ฤทธิ์ สำแดงแต่งสร้าง..........โคจร นี้ ดั่งบ่มนิวรณ์.....................แห่งจ้าว มี อิทธิชัยสมร.....................อีกห่อน..ไข้นา ไว้ก่นหนทางท้าว...................บ่ายเข้า..ทางธรรม ซึ่ง พละแต่งแต้ม..................จิตนำ การ กอปรชอบเป็นกรรม......ท่านสร้าง สำ เร็จแห่งดวงธรรม............หาป่าว..บอกแล รวม เล่ากล่าวคำสล้าง...........ต่อสร้าง..สุญตา
24 กรกฎาคม 2548 00:23 น. - comment id 495043
ปรมัตถ์อันเด็ดขาด หาหมายมาตรวาดสิ่งใด เป็นอยู่คือกูไซ้ คือตัวได้ในกำกง ดั่งฟืนมาเติมเชื้อ ไม่กล้าเถือเพื่อดับลง หนาพอกยอกจิตคง ดำรงวัฏเป็นสัจเอย
24 กรกฎาคม 2548 11:45 น. - comment id 495098
:]
24 กรกฎาคม 2548 12:08 น. - comment id 495101
ไปวัดมาค่ะ ไปทำบุญสร้างโบสถ์กลางน้ำกับหลวงพ่อ เพราะ พุดอธิษฐานจิตไว้ค่ะ และ... ก็ทำมาตลอด นั่นคือบุญค่ะ และ ที่ดีใจมากคือ ได้กลับบ้านไปดูแล*วิมานวนา* ได้ไปนอนเหนือผาหิน ในสวนขวัญราวสวรรค์สรวงเพียงลำพัง ไปฟัง... เรไรจิ้งหรีดร้องระงมไปทั้งไพรพนา ให้... ใจดวงเหว่ว้า ยิ่งงามแสนงามแสนสงบสุขค่ะ ได้เดินไปในราวป่าใน เส้นทางสายสวน ที่เต็มไปด้วยแมกไม้ไพรใบดก แล ระยิบพร่าง ท่ามแสงตะวันส่องแยงยอดไม้ ไล้โลมลูบจูบละมุน ฝาก... กรุ่นหอมให้ณ..กลางกลีบเกสร และ.... อ้อนอวลให้ ใจดวงนวล...ดวงนี้... ได้ย้อนรอยถอยหลัง ไปสัมผัสอดีต ถอยไปในอดีต.. ที่เคยแสนสุขใจ ในสัมผัสร้อยรัดรึงตรึงใจขวัญฝัน มานานวันมานานเนามานานปี ที่วันนี้ได้กลับมา และ.... พาจิตใส ไปนมัศการพระพุทธในโบสถ์คร่ำ ได้ทำบุญ ในวันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา ได้ถวายเทียนทองผ่องพิสุทธิ์ จุดนำทางใจ ให้ยิ่งไสวงามในทางธรรม ได้ถวายผ้าอาบน้ำฝน ทำสังฆทาน ได้กราบกรานบรรดาญาติผู้ใหญ่ ได้แสดงน้ำใจไมตรีมากมาย ได้ทำสิ่งดีดีพลีฝากไว้ แด่ผืนดินเกิดแม้นสักนิดน้อย ได้ตื่นมาในยามเช้าตรู่ เฝ้าดูมวลหมู่นกกาผกผิน ได้เดินฝากถวิลในรอยทราย ยามร้างไร้ผู้คนริมทะเลอย่างดายเดียว ได้เลี้ยงกาแฟน้องๆในร้านแบบดิบเดิม สภากาแฟ ที่เป็นพื้นทรายหลังคาจากเปิดโล่ง รับลมเย็นในยามเช้า ที่มีหนึ่งเดียวแห่งเดียวในโลก ได้เฝ้าดูวิถีชีวิตผู้คน ที่เคยรักเคยรู้จักมานานเนา ตั้งแต่ยามเยาว์วัยมาทายทัก อย่างแสนรักแสนจริงใจ อย่างมิให้เหงาใจ....หากให้งาม ที่ทำให้แสนสุขสงบใจ ในทุกยามจดจำรำลึก และ...ค่ะ กับ..