หนึ่งกระดาษเปื้อนเปรอะเลอะด้วยหมึก รอยจารึกผนึกสีที่แต่งแต้ม ไร้รูปเดิมเพราะเติมเพิ่มสีแซม แดงดำเขียวแกมส้มผสมกัน จนมิอาจแยกชัดถนัดเห็น ความชัดเจนเป็นรูปลักษณ์ในสีสันต์ ลบไม่ได้แต่ใส่เพิ่มเติมเท่านั้น จนถึงวันมันหมดค่าราคาไป เพราะมิอาจใช้งานซ้ำจำต้องทิ้ง เหมือนทุกสิ่งความจริงแท้กฎแปรไว้ เป็นสิ่งของไม่ต้องการใช้งานใหม่ เพราะค่าไร้ใช้ไม่ได้อีกครั้งคราว เปรียบกระดาษที่วาดไว้ใจมนุษย์ เดิมบริสุทธิ์ผุดผ่องใสในสีขาว หลายเหตุการณ์ผ่านไปในเรื่องราว เผชิญโลกยาวนานผ่านเวลา สิ่งกระทบเปรียบหมึกสีที่เขียนวาด บนกระดาษเติมลงไปใจปรารถนา ยากจะลบเพียงกลบเกลื่อนบิดเบือนค่า เพียงสรรหาพาแต่งใหม่ให้ดูดี ใจกระดาษวาดเขียนเมื่อแปดเปื้อน คอยย้ำเตือนเหมือนแผลเป็นไม่เร้นหนี เพียงแต่งแต้มแซมให้สวยด้วยวิธี ปรับปรุงชี้ให้ดีขึ้นแค่นั้นเอง
17 มกราคม 2549 06:06 น. - comment id 553613
..เมื่อใจมันเลอะ..ลบไม่ได้.. เพียงแต่งแต้มแซมสีใหม่.. ให้ดูดี....เมื่อนานเข้า.. มันก็คงไร้ค่า... เฉกกับใจคน.... ที่ถูกหลายสิ่งมากระทบ.. ย่อมแปดเปื้อน...และลบออกไม่ได้ ยังคงติดอยู่... ให้คิดถึง...จนวันตาย... ขอสดุดีพระคุณครู...ในวันครูที่ผ่านมาครับ.. ถ้าไม่มีท่านเหล่านั้น..ก็ไม่มีผมในวันนี้ ขอคุณทุกท่านที่เป็นกำลังใจให้เสมอมา
17 มกราคม 2549 13:21 น. - comment id 553700
ใจมันเลอะลบซักมักไม่หาย มันคงคล้ายผ้าขาวถุกแต้มสี หากปล่อยไว้เลอะเทอะดูไม่ดี สมควรที่น้อมนำธรรมมาเติม ใจเลอะเอาธรรมะมาปรุงแต้มคงจะดีเนาะ
17 มกราคม 2549 15:27 น. - comment id 553728
หากงานนั้นสร้างด้วยปลายปากกา ก็คงหาหนทางลบยากหนักหนา อาจใช้ทั้งความเศร้าและเวลา ที่จะหาซึ่งหนทางอันยาวใกล ทว่างานนั้นสร้างด้วยปลายดินสอ ก็คงพอมีทางลบเลือนหาย ไม่ทิ้งรอยเจือจางไว้เรียงราย สิ่งสุดท้ายทิ้งไว้ให้เลือกจำ
17 มกราคม 2549 15:39 น. - comment id 553735
...เยี่ยม...
17 มกราคม 2549 18:42 น. - comment id 553793
ในเมื่อลบหมึกไม่ได้ ก็แต่งเติมให้รอยนั้นสวยก็ได้ อื่ม ก็จริงเนอะ
17 มกราคม 2549 23:52 น. - comment id 553884
เข้าใจเปรียบเทียบเนาะ น่าอ่านและน่าคิด...
18 มกราคม 2549 14:57 น. - comment id 553970
สีสัน ... :)