ไหวลมใจแผ่นดินภูระโลก ไกวดอกโศกสู่เหวบาดาลสถาน งามดอกไม้ปาริชาตช่อตระการ เบ่งบานประดับภูมิเบื้องบรรพต แว่วเสียงทองการเวกมาครวญหา จากป่าหิมพานต์หวานหยาดหยด โผผกเทียมเวหาสราชรถ ทศทิศโพยมยานไปลับตา ไหวลมใจงามแผ่นดินชมพูนที สายวารีบ่าเซาะเพิงภูผา งามเงื่อนเงาอรัญเถาวัลย์วนา ปรารถนาสนองนับชั่วกัปกัลป์ โค้งเคียวทองข้าวรวงรุกขชาติ บรรเลงพาทย์โรยลมหอมมากล่อมขวัญ ปวงพฤษภกงเกวียนกล้าสารพัน อภิวันเทพีข้าวคุ้มดินแดน ประหนึ่งสายชีวามหาอุปรากร มหิธรเจ้าของธาตุอากาศแสนย์ ปรุงฟากฟ้าสุธารสมิขาดแคลน แว่นแคว้นสุวรรณภูมิสุนทรีย์ เสนอสนองวิญญาญสมานสมัย จักไม่ไปแม้พรหมโลกวิเศษศรี แตกดับเกิดกลายหลายพันปี ผลิพลีแด่มนุษย์ทุกยุคไป โรยละอองสายน้ำค้างกลางหาว คืออัสสุชลหมู่ดาวยิ่งใหญ่ วิปโยคกระจิดกระจ้อยน้อยใจ รำไพพรายพระจันทร์วันเพ็ญ สะอึกสะอื้นยังเหม่อมองโลกธาตุ ลานสะอาดดอกหญ้าดาราเห็น หนึ่งแววตาชรายากอยู่ลำเค็ญ จักฉายแสงพอเป็นทิพย์ส่องทาง กลั้นลมใจรวดร้าวดาวอมโศก อับโชคแสงส่องคุ้งเมื่อรุ่งสาง ปรุงธาตุแผ่นดินเช้าค่ำอำพราง แล้วปล่อยวางชีพจรสอนวิมุตติ หมู่ปลากระซิกกระซี้สายน้ำไหล เสรีภาพอันใดใหญ่เท่ามหาสมุทร เกลียวสาหร่ายกิเลสร้อยคอยมนุษย์ หลงดำผุดเริงวัฏฏะทัศนาจร กาลโยคเวลาคล้อยมิคอยเกิด เถิดตอบแทนผืนดินถิ่นบรรจถรณ์ อันสิ่งใดในโลกนี้มิถาวร สองพันปีมลายรอนอันตรธาน หลากหลายธรรมชาติแก่นชีวิต เหลือสถิตนิดน้อยคอยลูกหลาน เสพลาภใดหนอมนุษย์สุดประมาณ แม้นิพพานอัปยศหมดทางไป ใกล้สิ้นโลกปางบรรพ์นิรันดร์แล้ว ฤาจักปลดบ่วงแร้วนรกสมัย อวสานสายธาราฟากฟ้าครรไล อนาถใจชีพแผ่นดินมาสิ้นบุญ ------------------------------------ หลายศตวรรษแล้วที่ทรัพยากรแผ่นดินผืนนี้ได้หล่อเลี้ยงมนุษย์ ทั้งจตุรธาตุที่แตกดับแล้วก็เกิดใหม่นับประมาณค่าบ่มิได้ จากบรรพบุรุษรุ่นแล้วรุ่นเล่า จวบจนปัจจุสมัย... ข่าวคราวการอันตรธานไปแห่งทรัพยากรทางธรรมชาตินั้น ได้ทวีความรุนแรงขึ้นทุกเมื่อเชื่อวัน อาทิ ป่าไม้ และแหล่งน้ำจืด ที่นับวันจะส่งผลกระทบทางด้านนิเวศวิทยา ชีวิตและผู้คน ฝนแล้ง น้ำท่วม แผ่นดินถล่ม ฝนกรด อากาศเป็นพิษ น้ำเน่าเสีย ทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้คือผลพวงของการเสพประโยชน์จากธรรมชาติ ที่ขาดความสมดุลของมนุษย์ทั้งหลายนั้นเอง ถึงเวลาหรือยังที่เราจะหันกลับมาชุบชีวิตธรรมชาติแหล่งสุดท้าย ก่อนอำลาโลกนี้อย่างนิรันดร์ ปลูกต้นไม้ตอบแทนผืนแผ่นดินเนาว์ ศักราชใหม่เราหวังว่าจะร่ำรวยและมีเงินทองมากมาย แต่จะมีใครสักกี่คนที่หวังจะได้ป่าไม้ แม่น้ำใส อากาศบริสุทธิ์ เพิ่มมากขึ้น คิดแล้วก็ได้แต่เศร้าเมื่อลมใจแห่งแผ่นดินกำลังขาดรอน รอเพียงวันธรรมชาติลงโทษอีกครากระนั่นหรือ??? ----------------------------------------------------- ลำน้ำน่าน บุรุษแห่งสายน้ำนิรันดร์ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๔๘
29 ธันวาคม 2548 02:37 น. - comment id 550004
มลายสิ้นจักรวาฬ .. happy new yea
29 ธันวาคม 2548 07:13 น. - comment id 550034
เพราะมนุษย์ทุรชาติอนาถแท้ ไม่แยแสธรรมชาติช่างขลาดเขลา มีแต่โลภหลงสมบัติจนมอมเมา แล้วโลกเราจะเหลืออะไรให้รุ่นหลัง ****สุขสันต์ปีใหม่นะขอรับ*****
29 ธันวาคม 2548 07:41 น. - comment id 550040
แผ่นดิน..ถิ่นนี้..ที่รัก พิงพัก..อาศัย..ใจห่วง สินทรัพย์..มีค่า..ทั้งปวง อย่าช่วง..ชิงกัน..ไม่ดี รักษา..เอาไว้..พี่น้อง ทั้งผอง..แดนไทย..เรานี้ อยู่อย่าง..เพียงพอ..ขอที รักมี..ให้ชาติ..มั่นคง
29 ธันวาคม 2548 09:47 น. - comment id 550066
ขอร่วมอนุรักษ์ลมหายใจขอแผ่นดินอีกคนหนึ่งค่ะ..
29 ธันวาคม 2548 09:58 น. - comment id 550068
ธรรมชาติเวลามีมาเปลี่ยน จะนวลเนียนเขรอะขระขยะแขยง ต่างสิ้นสูญงอกเงยตามลายแทง ในรอยแฝงวัฎจักรตระหนักเทอญ
29 ธันวาคม 2548 10:51 น. - comment id 550085
ทุกวันนี้ธรรมชาติก็วิปริตแปรปวรนเพราะผลพวงจากการกระทำของมนุษย์นี่แหละครับ.. ***แวะมาอ่าน ผ่านมาทักทายครับผม
29 ธันวาคม 2548 11:16 น. - comment id 550103
มลายสิ้นจักรวาล ____________ :]
29 ธันวาคม 2548 11:22 น. - comment id 550111
เป็นงานงามที่น่าทึ่งน่าศึกษาจริงๆครับ คิดถึงเสมอ แก้วประเสริฐ.