การกลับมา ในวันนี้ มาเมืองรอนเมืองหลวง นาทีนี้คอมรวน เลยแวะมาร้านเพื่อนค่ะ แถวปากซอยบ้าน มาฝากคำ ที่มีหนึ่งเดียวแห่งเดียวในโลก มาฝากรักฝากซึ้งใจนะคะ และ สักสองวันจะเปลี่ยนคอมใหม่แล้วค่ะ มีอะไรมากมายจะเล่า หากคีย์ที่นี่ไม่ชินใจชินมือค่ะ ทุกคนดีที่แสนรักแสนคิดถึง จึงจำต้องเอวังวังเวง บรรเลงได้แค่นี้ด้วยประการละฉะนี้ แล้วพบกันใหม่นะคะทุกคนดีในร่มรัก ที่จักตามอ่านงานงามของทุกดวงใจ แบบย้อนรอยถอยหลังเช่นเฉกกันค่ะ
24 กรกฎาคม 2548 22:03 น. - comment id 495202
แวะมาอ่าน ไกลศาสนามาก จึงไม่ค่อยจะเข้าใจเท่าไรค่ะ
25 กรกฎาคม 2548 02:02 น. - comment id 495226
แวะมาอ่านนะคะท่าน มีความหมายดี บทต่อด้านล่างยิ่งดีใหญ่ค่ะ จ้าว นี่จะ โยงเชื่อมกับ ฟ้าว หรือเปล่าค่ะ? แวะมาดูนะคะ
25 กรกฎาคม 2548 05:04 น. - comment id 495241
สวัสดีขอรับ คุณไรไก่ ผมก็ไกลอยู่นักขอรับ เลยพยายามทำความเข้าใจและก็หมั่นทำความรู้จัก จึงได้มาแค่นี้แล สวัสดีขอรับ คุณทิกิ ขอบพระคุณที่เข้ามาเยือน ชะแว๊บ..........รีบเปลี่ยนโดยฉับพลันขอรับอาจารย์ ฟ้าเปลี่ยนเป็นท้าว หน้าเปลี่ยนเป็นเข้า พอกล้อมแกล้มไปได้มั้ยน๊อออออออออออ ^_^
25 กรกฎาคม 2548 08:18 น. - comment id 495263
กจะแจมโคลงซักหน่อย..แต่มึนๆอยู่..ไว้คราวหน้าแล้วกันนะครับผม...แวะมาทักทายครับ
25 กรกฎาคม 2548 12:26 น. - comment id 495353
สวัสดีตอนเที่ยงค่ะ ไหนๆก็ไปบอกให้ทราบว่าเปลี่ยนแล้ว เลยมาดูค่ะ ยังมีอีกจุดค่ะ รอยสัมผัสโยงที่คำโคลง สอง จะโยงไปจากคำว่าจิตนะคะ ซึ่ง พละแต่งแต้ม..................ดวงจิต..ตรินำ การ กอปรชอบเป็นกรรม......ท่านสร้าง สำ เร็จแห่งดวงธรรม............หาป่าว..บอกแล รวม เล่ากล่าวคำสล้าง...........ต่อสร้าง..สุญตา ถ้าไม่เปลี่ยนจิต เป็นนำ ก็ต้องเปลี่ยน กรรม และ ธรรม เป็นสระอิ บวกตัวสะกดแหละค่ะ เลือกเอาแล้วกันค่ะ เอาใจช่วยนะคะ แค่นักอ่านธรรมดาไม่ใช่อาจารย์ค่ะ ขอบคุณที่มีน้ำใจเสมอค่ะ
25 กรกฎาคม 2548 21:45 น. - comment id 495567
ฟู่.......กว่าจะได้ เรียบโร้ยยยย ขอบพระคุณสักร้อยหนขอรับ
26 กรกฎาคม 2548 07:24 น. - comment id 495699
อริยะละแล้ว กิเลสมาร บ่เกริ่นกล่าวอวดการ ยกอ้าง ยิ่งอวดยิ่งเป็นพาล มานะจิต อุตริมนุสร้าง ความรู้แห่งธรรม
27 กรกฎาคม 2548 15:00 น. - comment id 496388
งามบทโคลงเขียนเรียบเรียง เรื่องกรรมเรื่องธรรมน่าอ่าน บทใดไหนเลยจะดีเท่านี้ปาน โคลงกลอนบทธรรมอ่านชื่นใจ มาชื่นชมการเขียนของคุณจ๊ะ...