นรถตู้ ก็แยกกันนั่งคนละคันกับพี่พระจันทร์เศร้า และคุณเรไร มาเจอกันอีกที ที่ปั้มเจ็ตจุดนัดพบกัน ปรากฏว่า ได้พบกับพี่พระจันทร์เศร้า คุณเรไร และน้องกระต่าย...(ที่หอบเครื่องคอมพิวเตอร์จากพิษณุโลกมาบริจาคให้กับโครงการ) ที่ขอ ย้ายมานั่งรถตู้คันเดียวกันกับทางเรา ก็ทราบมาว่า รถตู้อีก 1 คัน เป็นใครก็ไม่รู้ ที่ไม่รู้จักบ้านกลอนไทยเลย ทุกคนก็เพิ่งทราบวันนี้ ว่าเรามากับคณะทัวร์อีก 1 คณะ ถึงโรงเรียน ตอนรุ่งเช้า ความเหนื่อย ความล้า ก็เริ่มหาย เมื่อคณะครูใหญ่ มาให้การต้อนรับ ด้วยความอบอุ่น ครั้งแรก หลายคนเอียงอายกับกลองยาว แต่หลัง ๆ ก็ลงไปเซิ้ง ไป รำ กันด้วยความมันความสนุก...ด้วยรอยยิ้ม ทุกคนมีความสุข แม้แต่ตัวเราไปเล่นเกมส์กับเด็ก กับครู กับเพื่อน ๆ ด้วยความสุข ประทับใจมาก ๆ จึงขอบอกเจ้าภาพคุณทำดีที่สุด ไม่มีใครเลยที่จะตำหนิ กลับชื่นชมคุณมากขึ้น แม้แต่นั่งไปในรถตู้ พี่พระจันทร์เศร้า ยังเล่าประวัติของครูใหญ่ให้พวกเราฟังด้วยความชื่นชมตั้งแต่ทางเข้าโรงเรียน ที่พวกเราเห็นว่ามันลำบากมาก และที่ตรงนี้สมาชิกบ้านกลอน ร้อยฝัน ขอโทษครับผมเมาก็ตามมาสบทบ นั่งรถมาเอง จากชัยภูมิ และขอนแก่น มาด้วยใจเต็มร้อย.... ถึงที่พักในยามเย็น ซึ่งวันนั้นก็ทราบจากผู้ดูแลระบบซึ่งเป็นผู้จัด ว่าจะทำอาหารกันเอง โดยจะจัดเตรียมสิ่งของมาประกอบให้ แต่กลับกลายเป็นว่าที่เตรียมมามีไม่กี่อย่าง ต้องออกไปซื้อที่ตลาด กว่าจะได้กินข้าวเย็นนั้น ก็เล่นเอาน้อง ๆ ที่มาด้วยหน้าดำ หน้าเขียวกันไป แล้วถ้าคุณเรไรไม่มา ใครจะทำกับข้าวให้กิน?? อันนี้ไม่เท่าไหร่ ตอนถึงที่พัก บ้านพัก 1 หลัง 3 ห้องนอน ข้างบน 2 ห้อง ข้างล่าง 1 (สำหรับคนในรถตู้ 2 คัน ) อีกขบวนของกลุ่มทัวร์ไปจับจองห้องพักข้างบนสองห้องเรียบร้อย แต่ภูตะวัน ในฐานะที่ชวนเพื่อนโครงการอิ่มอุ่นมาร่วม ก็ต้องดูแลเพื่อน ๆ ไปถามดูว่าห้องไหนยังว่าง ก็ปรากฏว่าเหลือห้องข้างล่าง 1 ห้อง จึงบอกอีกคณะทัวร์ว่าขอห้องนี้ จัดแจงไปพาเพื่อน ๆ กลุ่มสมาชิกไทยโพเอ็ม และอิ่มอุ่น เอากระเป๋าเข้าไปเก็บ สักพัก ได้ยินเสียงโวยวายจากข้างบนว่าห้องข้างบน 1 ห้อง ไม่มีพัดลม (ขณะนั้นอากาศช่วงหัวค่ำยังร้อนอบอ้าวมาก) ไม่นานทางผู้ดูแลระบบก็มาบอกว่า ขอให้คุณภูตะวัน และเพื่อน ๆ ย้ายไปนอนข้างบน ด้วยเป็นห้องใหญ่ ก็ไม่ว่ากันง่าย ๆ อยู่แล้ว พาเพื่อนขึ้นไป ผ้าห่ม หมอน ที่นอน มีไม่ครบ ไม่มีพัดลม แถม ไม่รู้จะให้ผู้ชายอีก 3 คน ไปนอนที่ไหน คือ คุณเรไร ขอโทษครับผมเมา และคุณแก้วประเสริฐ แต่คุณแก้วประเสริฐก็ขอตัวไปแทรกนอนกับอีกกลุ่มหนึ่งได้ แต่คุณเรไร และคุณเมา ยังไม่มีที่นอน ก็ไม่ได้รับการถามไถ่จากผู้ดูแลระบบเลย คืนนั้น คุณขอโทษครับผมเมา และคุณเรไร นอนที่สนาม คุณร้อยฝัน คุณกระต่าย ไปนอนในเต้นท์ ส่วนเรากับเพื่อนก็นอนในห้องที่ไม่มีพัดลม หมอนผ้าห่มไม่ครบ โดยที่ไม่ได้รับการถามไถ่หรือดูแลจากผู้ดูแลระบบ ผู้ซึ่งเป็นคนจัดงานนี้ขึ้นมา รุ่งเช้าคุณพระจันทร์เศร้า คุณเรไร คุณกระต่าย ขอตัวกลับก่อน กลับเพราะความรู้สึกใด ๆ มาถึงวันนี้คงไม่ต้องบรรยาย .....แต่เราในฐานะเจ้าภาพร่วม ที่เชิญคนที่ช่วยขาย CD หาเงินมาลงโครงการนี้ ยังอยู่ต่อด้วยหวังในมิตรภาพของเพื่อน..... วันที่สอง ไม่ว่าจะเดินทางไปไหน ก็ไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ แล้วแต่รถตู้คันหน้าของอีกคณะทัวร์จะพาไป ทางเราก็ได้แต่ถามว่าจะไปไหน ในขณะที่ผู้ดูแลระบบก็แยกไปกับรถส่วนบุคคล ถึงที่พักริมโขง จะนอนศาลา ก็ไม่ได้ว่ากัน แม้ฝนจะตกกระหน่ำ นั่งกินข้าวเหนียวกับส้มตำปลาร้า ปลาลวก เห็ดต้ม ทุกคนก็ไม่ได้ขื่นขมอะไร กลับกลายเป็นเรื่องสนุก หลายคนไม่กินปลาร้า..ก็กินเป็นงานนี้ แล้วยังดีคืนนั้นแม้จะกันดานยังไง ก็ได้ขนมหวาน ๆ จากเค้กก่อนใหญ่ที่เบิร์ดเดย์ ผู้ดูแลระบบให้เราได้ชื่นใจ ยิ่งตลกไปใหญ่หลายคนไม่กินเบียร์ก็กินเป็น เพราะฝนมันตก มันหนาว แต่เราก็มีความสุขกันดี ถ้ายังจำได้ เรายังนั่งคุยกับเพื่อน ๆ กับครูบัวกันต์ จนดึก มิตรภาพที่ได้แลกเปลี่ยนกับครูบัวกันต์ก็ทำให้รู้สึกดี ๆ . รุ่งเช้า การเดินทางยังคงดำเนินต่อไป สถานท่องเที่ยวตามที่ลงไว้ ก็ไปไม่ได้ครบหรอก เพราะต้องตามใจคณะทัวร์คันหน้าเป็นหลัก ก็ไม่ว่ากันเพราะการมาเที่ยวไม่ใช่วัตถุประสงค์หลักของพวกเราอยู่แล้ว เพราะเราไม่ได้คิดเรื่องมาเที่ยว แต่ในเมื่อผู้ดูแลระบบเป็นผู้จัดลงไว้ แล้วไม่ทำตามแผนที่วางไว้น่ะ จะลงรายการจัดทำไม ที่สำคัญต้องไปขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของใครก็ไม่รู้ที่ไม่ใช่สมาชิกบ้านกลอนเลย ในขณะที่ผู้ดูแลระบบก็อยู่ในรถยนต์ส่วนตัวตลอด ยิ่งไปกว่านั้น ร้อยฝัน และขอโทษครับผมเมา.....