รอยเกวียนเวียนหมุนกรุ่นรอย ตีนควายเรียงร้อย...เลือนหาย รอยเท้าชาวนาวางวาย ทุนนิยมแผ่ขยายประทับรอย... ฝุ่นควันโยงนามาเมือง ควายทุยเขาเขื่องเชื่องหงอย สนตะพายรุมรัดกระหวัดคอย เปลี่ยนจากควายมาเรียงร้อยหัวใจคน ทุ่มเม็ดเงินเพลินเยื่อเพื่ออยาก วัตถุกรากเข้าโถมโลมหน ปรุงปั้นตัณหามาให้ยล แล้วปล้นฉกเคล้าเป็นเงาตาม หว่านทุ่งมือถือเข้าเถือ หว่านเงินเป็นเยื่อขยาดขาม บ้านแพงเป็นแถวงดงาม รถยนต์ล้นหลามท่วมเมือง ถนนหนทางกว้างลิบ คดโค้งโยงขลิบฝุ่นเขื่อง ตึกรามงามฟุ้งรุ่งเรือง ไฟสว่างกลางเมืองวิไล... เม็ดทรายต้นทุนทุนนิยม กักตุนทับถมคว้าไขว่ อินทรีย์ผงาดปีกไกว พัดทรายท่วมฟ้าฝ้าฝาง ฝุ่นควันเริ่มจางบนทางเปลี่ยว โดดเดี่ยวดั่งแดนรกร้าง รถยนต์สนิทนิ่งข้างทาง ไฟมืดลมคว้างมืดมน ทางเกวียนไม่หวนย้อนรอย เชือกร้อยสนตะพายหน ทุนนิยมอื้ออึงอึงอล ทางเปลี่ยวกว้างล้นเกินแรงเดิน...
13 กรกฎาคม 2548 21:31 น. - comment id 491304
ชายว่าทางนี้เสียวมากกว่านะ เสียวว่าจะไม่มีกินมากกว่า งานของคุนเคียดจัง
14 กรกฎาคม 2548 08:43 น. - comment id 491416
เส้นทางนี้มีแต่ความหายนะรออยู่ ระบบทุนนิยม กัดกร่อนให้หัวใจของแต่ละคนยิ่งละโมภ ความที่มีพอ กลับไม่พอ ต้องการมีเกิน จึงจะเกินพอ สังคมเมืองเจริญแต่บางอย่างสวนกระแส เส้นทางที่ไม่อยากเผชิญ แต่ก็ต้องฝ่าไปให้จงได้ เพราะเป็นเส้นทางเดียวที่มีอยู่ค่ะ ในตอนนี้
19 กรกฎาคม 2548 09:44 น. - comment id 493264
คงจะเครียดจริง ๆ ครับ คุณชายเฉิ่ม และ ขอบคุณอัลมิตรา ครับที่มาเยือน