คนใจบาปบ่นพร่ำถ้อยธรรมะ คนกักขฬะขับลำนำทำนองเสนาะ คนโศกเศร้ากลั้นสะอื้นฝืนหัวเราะ เพียงจำเพาะอำพรางสร้างภาพลักษณ์ ยากเสแสร้งทุกสิ่งสมจริงหมด แต่ปรากฏเลศนัยให้ประจักษ์ ยิ่งกลบเกลื่อนเงื่อนงำทำเล่ห์นัก ยิ่งประดักประเดิดเกิดพิรุธ ขอเพียงเราคอยระวังช่างสังเกต ค้นหาเหตุโยงผลจนที่สุด ธรรมชาติธรรมดาของมานุษย์ ตอย่อมผุดทุกทีที่น้ำลด จึงเกิดหลักสำหรับการจับเท็จ กลเม็ดมุ่งข้อบริบท แค่พบความเคลือบแคลงแย้งประพจน์ คำโป้ปดปลิ้นปล้อนซ่อนไม่มิด ไหนจับแพะชนแกะแยกแยะออก ไหนกลิ้งกลอกกลับคำทำปกปิด ใช้ความรู้รอบด้านเอื้อการคิด ทั้งแง่วิทย์แง่ศิลป์ถวิลครบ หลอกได้แค่คนโง่ตามโอกาส ไม่สามารถหลอกผู้รู้เจนจบ ความรู้มีทั่วไปในพิภพ อย่าเป็นกบใต้กะลาปัญญาเซอะ
29 กันยายน 2548 22:15 น. - comment id 423133
ปายและ
29 กันยายน 2548 11:13 น. - comment id 520887
29 กันยายน 2548 12:46 น. - comment id 520901
ชื่นใจจังเลยแหะ :)
29 กันยายน 2548 12:47 น. - comment id 520902
คำตายคืออะไร..หรือลุง.. ถามเอาความรู้น่ะ ไม่ได้กวน..
29 กันยายน 2548 11:46 น. - comment id 520913
......อืม....
29 กันยายน 2548 13:46 น. - comment id 520965
หัวใจเต้นถี่ ก็แค่นี้แหล่ะ . ต้องมองให้ลึก ลุงกำลังบอกงี้ใช่ป่าวคะ สายตายาว ก็ได้เปรียบเด้อ
29 กันยายน 2548 14:16 น. - comment id 520982
เข้ามาชมผลงาน โอ้โห....สุดยอดค่ะ (สุดยอดไม่รู้ว่าดอกหรือใบนะคะ)
29 กันยายน 2548 15:03 น. - comment id 521018
มาอ่านงานสุดคม ดุจกระบี่จากผู้อาวุโส ...เลือดไหลซิบเลยครับ.. ผมส่งงานไปทางMail นะครับพี่เวทย์ช่วยอ่านให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ
29 กันยายน 2548 14:54 น. - comment id 521019
แวะมาอ่าน...ผลงาน แค่นี้แหละ
29 กันยายน 2548 17:29 น. - comment id 521096
อ่านแล้วก็อึ้งพูดไม่ออกเลยค่ะ
29 กันยายน 2548 17:52 น. - comment id 521112
คนสัญจรอ่านงานพาลผงะ ใครเกะกะขวางหูดูหงุดหงิด ต่อมอยากรู้อยากเห็นเริ่มเป็นพิษ ใครแผลงฤทธิ์ให้กริ้วคิ้วขมวด บอกสักนิกสักหน่อยค่อยสงบ อย่าให้ขบคิดตามหรือสำรวจ ใครก่อเรื่องขุ่นข้องจนต้องสวด คิดจนปวด(หมอง)อยากรู้..แค่นี้แหละ
29 กันยายน 2548 23:16 น. - comment id 521209
..ปัญญาเซอะ .. โลกยังกว้างทางไกลนัยประหลาด ที่เคยพลาดผิดหวังยังมีเยอะ กลับตัวไปกลับใจให้ได้เถอะ เผื่อจะเจอะสระใหม่ใสกว่าเดิม ลุงอาวกุญแจไว้หนายอ่ะ.. แจมหาทางเข้าคลังคำของลุงไม่ได้อ่ะค่ะ..