ซึ่งต้องเดินทางกลับชัยภูมิ และขอนแก่นะไม่ได้เข้ากรุงเทพกับพวกเรา แค่ขอให้รถตู้ไปส่งที่ บขส. ก็ยังต้องรอรถตู้คันหน้า ให้ซื้อของฝากเป็นชั่วโมง โดยไม่ได้ห่วงใยกันเลยว่าจะมีรถกลับขอนแข่น กลับชัยภูมิทันกันไหม........ทั้งที่จะแยกไปส่งน้องก่อนอีกคัน ก็ไม่เห็นจะเป็นไร ทำไมต้องรอขับตามกัน ในขณะที่อีก 2 คน กังวล ว่าจะมีรถกลับบ้านทันไหม แต่ก็ต้องรอให้รถตู้อีกคันซื้อของกันให้เสร็จ.... สองคนนั้นขึ้นรถกลับบ้านไปแล้ว แต่พวกเราที่เหลืออยู่ในรถตู้อีกคัน โดยมีอีกคันนำหน้า จะไปดูเทียนพรรษาต่อ แต่เราไม่ไหวกันแล้ว จึงขอตัวแยกคันกลับกรุงเทพก่อน เพราะไม่มีใครอยากอยู่เที่ยวแล้ว คำตอบที่ได้ คือ ห้ามแยก ต้องตามคันหน้า มาด้วยกันต้องกลับพร้อมกัน อะไรกันเนี่ย เหนื่อยใจเหลือเกิน ไม่มีสิทธิ์อะไรเลย ทั้งที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจ...มาร่วม.... ค่ารถก็จ่าย 1,500 บาท เท่ากัน หรือไม่เท่าค่ะ..จึงไม่มีสิทธิ์อะไรเลย รถตู้อีกคันขับเข้าไปเพื่อดูเทียน ในขณะที่คันของเราขับวนไปวนมาเหมือนถ่วงเวลาเล่น ถามอะไรก็ไม่ทราบ.... รู้แต่ว่ารอคันหน้า..... ทุกคนเริ่มไม่ไหวแล้ว จนกระทั่งแทบจะลงจากรถ ไปหาที่พักในจังหวัดอุบลนอนสักคืน เพื่อหารถทัวร์กลับในรุ่งเช้า แต่ในที่สุดผู้ดูแลระบบ ก็โทรมาขอโทษ ภูตะวัน (แต่เป็นการขอโทษที่คนอื่นไม่ได้ยิน...) และในที่สุดคนขับรถก็ได้รับคำสั่งว่าให้แยกเดินทางกลับมาได้ เราจึงเดินทางกลับมาถึงกรุงเทพ ตี 3 กว่า ท่ามกลางฝนที่ตกกระหน่ำมาตลอดทาง วันนี้ ภูตะวัน ออกมาเปิดใจทำไม??? เพราะมีบางคนซึ่งไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์เลย...ออกมาคอมเมนท์ หรือทราบข้อมูลที่บิดเบือน พวกเราไม่ใช่ไม่พอใจ ว่าไม่ได้ไปเที่ยวตามที่จัด แต่พวกเราเสียใจที่ดูแลระบบไม่ดูแลพวกเรา ที่เป็นสมาชิกดั้งเดิมในเวปเลย แถมเป็นเพื่อนคุณด้วย พวกเราไม่ได้ไม่พอใจเรื่องที่พักหรือเรื่องอาหาร เรากินปลาร้ากันได้ เรานอนกลับพื้นได้ แม้แต่ตัวเราเอง...ก็ยังลงไปเล่นน้ำโขงที่ขุ่นพลักได้ ...แต่คุณกำลังบิดเบือนความจริง..... วันนี้เราขอเขียนความจริงแทนทุก ๆ คน เรารู้ว่าไม่มีใครกล้ามาคอมเมนท์หรอก และเราก็ขอให้คุณ ๆ ที่รู้ไม่จริง ไม่ต้องคอมเมนท์ในสิ่งที่คุณไม่รู้ คุณไม่รู้แต่คุณมาคอมเมนท์ไปทั่ว มันดีเหรอคุณ? คุณไม่ได้ไปร่วมไปสัมผัส แต่คุณออกรับแทนใคร? ฝากถึงครูบัวกันต์ คุณมนต์กวี และเพื่อน ๆ ครูใหญ่ ไม่มีใครตำหนิพวกคุณเลย ประทับใจกันทุกคน เราลงรูปไว้ที่บ้านเรา หลายคนไปนั่งดูไปนั่งยิ้ม ที่ตรงนั้น ครูบัวกันต์ก็แวะไปชมมา...ขอบคุณค่ะ...สำหรับมิตรภาพ มิตรภาพของภูตะวันและเพื่อนไม่ได้มีไว้ตราบสิ้นฟ้าหรอกค่ะ มีมิตรภาพไว้แค่ตราบสิ้นลมหายใจ เท่านั้น ส่วนคุณมนต์กวี ภูฯ ดีใจที่ได้คุยกับคุณ และก็ดีใจที่ได้ ถ่ายรูปคุณกับลูกสาว และก็ได้ยินความภูมิใจของคุณที่มีต่อลูกสาว อบอุ่น ..อิ่มอุ่นดีค่ะ...ส่วนรูปจะทยอยลงให้ที่บ้านค่ะ ยังไงก็แวะไปเก็บภาพที่นั้น อยู่ตรงห้องกิจกรรม และห้องเที่ยวไปกินไป ที่บ้านภูตะวัน (คาดว่าเสาร์ อาทิตย์นี้ คงจะลงได้ครบหมด) วันนี้ ที่ขอมาเปิดใจ และปิดโครงการที่นี่ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่า ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย แม้คนที่พูด อาจจะต้องตายเพราะความจริง ก็สบายใจแล้วที่ได้พูด ความจริง และหากคิดว่ากระทู้นี้ มันเป็นเรื่อง ที่คุณรับมันไม่ได้ ถ้าจะลบออกไป...ก็ขอให้ลบด้วยความเห็นของคุณปีกฟ้า (คุณพีรกาญจน์ สิริเวชพันธ์ ) หรืออยากจะปลดสมาชิกคนที่ชื่อ ภูตะวัน ตะวันรอน สมาชิกบ้านกลอนไทย เลขที่ 6421 ก็ขอให้เป็นไปด้วยความเห็นชอบจากคุณ ปีกฟ้า ภูตะวัน ก็ยินดีค่ะขอเสียงตามสายจากคุณปีกฟ้า โทรมาบอกแล้วกันค่ะ ไม่ว่ากัน วันนี้ ไม่ได้มาแบ่งแยก แต่มาเขียนความจริง ตามสิทธิของมนุษย์ชนคนหนึ่ง แล้วก็ไม่จำเป็นด้วยว่า จะต้องเป็นพวกใคร แค่อยากให้ความจริงไม่ถูกกลืนหาย.....