29 ธันวาคม 2548 12:21 น. - comment id 550139
งานกวีของพี่เขียนภาษาได้ดีนะครับ ก็อวยพรปีใหม่ให้พี่นะครับ ขอให้พี่มีความสุข สุขภาพแข็งแรง ปราศจาโรคภัยไข้เจ็บนาๆ ขอให้มีความสุขมากๆครับ
29 ธันวาคม 2548 12:50 น. - comment id 550155
ตราบยังมีลมหายใจกวีแก้ว ขวัญก็แพร้วโลกก็งามนิยามค่า ปาริชาติดอกไม้งามท่ามภพภูมิเหนือมายา ประดับหล้าคือลมหายใจไทวันนี้ แว่วเสียงครวญจากมวลมนุษย์อยากผุดพ้น จากทุกข์ท้นโคลนตมตราบชีพนี้ มีลมหายใจแสนว่างกระจ่างแจ่มทำความดี เพื่อพร้อมพลีดับลมร้อนก่อนพรากไกล วิมานหล้าวนาสวรรค์ฝันตรงหน้า รักทุ่งนารวงทองเนินไศล ทั้งห้วยหนองคลองบึงทั่วถิ่นไทย ให้ไสวพร่างพรายคล้ายทาบทอง ได้อาบอิ่มอุ่นเอิบบรรเจิดจิต สร้างทิพย์นิมิตเป็นพลังชนทั้งผอง ประหนึ่งสายวารีพลีนิรันดร์ขวัญฝากปอง ให้โลกครองสงบสุขปราศทุกภัย ลมหายใจแสนสั้นฝันแล้วสร้าง สู่หนทางพร่างบุญเกษมไสว กุศลทานการให้รักให้น้ำใจ คือคำไทคำทองครองผืนดิน รู้รักษ์ธรรมชาติพิลาสล้ำ รู้รักธรรมงามภายในกระแสสินธุ์ รักโลกหล้ากตเวทิตาฟ้าแลดิน ลมไฟสิ้นคือพลังศรัทธาค่าแห่งคน แล้ว... ยามตะวันดวงชีวาใกล้ลาลับ ชีพชนม์ดับไม่ยึดใดไม่สับสน พบสวรรค์วิมานงามในใจตน คือกมลอัญมณีที่ติดตาม นิทราฝันวันสิ้นลมในร่มเงาแห่งพระพุทธ บานบริสุทธิ์เหนือใดในโลกสาม กระจ่างแจ้งวางว่างร่างแสนงาม คือนิยามเหนือพรหมโลกโศกสิ้นแล้ว.. ..........
29 ธันวาคม 2548 16:02 น. - comment id 550192
เพราะน้ำมือของมนุษย์ผู้ทำลาย จะมาโทษใครที่ไหนกันละหนอ....จริงไหมค่ะลำน้ำน่าน หายไปนาน....พอกลับมายังมีบทกลอนดีๆมาฝากให้ได้อ่าน...... ชื่นชมผลงานเสมอค่ะ
29 ธันวาคม 2548 21:42 น. - comment id 550241
คนมักสำคัญผิดว่าตนยิ่งใหญ่นัก หลงไหลกับ เงินตรา อาวุธ อำนาจ จนลืมว่า...ท้ายที่สุด ก็ต้องกลับคืนสู่แผ่นดิน คุณลำน้ำน่านหายไปนานเลยนะคะ
29 ธันวาคม 2548 22:03 น. - comment id 550247
เคยคิดว่า .. เมื่อถึงเวลา โลกก็จะวนมายังจุดเริ่มต้นใหม่ สิ่งที่เคยคิดว่า .. ตอนนี้ก็ยังคิดอยู่
30 ธันวาคม 2548 04:06 น. - comment id 550297
อิอิ....กลอนงามแท้
30 ธันวาคม 2548 08:19 น. - comment id 550307
เรนรัก..บทกวีอันนี้จัง.. .. คิดถึง..พี่ชายนะคะ.. ซาแว้ปป..
30 ธันวาคม 2548 21:15 น. - comment id 550379
ลางที พระเจ้าอาจจะส่งเรามากระทำการอะไรบางอย่างแแก่โลกใบนี้ก็ได้ มาทั้งสร้างบางสิ่ง และทิ้งขว้าง ทำลาย บางอย่าง ทุกอย่างคงต้องวนเวียนเสมอ ไม่มีวันจบสิ้น ลางคราโลกนี้อาจจะถึงเพลาที่โลกใบนี้จบสิ้นเสียที สุขสันต์วันปีใหม่นะครับ
1 มกราคม 2549 14:41 น. - comment id 550649
ปีใหม่ได้อ่านงานงดงาม ชื่นใจจัง ขอให้คนแต่งมีความสุขสดชื่นสมหวังตอลดปีนะครับ
14 มกราคม 2549 12:11 น. - comment id 553181
บ่อยครั้งค่ะที่คนเรามักจะมองข้ามความสำคัญของสรรพสิ่งที่อยู่ใกล้ ๆ ราวกับว่าใกล้เกินไปจนมองไม่เห็นเสียงั้น แต่เมื่อวันใดสิ่งทรงค่าใกล้ตัวจักมลายหายสูญไปนั่นแหละจึงจักมองเห็นคุณค่า และพยามไขว่คว้าไว้ แต่บางครามันก็สายเกินการณ์แล้วหละ งานงามคุณค่าค่ะ