29 กันยายน 2548 23:21 น. - comment id 521213
สุดยอดเลยครับทั้งลีลาและความหมาย
30 กันยายน 2548 08:28 น. - comment id 521309
30 กันยายน 2548 12:30 น. - comment id 521445
คิดถึงพี่ท่านเจ้าคะ เจ้าสาวแห่งโลกวิญญาณ
12 ตุลาคม 2548 10:23 น. - comment id 526252
สุดยอดค่ะ เยี่ยม
21 ตุลาคม 2548 12:29 น. - comment id 529174
ขอยืนข้างกองไฟอันช่วงโชติ ผิงความโกรธโง่งมที่จมปลัก ให้แห้งหายตายจากซากชนัก จวบเจอหลักปักวางสร้างทางรักทาบ จะขัดบาปออกจากใจด้วยคำพระ จะขับละความหยาบคายด้วยกลอนกาพย์ จะสะอื้นยืนหัวเราะตามซึมซาบ จะยืนทาบความอำพรางปล่อยวางซาก -----
21 ตุลาคม 2548 13:01 น. - comment id 529195
ขอเป็นฟืนในกองไฟอันช่วงโชติ เผาความโฉดเขลาฉ้อเฉือนที่เปื้อนเปรอะ ให้มอดไหม้หมดจนพ้นความเลอะ จวบพบเจอะความสะอาดสิ้นอาสวะ จะสวดท่องถ้อยคำพระด้วยใจสะอาด จะขีดวาดกาพย์กลอนงามตามใจกะ จะร่ำไห้และครื้นเครงตามวาระ ตามเทศะที่เป็นเช่นไตรลักษณ์ ขอยืนข้างกองไฟอันช่วงโชติ ผิงความโกรธโง่งมที่จมปลัก ให้แห้งหายตายจากซากชนัก จวบเจอหลักปักวางสร้างทางรักทาบ จะขัดบาปออกจากใจด้วยถ้อยคำพระ จะขับละควาหยาบคายด้วยหมายกลอนกาพย์ จะสะอื้นยืนหัวเราะตามความซึมซาบ และยืนทาบความอำพรางปล่อยวางซาก ข้างกองไฟฯ (กองไฟที่มีอยู่ภายในตัวเราทุกคน) (กองไฟที่ช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่น) (กองไฟที่ช่วยเผาผลาญสารอาหารเพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงานแก่ร่างกาย) (กองไฟที่เผาไหม้ใจตัวเองให้เป็นทุกข์) (กองไฟที่ดับทุกข์ให้โดยการเผาไหม้ทำลายกิเลสภายในใจ)
20 ตุลาคม 2548 20:19 น. - comment id 531669
ขอเป็นฝืนในกองไฟอันช่วงโชติ เผาความโฉดเขลาฉ้อเฉือนที่เปื้อนเปรอะ ให้มอดไหม้หมดจนพ้นความเลอะ จวบพบเจอะความสะอาดสิ้นอาสวะ จะสวดท่องคำพระด้วยใจสะอาด จะขีดวาดขับกาพย์กลอนสวยด้วยใจกะ จะร่ำไห้และครื้นเครงตามวาระ ตามเทศะที่เป็นเช่นไตรลักษณ์ ...
13 พฤศจิกายน 2548 13:20 น. - comment id 537054
ขอเป็นฟืนในกองไฟอันช่วงโชติ เผาความโฉดเขลาฉ้อเฉือนที่เปื้อนเปรอะ ให้มอดไหม้หมดจนพ้นความเลอะ จวบพบเจอะความสะอาดสิ้นอาสวา จะสวดท่องถ้อยคำพระด้วยใจสะอาด จะขีดวาดกาพย์กลอนงามตามใจกะ จะร่ำไห้และครื้นเครงตามวาระ ตามเทศะที่เป็นเช่นไตรลักษณ์ ขอยืนข้างกองไฟอันช่วงโชติ ผิงความโกรธโง่งมที่จมปลัก ให้แห้งหายตายจากซากชนัก จวบเจอหลักปักวางสร้างทางรักทาบ จะขัดบาปออกจากใจด้วยถ้อยคำพระ จะขับละความหยาบคายร่ายกลอนกาพย์ จะสะอื้นยืนหัวเราะตามความซึมซาบ แหละยืนทาบความอำพรางปล่อยวางซาก ข้างกองไฟฯ ลักษมณ์