อาจจะเป็นบทสุดท้ายที่เขียนด้วยก็ได้ เชิญแวะเก็บภาพความอบอุ่นได้ที่ putawan.pantown.com (ที่ห้องกิจกรรม และห้องเที่ยวไปฯ) ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน สรุปรายได้โครงการอิ่มอุ่น (เริ่มทำ พย.48 ปิดการขาย พค.49) รายได้จากการขาย CD รวม 27,631 บาท ค่าแผ่น CD. ,ค่าปั้มแผ่น, ปก ฯลฯ 14,000 บาท ค่าส่งทางไปรษณีย์ ,ค่าซองกันกระแทก ค่าส่งแผ่นชดเชยแผ่นแตก แผ่นเสีย 3,827 บาท กำไรสุทธิจากโครงการ 9,804 บาท รายได้จากการจำหน่าย นำไปให้โครงการอิ่มอุ่น สมทบกับบ้านกลอนไทย มีรายละเอียด ดังนี้ สรุปของ....โครงการอิ่มอุ่น.. ปันน้ำใจเพื่อน้อง..ณ.วันที่ 8 กรกฎาคม 2549 ดังนี้ ของใหม่.. 1 รายการหนังสือ (หนังสือเรียน ชั้น ป.1 ป6 , หนังสือนิทานภาพ , วรรณคดี , ฯลฯ) จำนวน 41 รายการ 2 กล่องดินสอ จำนวน 46 กล่อง 3 รายการอุปกรณ์การเรียนการสอน เล่น เกมส์ (แผ่นป้าย ตัวต่อ คำศัพท์ แผนที่ สมุดภาพชุดระบายสี ) จำนวน 14 รายการ 4 จักรยาน (สำหรับเด็ก ป.4 - ป.6) จำนวน 1 คัน 5 จักรยาน (สำหรับเด็ก ป.1 - ป.3) จำนวน 1 คัน 6 ลูกบอลยาง (สำหรับเด็กเล็ก) จำนวน 4 ลูก ใช้งบประมาณจาก - รายได้การจำหน่าย cd อิ่มอุ่น จำนวน 7,580 บาท - จากการบริจาคเงินสมทบค่าใช้จ่าย จากน้องออม และ น้องบัว จำนวน 1,000 บาท ได้รับการบริจาคสิ่งของเพิ่มเติม จากการจัดหา ของคุณสลักเหลา คุณหยู และคุณหยอย 1 คูลเลอร์ (เครื่องทำน้ำเย็น) 1 ตู้ 2 เสื้อกันฝน สำหรับเด็ก ๆ 46 ตัว เครื่องเขียนชุดสี คุณนิรมล (หน่อง) ฝากชุดเครื่องเขียนสี จำนวน 5 ชุด ให้น้อง ๆ ของบริจาค (มือสอง) 1 เสื้อผ้า จากน้องศินนท์+พี่ภูฯ 2 กระเป๋า,เป้ จากพี่ภูฯ 3 หนังสือมือสอง จาก น้องหนมเทียน รายการเงินบริจาค 1. เพื่อเป็นทุนการศึกษาเด็ก รวม 6,700 บาท รายนามผู้บริจาค... คุณพ่อสำราญ-คุณแม่จินตนา 1,000 บาท คุณรพีพร (พี่ภูตะวัน) 1,000 บาท คุณบังอรรัตน์ 500 บาท คุณอภิรดี 500 บาท คุณศิริมา 500 บาท คุณสุจิตตรา 500 บาท คุณสมชัย 500 บาท คุณพีรกาญจน์ (พีปีกฟ้า) 2,000 บาท คุณประภารัตน์ 200 บาท 2.เงินบริจาคสนับสนุนในการจัดซื้อ Computer Assistant Instructional (CAI) จำนวน 5,000 บาท รายนามผู้บริจาค.. คุณสลักเสลา - คุณศักดิ์สิทธิ์ - คุณมาลัยพรฯ (รวม เงินบริจาคทั้งสิ้น จำนวน 11,700 บาท) รวมเงินบริจาค และเงินจัดซื้อสิ่งของบริจาค ในโครงการมูลค่ารวมประมาณ 23,000 บาท ... (เฉพาะในส่วนของโครงการอิ่มอุ่น..ซึ่งนำไปร่วมกับ Thaipoem.com ในครั้งนี้) กราบขอบพระคุณทุกแรงใจ ทุกศรัทธรา สำหรับความรู้สึกดี ๆ ที่มีให้ภูตะวัน ตลอดเวลา 3 ปี บนบ้านหลังนี้ ขอบคุณทุกท่านที่อุดหนุน CD. แผ่นละ 159 บาท ที่ทำให้มีเงินไปช่วยเด็ก ๆ ทำให้แล้วค่ะ..ตามความตั้งใจ ไปดูรอยยิ้มของ เด็ก ๆ ได้ ที่บ้านภูตะวันค่ะ กราบขอบพระคุณ ทุกท่านที่บริจาคเงิน และจัดหาสิ่งของมาให้ค่ะ ขอบุญกุศลจงคืนกลับสู่ทุกท่านค่ะ ขอบคุณมิตรภาพดี ๆ ของทุกท่านที่มีให้กัน หวังว่า กระทู้นี้ คงจะไม่ร้างมิตรภาพ หรืออยู่ในมุมมืดที่ถูกปิดตาย โครงการหน้า ยังมีแน่นอนค่ะ อิ่มอุ่น จะยังไม่หยุด หากยังมีลมหายใจ แต่คงจะไปตามทางของเราเอง.....(ปล. เงินจากการขาย cd. ยังเหลือ 2,224 บาท อาจจะทำไปถวายวัดทำบุญ หรือรอสมทบกับ โครงการหน้า เพราะมี CD. อีกจำนวนหนึ่งที่ยังขายไม่หมด และ รอโครงการหน้าต่อไป ก็ติดตามข่าวคราวที่บ้านภูตะวัน แล้วกันค่ะ) ไม่เสียใจหรอกค่ะ...ที่ได้เขียนวันนี้... แม้หลาย ๆ คนจะเตือน ว่าเปรียบเหมือนการฆ่าตัวตาย... แต่บางที....คนเรา...ก็ต้องยอมเป็นเทียนสักเล่ม จุดและเผาตัวเองเพื่อให้เกิดแสงสว่าง.... ให้คนที่อยู่ได้เห็น.. ................................... ภูตะวัน ตะวันรอน สมาชิกบ้านกลอนไทยโพเอ็ม ลำดับที่ 6421 14 กรกฎาคม 2549
14 กรกฎาคม 2549 13:49 น. - comment id 435040
แวะมาอ่านจ๊ะภูตะวัน.... เห็นใจและเข้าใจ..ว่าคนตั้งใจทำงานนั้นคิดอย่างไร... โดยเฉพาะยิ่งตั้งใจทำบุญด้วย...ก็ต้องจริงจังและจริงใจในสิ่งที่ทำ แก้วนีดาเข้าใจภูตะวันและพี่จึงค่ะ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ร่วมเดินทางไปด้วยในครั้งนี้ แต่ก็เข้าใจในความตั้งใจที่ไปทำบุญให้เด็กๆในครั้งนี้จ๊ะ ยังคิดถึงภูตะวันและพี่จึงเสมอนะค่ะ....(ระยองครั้งเก่าที่เราเคยได้ไปเที่ยวกันมา)
14 กรกฎาคม 2549 13:48 น. - comment id 435050
... .. มาอ่านงานพี่ภูค่ะ .. แล้วก็ขำเจ๊ด้วยอ่ะ .. แล้วก็จ๋มน้ำหน้าเจ้าฉี่ม่วงด้วยอ่ะ .. เด๋วเขียนกลอนให้นะน้อง สาระแนจัง .. สองดีไหม?? .. กร๊ากกกกกกกก
14 กรกฎาคม 2549 13:38 น. - comment id 435514
หายอัดอั้นแล้วนะ เจ้าภูฯ ถ้าหายแล้ว ก็เก็บของต่อกัน พี่เก็บจวนหมดแล้ว กะย้ายพรุ่งนี้ รำคาญโฆษกรายการสาระแนจังของเจ้าเบญจังวุ๊ย งานนี้ ถ้าเป็นบ้านพี่ ได้ไล่ออกนอกเว็บไม่ทัน ลากันตรงนี้นะ เจอกันไม่บ้านเจ้า ก็บ้านพี่ว่ะ
14 กรกฎาคม 2549 13:25 น. - comment id 445473
ชอบรูปมากเลยค่ะพี่ภู ฯ .. คิดถึงตัวเองตอนเด็ก ๆ เวลาได้อั่งเปาตรุษจีนเลย .. เอิ๊ก ๆๆๆ ............ ปล. มารับฟังค๊าบบบ .. ( เป็นผู้ฟังที่ดีด้วยล่ะค่ะ .. ) ปล.2 อ้าว.. รายการสาระแนจัง ย้ายมาออกอากาศวันนี้แล้วเหรอเนี่ย .. แหม ...ทำไปได้.. ( คดีเด็ดก็มา .. เอิ๊ก ๆๆ )
14 กรกฎาคม 2549 12:52 น. - comment id 448056
ฟีฟ่าจะทำอย่างไรนะ? คนนอกยังรู้สึกได้ คนในจะเจ็บช้ำขนาดไหน ชมชอบน้ำใจนักกีฬา กล้าทำ กล้ารับ
14 กรกฎาคม 2549 12:43 น. - comment id 448287
อ่านแล้วขอร่วมอนุโมทนาในผลบุญด้วย วันใดที่มีอากาศแปรปรวนท้องฟ้าย่อมไร้ความสวยงาม หากสิ่งนั้นผ่านพ้นไปท้องฟ้าย่อมแจ่มใสตระการตายิ่ง แต่อากาศก็คืออากาศที่ทุกๆคนต้องย่อมรับเสมอไม่ว่า อากาศนั้นจะเป็นฉันท์ใด...ผมพูดได้แค่นี้แหละครับ แก้วประเสริฐ.
14 กรกฎาคม 2549 11:54 น. - comment id 458700
เข้าใจในความรู้สึกครับ แต่ไม่นึกว่าจะถึงขนาดนี้ ข้อความท้ายๆนี่ อ่านแล้วเหมือนคำพูด ซีดาน เลยครับพี่ภูฯ อินเทรนด์ดีนะครับ
14 กรกฎาคม 2549 11:53 น. - comment id 458736
พี่ภูคะ......... พี่ภูพูดถูกนะคะ ความจริงเป็นจริงไม่ได้ตายคะ.... บ่ได้ไปนำเลยบ่มีอีหยังจะเว่านำ อิอิ..... แค่มาฟังมาอ่านเจ้าคะ.... ด้วยรักและศรัธทา...
14 กรกฎาคม 2549 11:42 น. - comment id 466675
จากที่รับฟังมา ผ่านกระทู้ตรงนี้ ทำให้ได้แง่คิดขึ้นมาว่า \"การสร้างสรรค์มิตรภาพที่แท้จริง เป็นเรื่องที่ยากยิ่งนัก แต่การฟูมฟักรักษามิตรภาพที่แท้จริงนั้น ให้คงอยู่ เป็นเรื่องที่ยากยิ่งกว่าการสร้างสรรค์มิตรภาพนั้น เพราะต้องอาศัยทั้งการสร้างสรรค์และการรักษา ทั้งสองอย่างควบคู่กันไป บ้านกลอนไทยหรือบ้านไหน ๆ ก็ล้วนปรารถนาความสุขด้วยกันทั้งนั้น หวังใจว่า กาลเวลาจะช่วยเชื่อมต่อมิตรภาพที่ดีงามที่เคยมีให้หวนกลับมาเป็นดังเดิม แม้จะได้ไม่ดีที่สุด ก็ขออย่าให้ทรุดหนักลงไปกว่าที่เห็นและเป็นอยู่เลยนะ ด้วยความจริงใจ จากคนไกลถิ่นมาตุภูมิ ที่ยังภาคภูมิใจในผืนแผ่นดินแม่เสมอ มิตรภาพที่แตกต่าง ---------------- มิตรภาพฉาบทาด้วยอคติ มักแตกผลิเร็วพลันหุนหันหนัก เมื่อพูนเพิ่มเติมเป็นเช่นใยรัก เห็นแตกหักง่ายดายหลากหลายประเด็น มิตรภาพฉาบทาคุณค่าแท้ จะค่อยแผ่ปกคลุมคุ้มใจเห็น มิกระโดดโลดเหินเกินจำเป็น ช่วยให้เย็นยามร้อนรู้ผ่อนคลาย ยามเมื่อหนาวคราวทุกข์ไร้สุขสม ช่วยไขปมปัญหาค่าความหมาย ร่วมสุขทุกข์ยุคเข็ญ-เย็นสบาย มิให้ท้ายเมื่อผิดคิดตักเตือน แต่มวลมิตรจิตต่ำมิกำหนด มิอาจอดทนคำย้ำจากเพื่อน สมใจอยากจากไกลใจแชเชือน ยากจะเหมือนเพื่อนแท้ดูแลกัน ฝากผองเพื่อนเตือนพร่ำย้ำดูเหตุ ต่างประเภทวาระอย่าปิดกั้น ค่อยคิดตรองตามเหตุเขตขอบนั้น หากหวังมั่นพันผูกถูกและควร ขอเป็นแรงใจให้ทุกฝ่ายเอื้อ ค่อยจุนเจือเกื้อกูลหนุนเสริมส่วน ทั้งสิ่งดีอยู่แล้วแนวกระบวน ทุกอย่างล้วนบกพร่องฝากตรองดู ------------------- บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๔๘
14 กรกฎาคม 2549 10:15 น. - comment id 471704
5... เย๊ น่ารักอีกแล้ว หมูเอ๊ย หนูไม่รู้ค่ะ ยังเด็ก แต่น่ารักทุกคนเลยยย คุณพี่แดดเช้า ไอเดียดีมากๆค่ะ คิคิ ปล. นางแฝง \"นู๋ไม่รู้...ยังเด็ก\" เปลี่ยนมะได้ค่ะ แฮ่ๆ
14 กรกฎาคม 2549 10:12 น. - comment id 471919
ฝนตกแล้ว คงนำพาความชุ่มชื่นมาสู่หัวใจได้บ้างน่ะเพื่อนภูฯ ขอบคุณที่ดูแลเด็กๆ น่ะ เก็บรอยยิ้มมาฝากมากมาย :) เราเคยไปร่วมกิจกรรมแบบนี้มาเหมือนกัน รู้สึกว่าจะไปที่ สวนผึ้ง จ.กาญจนบุรี ที่นั่นกันดารมาก...รองเท้าก็แทบไม่มีจะใส่กัน..เสื้อผ้าที่เขาใส่มารับหาพวกเรา ที่ดีที่สุดคงเป็นชุดนักเรียนนั่นแหละ อาหารที่ชาวบ้านเขาจัดมาต้อนรับ น่าพูดถึงอยู่ เป็นแกงป่าไก่ (เขาบอกน่ะ) จะมีผักพื้นบ้าน นำหน้ามาเลยมะเขือ กับกลิ่นของใบมะกรูดกับเครื่องเทศ (พอดีชามที่ใส่มามีแต่มะเขือกับใบมะกรูดและน้ำแกง เลยบรรยายได้แค่นี้ :) ) ไม่เคยกินหรอกส่วนมากแม่ทำให้กินก็แกงส้มน่ะ หรูสุดแล้ว แต่เราก็กินได้ อร่อยซะด้วยน่ะ แล้วมีปราร้าสับ (คล้ายค่ายนี้) เราก็ได้ลองแต่ไม่มากนักเพราะไม่คุ้นเคยไง ตอนนั้นเราไม่ได้ค้างคืนกันหรอก แต่ก็กลับดึกพอควรเชียว....ขับรถไปกลับก็สักห้าร้อยกิโลได้มั๊ง (แต่ตอนนั้นยังละอ่อนอยู่เลยทำได้ ถ้าตอนนี้คงต้องค้างบ้างล่ะ) พูดถึง การแสดงของเด็กๆ ก็น่ารักน่ะ เล่นเกมส์ก็สร้างความเฮฮาได้มาก....ตอนที่เด็กได้รับรางวัล แม้จะดูเล็กน้อยแต่ประกายของตากลับวับวาม ดูงามเหลือเกินน่ะ ความไร้เดียงสาของเขา เอาเป็นว่าหายเหนื่อยเลยแล้วกัน.. ไปเที่ยวกับทำบุญคราวนี้ ได้อ่านงานของเพื่อนๆ มากมาย หลายชิ้นด้วยกัน :) ก็สุดแต่เพื่อนจะเลือกเขียนและนำมามาลงให้ได้รับทราบ ทั่วกัน.. สุดท้ายถ้าได้เจอกัน จะพาไปเลี้ยงไอติมน่ะ :) เราจะได้ทานด้วยกันไง.. รักเสมอ กุ้งหนามแดง
14 กรกฎาคม 2549 09:02 น. - comment id 482708
มาเปิดใจมั่ง ... ในฐานะคนที่อ่านงานเขียนในบ้านกลอนไทย เอาประเด็นเดียวคือ ประเด็นที่คุณบอกว่า เขาคอมเม้นท์ไปทั่ว มันไม่ได้อยู่ที่ประเด็นว่า ไม่อยู่ในเหตุการณ์ แล้วฟังเอา แล้วรู้ไม่จริงหรอกนะคะ แต่ประเด็นอยู่ที่ว่า ทำไมต้องปาระเบิดตูมๆ ใส่หลังจากกลับจากงานบุญ แล้วเหมือนจับคนๆ หนึ่งขึ้นมาแขวนประจาน ชี้นำให้คนซ้ำเติมกัน ตรงนั้นต่างหาก ... ถ้ามาบอกประเด็นทีละประเด็นแล้วเคลียร์กันอย่างนี้จะดีกว่าการที่จะมาประจานกันว่า คนๆ หนึ่งสร้างภาพลวงตา หลอกลวง โดยที่เจ้าตัวอาจจะไม่รู้ตัวว่า จริงๆ เขาผิดอะไร แล้วคนที่มาเขียนกลอนที่นี่ เขาก็มีความสุขกันดีๆ สงบกันดีๆ อยู่ๆ ก็มีกลอนเชิงไม่สร้างสรรค์ขึ้นมา ตัดพ้อโดยไม่รู้ว่า เรื่องอะไร เหมือนเด็กๆ น่ะค่ะ โตกันแล้ว วิธีแก้ปัญหาพูดคุยควรจะเป็นระบบ คิดอะไรให้มันชัดเจน แล้วมันยุติธรรมสำหรับคนๆ นั้นแล้วหรือ? ที่อยู่ดีๆ ก็มีคนมาด่าโครมๆ เขาก็ต้องมานั่งค้นหาน่ะสิว่า อะไรกันหว่า เกิดอะไรขึ้นหว่า เขาก็ไม่มีช่องทางจะอธิบายสักทีว่า ควรจะชี้แจงและกล่าวคำขออภัยยังไง คุณไม่เปิดช่องทางให้เขาเลย ประเด็นมันอยู่ที่วิธีการนำเสนอมากกว่า ... ใช้อารมณ์ในการระบายว่า คนๆ หนึ่งไม่ดี ทำไมไม่ทำแบบนี้แต่แรก เคลียร์ให้ชัดๆ กันแบบนี้ล่ะ แต่ชัดๆ แบบนี้ วิธีการของคุณก็เป็นเชิงตัดพ้อ ไม่ใช่เชิงร่วมกันแก้ปัญหาอยู่ดี ถ้าเปิดใจคุยกันชัดๆ หาพื้นที่สักที่ ... อาจจะเป็นส่วนของกระทู้ หรือ เรื่องสั้น แล้วเขียนปัญหาที่เกิดขึ้นแบบนี้แต่แรก เสนอปัญหาและบอกแนวทางแก้ปัญหาว่า เกิดอะไรขึ้นกับโครงการนี้บ้าง ก็คงไม่มีคนหว่านคอมเม้นท์ไปทั่วหรอก .... และมันจริงไหมล่ะ? บุญบาปอยู่ที่ใจจริงๆ คุณไม่พอใจ คุณเป็นทุกข์ คุณเขียนอะไรที่ไม่ชัดเจนตรงปัญหา จับคนๆ หนึ่งมาเสียบประจาน ลงโทษด้วยการพิพากษาแล้วให้คนมาร่วมซ้ำเติม ... อย่างนั้นมันยุติธรรมแล้วเหรอ ไม่ยุติธรรมสำหรับคนอื่นด้วย .. คนไม่รู้เรื่องเขาก็มองว่า พวกคุณนั่นแหละ ไปทำบุญแทนที่จะได้บุญ มีความสุขกลับมา กลับร้อนเร่าปาระเบิดตูมตามไปทั่ว ตรงไปตรงมาอย่างนี้ ... ไม่มีใครที่ไม่อยู่ในเหตุการณ์จะยุ่งกับเหตุการณ์นี้หรอก เพราะไม่รู้ไม่เห็นด้วย เขามองในสิ่งที่เขาเห็น เขาเกิดขึ้น ... เขาไม่ได้รู้จักคุณอัลมิตราเป็นการส่วนตัว ไม่เคยคุยกัน หรืออาจจะเพิ่งคุยก็ไม่กี่คำ เขาจะออกรับแทนคุณอัลมิตราทำไม และคิดว่า เขาจะไม่มีความคิดของตัวเองเหรอว่า อะไรเป็นอะไร จะต้องเชื่อคำบอกเล่าของคนโน้นคนนี้เสมอไปเหรอ คุณอย่าเพิ่งดูถูกใครนะ เพียงแต่สิ่งที่เขาทำก็เพื่อต้องการเตือนสติพวกคุณต่างหากว่า คุณกำลังทำอะไรอยู่ สะดุ้งโหยงๆ กับคอมเม้นท์ของเขาน่ะสิ ... ถึงเคลียร์อะไรออกมาชัดเจนได้สักที ปล่อยให้คนอื่นหมดอารมณ์กันไปตั้งเท่าไหร่แล้ว เคลียร์กันเองแล้วกันนะ ... จบประเด็นของเราแล้ว ต้องการแต่บอกว่า แสดงอะไรออกมา ภาพมันเป็นความเดือดร้อน เขาก็โต้กลับตามสิ่งที่เขาเห็น ไม่ใช่สิ่งที่เขารู้หรือฟังมา วิธีการนำเสนอเพื่อสร้างสรรค์พัฒนากันและกันมีมากกว่าการที่จะบ่นว่า ตำหนิกันอีก คุณอาจจะมาร่วมกันประเมินงาน แล้วบอกว่าปัญหาจากโครงการนี้มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง แล้วเสนอแนะวิธีการแก้ปัญหากันไป ตามประสาผู้ใหญ่ที่มีวุฒิภาวะทำกันน่ะ ทำกันได้ไหม? ทำให้เป็นเรื่องเป็นราว ไม่ใช่อ้างมิตรภาพ อ้างโน่นอ้างนี่ ตัดสินตัวคนอยู่นั่นแล้ว ตัดเรื่องความรู้สึกออกไป เพื่อที่จะได้ร่วมกันทำสิ่งดีๆ ไม่ดีกว่าเหรอ ที่จริง .. เราไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์ แต่ฐานะที่เป็นสมาชิกบ้านกลอนไทย อยากอยู่บ้านอย่างมีความสุข ก็เสนอว่า มาตั้งกระทู้ประเมินโครงการกันดีไหม? เพื่อที่กิจกรรมต่อๆ ไป จะได้มีอะไรดีๆ ป้องกันปัญหาได้ ไม่ให้เกิดอะไรที่เลวร้ายหรือหม่นหมองอีก บรรลุจุดประสงค์ของโครงการและทุกคนพึงพอใจ มีความสุข แล้วแต่พิจารณานะคะ หวังว่าคงจะเข้าใจนะคะ ... ไปละ
14 กรกฎาคม 2549 08:46 น. - comment id 482995
เป็นกำลังใจให้ทุกๆ คนค่ะ จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ อิอิอิ
14 กรกฎาคม 2549 08:30 น. - comment id 487862
น่ารักมากๆๆ ค่ะ
14 กรกฎาคม 2549 08:15 น. - comment id 487948
อ่านแล้วก็รู้สึกหดหู่ 1. พัดลมในห้องน่ะมี แต่ใช้ไม่ได้หรอกมันเสีย และที่เลือกห้องนี้เพราะว่าที่นอนมีน้อยกว่าอีกห้องนึง อยากให้พวกคุณได้มีที่นอนเยอะกว่า (แต่คนเราก็ไม่นึกถึงสิ่งนี้) 2. เห็นของที่เต็มรถกระบะหรือเปล่า คิดว่ามันลอยมาเองได้หรือยังไง 3. คนที่เป็นสมาชิกในเว็บนี้แสดงถึงความแล้งน้ำใจยิ่งนัก ถึงผมไม่ได้เป็นสมาชิกเว็บบ้านกลอนไทย แต่ก็รู้จักเว็บนี้มาตั้งแต่ก่อนคุณรู้จักคำว่า Internet เสียอีก เว็บอื่นๆเค้าเปิดใจรับคนที่ไม่ใช่สมาชิก ต้องการสร้างความสัมพันธ์ แต่คงไม่ใช่สำหรับสมาชิกเว็บบ้านกลอนไทย 4. จะต้องไปพักที่ไหนผมก็ยังไม่รู้เลย น้ำที่ใช้อาบก็ขุ่นเหมือนกับทุกคนนั้นแหล่ะ ไม่เห็นจะต้องโวยวายเลย ยังรู้สึกว่าใครๆเค้าก็ทนได้ เราก็ต้องทนได้เหมือนกน 5. ถ้าคุณเรไรไม่มาทำอาหาร สมาชิกบ้านกลอนไทยคนอื่นๆจะมีปัญญาทำหรือเปล่า เห็นที่มาว่าเปี้ยงๆ ก็นั่งรับประทานจ๋องอย่างเดียว ปากปราศรัย น้ำใจเชือดคอสิ้นดี
14 กรกฎาคม 2549 08:04 น. - comment id 488253
สำหรับคนๆหนึ่ง ความผิดเป็นเหมือนของร้อน ที่ตกใส่ตัวเมื่อใด ก็ตกใจรีบโยนออกนอกตัวทันที
15 กรกฎาคม 2549 12:45 น. - comment id 506470
ป.ล. กระต่าย เพียงหวังว่า เราจะเห็นในสิ่งที่เราหวัง
15 กรกฎาคม 2549 12:37 น. - comment id 506655
สวัสดีค่ะ พี่ภู เรื่องบางอย่างไม่มีอะไรแก้ไขไม่ได้ตราบที่หัวใจอยากให้เป็น เมฆร้าย หมอกควัน คงจะผ่านพ้นกันเสียที มิตรภาพ มิใช่แค่คำพูด แต่เป็นการกระทำ ด้วย หัวใจ
15 กรกฎาคม 2549 12:19 น. - comment id 506694
พระจันทร์เศร้าฯ สมาชิก 12119 มาบอกว่า ฝากปีกฟ้า ลบข้อความทั้งหมดที่เกิดจากการขีดเขียนของพี่ให้ด้วยค่ะ นั่งลบนอนลบมาหลายวัน ลบไม่หมดเสียที คร้านจะลบเองแล้ว ไม่เคยโทษปีกฟ้า ชะตากำหนดมาให้เป็นก็เป็น หากมีสิ่งใดที่เคยทำให้ขุ่นใจ ขออโหสินะคะ
15 กรกฎาคม 2549 12:19 น. - comment id 506750
สวัสดีค่ะ พี่ภู บัวไม่ได้ไปในเหตุการตรงนี้ด้วย บัวคงออกความเห็นอะไรไม่ได้เลย เพราะบัวจะออกความเห็นได้ก็ต่อเมื่อเราอยู่ ในเหตุการด้วย จะฟังอย่างเดียวไม่ได้ ถ้าเรารู้เห็นเหตุการโดยแท้จริงแล้วพูด เราจะได้ไม่ละอายงัยค่ะ พี่ภูเรื่องทุกอย่างบัวคิดว่าทุกคนรู้ดีอยู่แก่ใจอยู่แล้ว ถ้าเราทำดีก็ไม่ต้องกลัวว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นหลอกคะ บัวยังรักพี่ภูไม่เปลี่ยนค่ะ
15 กรกฎาคม 2549 11:56 น. - comment id 507136
ขออนุญาติยกคอมเมนท์คุณดอกข้าว.. มาไว้ที่ตรงนี้...เพราะให้แง่คิดที่ดีหลายอย่าง อธิบายคุณ ยอด.. ครับ เปรียบกันง่ายๆ.. ให้คุณยอดเห็นภาพนะครับ คุณยอดคงรู้จักพระนะครับ พระสงค์ พระสงค์ถือศีลกี่ข้อ อันนี้ผมก็ไม่ชัวร์ เอาเป็นว่าหลายข้อมากๆ.. ผมจะเปรียบพระสงค์ กับ คนเขียนกลอน นะครับ.. คนเขียนกลอนก็เป็นอย่างเราๆ ท่านๆ.. นั่นละ ถือศีลห้า บางคนข้อห้าก็ตัดไป อาจจะถือเพียงสี่ข้อ.. คุณยอดเคยคิดไหมครับว่าพระเป็นยังไง?.. เทียบกับที่คุณยอดคิดว่าคนเขียนกลอนเป็นคนมีจิตใจดี.. ผมก็คงคิดว่าคุณยอดคงบอกว่า พระท่านก็มีจิตใจดี คุณยอดต้องนึกว่าพระท่านมีจิตใจดีแน่ละ.. ผมก็คิดอย่างคุณยอดครับ แต่จนแล้วพระเองก็ยังมีคลิ๊ปวีดีโอให้เห็น... ทั้งที่ถึงศีลเยอะกว่าคนเขียนกลอนเสียอีก .. มันเทียบไม่ได้กับ...สิ่งที่พี่ๆ เขาโต้เถียงกันหรอกครับ แต่คุณยอดลองนึกดูสิครับ ถ้ามีแต่คำชม ทั้งที่ยังมีสิ่งที่บกพร่องอยู่.. มันเป็นเหตุการณ์ซ้ำๆ.. ผมอยู่เวบร์นี่มานานแล้ว ..ครั้งก่อนเป็นเรื่องของพี่กอกก.. เวบร์นี้อยู่ได้ไม่ใช่เพียงเพราะมีคนตั้งมันขึ้นมา ไม่ใช่เพราะว่าแค่มีผู้ดูแลระบบก็อยู่ได้ คนที่สร้างให้เวบร์นี้อยู่ได้คือ สมาชิกทุกคนในเวบร์.. พี่หลายๆ คนอยู่ในเวบร์นี้มานานแล้ว ..การที่จะให้คอมเม้นกับผู้ดูแลระบบ ผมว่าเป็นเรื่องที่ทำได้.. ผมเคยอ่านกลอนของคุณอัลมิตรา... บรรยายถึงพฤติกรรมของหลายคนที่เข้ามาใช้เวบร์นี้.. ผมอยากให้คุณอัลมิตรามองดูตัวเองด้วย.. ผมคงพอจะแสดงความคิดเห็นได้ เพราะผมก็เป็นสมาชิกเวบร์นี้.. เวบร์นี้ดีมากๆ ผมชื่นชมที่มีคนคิดทำขึ้น.. และก็ไม่อยากให้เหตุการณ์มันซ้ำๆ.. เข้ามา.. คุณอัลมิตราเองก็ควรที่จะคิดว่ามันเป็นเรื่องดี.. และก็ควรที่จะปรับปรุงตัวเองขึ้น การทำให้คนจำนวนมากถูกใจ มันไม่ใช่เรื่องง่ายหรอก ผมรู้.. แต่ก็ควรที่จะรับฟังและปรับปรุงตัวเอง.. เพราะคุณเป็นผู้ดูแลระบบ .. ที่ผมไม่ได้เข้าเยี่ยมเข้าแวะห้องคุณอัลมิตรา.. ก็เพราะคำเขียน คำโพสของคุณอัลมิตราดู จะเสียดกระทบมาทางผมอยู่หรอก ถ้าพูดกันตรงๆ คุณอัลมิตราก็ต้องตอบว่า ใช่.. ผมรู้ว่าคุณอัลมิตราจะตอบผมว่ายังไง.. ดอกข้าว....แสดงความคิดในฐานะสมาชิกของเวบร์ 14 ก.ค. 49 - 16:45 IP 203.158.118.14 จบแล้วค่ะ...เพื่อนสมาชิก... ต่อไปนี้...มีแต่การร่ำลากัน
15 กรกฎาคม 2549 11:36 น. - comment id 507509
เรียน ปีกฟ้า...(เจ้าของบ้านไทยโพเอ็ม) ภูตะวัน ตะวันรอน และเพื่อน ๆ ยินดีเป็นอย่างมาก ที่วันนี้ ปีกฟ้าให้เกียรติกับพวกเรา มาตอบกระทู้นี้ ซึ่งมีหลาย ๆ คนอยากจะเข้ามาตอบ แต่ไม่กล้าแม้แต่จะเข้ามาตอบ แม้แต่จะมาทักทาย ภูตะวัน และเพื่อน ๆ ไม่ยกโทษ ให้ ปีกฟ้าหรอกค่ะ. เพราะ ปีกฟ้าไม่ได้ทำผิดอะไร แต่ต้องกล่าวคำขอโทษแทนที่อาจจะทำให้ปีกฟ้าวุ่นวายใจ กับเหตุการณ์นี้ที่เกิดขึ้น .ไม่ได้ต้องการก่อกวนใด ๆ แต่เจตนาแค่อยากพูดความจริง .การคอมเมนท์ผู้ดูแลระบบ..อาจจะไม่เหมาะสมสำหรับบ้านหลังนี้ ภูตะวัน ก็อยากให้ทุกท่าน ได้อ่านคอมเมนท์อีก 1 เสียง ของคุณ ดอกข้าว หนึ่งในสมาชิกบ้านกลอน ที่ไปตอบไว้ในกระทู้ที่เกี่ยวข้องอีกกระทู้หนึ่งภูตะวัน ขออนุญาตยกมาแปะที่ด้านล่าง เพราะให้ข้อคิดที่ดี ๆ ได้ และขอขอบคุณ 1 คอมเมนท์ ของคุณดอกข้าวที่ตรงนี้ ภูตะวัน อยู่ที่นี่...มา 3 ปี รักและผูกพันกับที่นี่มาก และมักจะตอบคำถามหลาย ๆ คนว่า เริ่มเขียนงานที่นี่ มาวันนี้...ความเหนื่อยล้า...ที่มีมันมากมาย....สมาชิกหมายเลข 6421 ก็คงยุติการเขียนงานลงที่ตรงนี้ .....บทนี้คงเป็นบทสุดท้ายจริง ๆ วันนี้.....ปีกฟ้า..ออกมาตอบที่ตรงนี้แล้ว อย่ากลัวกันเลยค่ะ....ถ้าแค่วันนี้คุณจะออกมาร่ำลา ภูตะวัน ตะวันรอน กันสักทีเพราะนี่คือกระทู้สุดท้าย ที่คุณจะได้ร่ำลา... ขอบคุณค่ะ ปีกฟ้า สำหรับบ้านที่ให้พักพิงมาเกือบ 3 ปี ขอให้พัฒนาเวปไซด์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น คงไว้ด้วยเหตุผล และความยุติธรรม ต่อไป ขอบคุณค่ะเพื่อนสมาชิก ที่เคยมีความรู้สึกดี ๆ ให้แก่กัน ขอบคุณความผูกพันที่เคยมี.... ภูตะวัน ตะวันรอน สมาชิกบ้านกลอนไทย หมายเลข 6421 15 กรกฎาคม 2549
15 กรกฎาคม 2549 10:23 น. - comment id 513292
ปีกฟ้าครับ ผมต่างหากที่ต้องขอโทษปีกฟ้า ที่ทำให้ปีกฟ้าวุ่ยวายใจ ....อย่าขอโทษกันเลยครับ เพราะปีกฟ้าไม่ได้ทำอะไรผิด .....เพื่อปีกฟ้า เพื่อเจ้าของบ้านที่อบอุ่น รับคำขอโทษของผมด้วยครับ .........ขอโทษครับ....
15 กรกฎาคม 2549 08:20 น. - comment id 516354
ภูครับ พี่จิ๋ง เรไร และเพื่อนๆครับ อย่าโกรธกัน ทะเลาะกัน หรือ น้อยใจกันเลยนะครับ เห็นความตั้งใจภู พี่ๆกับเพื่อนๆที่ไปช่วยเหลือเด็กๆแล้วน่าดีใจแทนพวกเค้า ถ้าหนักนิด เบาหน่อยแล้วอภัยให้กันได้ ก็เป็นเรื่องที่น่าดีใจมากนะครับ และอย่างไรก็ตาม ผมขอเป็นส่วนหนึ่งในการขอโทษ สำหรับทุกๆอย่าง กรุณายกโทษให้ด้วยครับ
15 กรกฎาคม 2549 10:25 น. - comment id 518650
พี่ภู กว่าอ้อยจะเข้าเน็ตได้ก็ต้องวุ่นวายพอดู กลับมางานเป็นพะเนิน อ้อยไม่รู้จะพูดยังไง รู้แต่ว่าเสียใจเท่านั้น
14 กรกฎาคม 2549 16:47 น. - comment id 590062
ขอแสดงความเห็น ในฐานะคนกลางนะครับ ผมเคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาตั้งแต่ตอนไปเที่ยวทะเลครั้งก่อนแล้วนะครับ มาได้ยินครั้งนี้เป็นครั้งที่สองแล้ว ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกลับบ้านกลอนหลังนี้ของเราอ่ะครับ ไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเลยอ่ะครับ รู้สึกใจหายยังไงไม่รู้ ทุกคนในบ้านหลังนี้มารู้จักกันได้ ก็เพราะบทกวี อยากให้บทกวีสมานความสัมพันธ์ของสมาชิกในบ้าน กลับเป็นเหมือนเดิมด้วยครับ
14 กรกฎาคม 2549 17:27 น. - comment id 590065
หายใจไม่ค่อยออกเลยค่ะ
14 กรกฎาคม 2549 20:42 น. - comment id 590083
เอาอีกแล้วไงทำไมเกิดอีกแล้วหากินกันง่ายๆๆเลยเหรอ เล่นมาปล่อยเพศแม่ลงที่อนุสาวรีย์ตอนตีหนึ่งนี่นะ อยากรู้ว่าคิดกันได้ยังไง บางคนต้องนั่งรถแท็กซี่กลับบ้านคนเดียวมันน่ากลัวมาก ถ้าโดนแท็กซี่มันจี้ขมขืนฆ่าตายขึ้นมาจะเกิดอะไรขึ้น แย่มากๆๆเลย ทำไมหากินกันแบบนี้ บุญหรือบาปกันแน่ผู้จัดบอกหน่อย บอกตรงๆๆเสียความรู้สึกมากๆๆ
15 กรกฎาคม 2549 20:55 น. - comment id 590194
..
16 กรกฎาคม 2549 13:53 น. - comment id 590327
โอดครวญขนาดหนักฟูมฟายทั้งที่ไม่มีใครทำอะไรเรียกร้องความสนใจเกินเหตุทั้งหัวหงอกหัวดำตุ๊ดทอมเป็นไปหมด
16 กรกฎาคม 2549 14:21 น. - comment id 590331
สิ่งที่ท่านร่วมกันทำทำบุญในครั้งนี้ เป็นสิ่งที่ สวยงาม ดีงาม ที่สุด ปัญหา แล อุปสรรค ที่มีที่เกิดขึ้น ที่ไม่เข้าใจ กัน เป็นเรื่องที่น่าจะทำความเข้าใจและ แก้ไขให้ลุล่วงไปได้ โดยใช้ความจริงใจ หัน หน้าเข้าปรึกษากัน เห็นอกเห็นใจซึ่งกันและ กัน รับฟังเหตุผลของแต่ละฝ่ายด้วยเมตตา จิต หนักนิดเบาหน่อยก็จงอภัยให้แก่กัน การที่ทุกท่านร่วมทุกข์ร่วมสุขในการทำบุญ ครั้งนี้ นับว่าทุกท่านเป็นผู้มีจิตใจดีงาม มี ความตั้งใจดี เป็นผู้ควรแก่การสรรเสริญ จึง เป็นเรื่องน่าเสียใจอย่างยิ่ง หากความไม่เข้า ใจที่เกิดขึ้นนั้น จะทำให้มิตรภาพของทุกท่าน ต้องสูญสิ้นไป อยากให้ทุกท่านช่วยกันคิด แก้ไขความไม่เข้าใจตรงนี้ให้ผ่านพ้นไปได้ ด้วยดี เพราะ ยังมีสิ่งดี ๆ รอ ให้ทุกท่านไป ช่วยกันอยู่อีกมากมาย บางที ความไม่เข้าใจกันที่เกิดขึ้นในครั้ง นี้ จะเป็นเรื่องที่ดีที่ทำให้ท่านเข้าใจกันมาก ยิ่งขึ้นไปกว่าในอดีตก็ได้ เพียงแต่ท่านต้อง ทำความเข้าใจต่อกัน ด้วย ความจริงใจ ด้วย ความรัก ด้วยความเอื้ออาทร ด้วยความ ห่วงใยกัน คุณภู ฯ คับข้องใจอย่างไร ก็ชี้แจงออกมาให้หมด คุณอัลมิตรา ก็ชี้แจงข้อข้องใจให้หมด ทั้งนี้ทุกๆท่านต้องไม่ยึดติดกับความคิดของ ตนเอง ที่ว่า มันต้องเป็นอย่างที่ฉันคิดไว้ คำ ชี้แจงเป็นเพียงคำแก้ตัว ขอให้ท่านขจัด ความคิดที่มีอคติเหล่านี้ออกไปจากจิตใจให้ หมด เชื่อว่า ความไม่เข้าใจที่เกิดขึ้นนี้ แก้ไขได้อย่างแน่นอน คุณภู ฯ เป็นคนดี คุณอัลมิตรา เป็นคนดี ไม่อยากเห็น คนดี ๆ ต้องมาแตกแยกกัน เพราะความไม่เข้าใจกันอย่างนี้ เพราะ อยากเห็น คุณภู คุณอัลมิตรา และ เพื่อนๆ ได้ร่วมกันทำประโยชน์ดีๆแบบนี้อีก ต่อไปเรื่อย ๆ ชีวิต คนเรา มันสั้นนัก หนักนิดเบาหน่อย ก็อภัยให้กันเถิด อยากให้ รัก กัน ไว้ ให้ มาก ๆ นะ ครับ
16 กรกฎาคม 2549 16:20 น. - comment id 590369
16 กรกฎาคม 2549 20:08 น. - comment id 590411
..นายกาลามังเป็นพี่ชายนางสาวกาละแมเปล่าคะ.... มัย? ไม่กินกาละแม..?.. บอกเหตุผลทีดิ๊! ..ฮึ!! .. เรนขออนุญาตพี่ภูฯ.นะคะ...
16 กรกฎาคม 2549 23:32 น. - comment id 590455
ภูเอ๊ยขนาดชื่อมันยังก๊อปปี้เลยนี่หรือบ้านนักกลอน ไม่ใช่มั้ง กลับถ้ำเถอะที่นี่นักก๊อปปี้มันเยอะ
17 กรกฎาคม 2549 11:57 น. - comment id 590582
ชื่นชมคุณภูครับ ไม่อยากให้เกิดความร้าวฉานเลย เชื่อว่าทุกคนทำดีที่สุดแล้ว ถ้าผมเข้า กทม. เมื่อไหร่ ผมขอเลี้ยงข้าวและแอลกอฮอล์ซักมื้อนะครับ ถ้าจะมาบ้านท่าล้งอีกเมื่อไหร่ บอกผมบ้างนะครับ
17 กรกฎาคม 2549 19:59 น. - comment id 590748
ก็ที่นี่น่ะมันหลอกลวงกันมานานแล้วไม่รู้มั้ง
20 กรกฎาคม 2549 10:02 น. - comment id 591452
พรุ่งนี้ก้อเช้าแล้ว รักเพื่อน..สนับสนุนคนทำดีที่ไม่มีส่วนร่วมโครงการเพราะเพิ่งทราบข่าวถ้ามีโอกาสพร้อมแบ่งปันรอยยิ้มให้เด็กๆ
20 กรกฎาคม 2549 15:44 น. - comment id 591542
.... ไม่ได้เข้ามานานเลย เกิดอะไรขึ้น ... ใจเย็นๆกันนะ เพื่อนกลอนเก่ากันทั้งนั้น เสียดายวันเวลาเก่าๆนะ
28 กรกฎาคม 2549 08:42 น. - comment id 593331
..