สุญตาต่อต้านสสารเปล่า มวลโหวงเบาสลับแน่นเหมือนแค้นคลั่ง หนึ่งอณูน้อยโหมโถมประดัง แม่เหล็กตั้งสัมพันธ์อนันตพจน์ เศษเสี้ยวนิดน้อยหนึ่งซึ่งถูกอัด อณูรัดบีบแหลกกระแทกกด ความว่างเปล่ายากทวนคำนวณทด สสารหดสาหัสมวลขัดแย้ง อัดแน่นจึงก่อเกิดระเบิดใหญ่ ซึ่งเป็นไปด้วยวิถีโสตสีแสง ร้อนเย็นคลื่นอัคคีที่เปลี่ยนแปลง ขยายแรงจักรภพจบอณู กำเนิดดาวนับล้านสสารวิจิตร เขียนชีวิตจักรวาลการต่อสู้ กัมปนาทกราดเกรี้ยวเสียงเกรียวกรู เปิดมวลปูปรับทางสร้างตัวตน อาทิตย์ขีดบรรทัดอุบัติฟ้า เป็นโลกหล้าลมแสงทุกแห่งหน ชีวิตจึงแจงจัดพืชสัตว์คน วุ่นเวียนวนคืนวันผันผ่านไป กำเนิดจากนิยามความว่างเปล่า ทุกค่ำเช้าเกิดวิญญาณผ่านสมัย คนสมมติความคิดพอกจิตใจ มุ่งเป็นใหญ่แก่งแย่งแข่งชิงดี เกิดนิยมตัวตนบนความว่าง ยึดเค้าร่างอุปาทานจารวิถี อวิชชาก่อวิบากความอยากมี จึงเกิดกลีเกลือกกลิ้งวิ่งไล่ลม บ้างไม่มีไม่ได้ก็คล้ายทุกข์ บ้างหลงความสนุกก็สุขสม เป็นคราวครั้งบอดบ้าตามอารมณ์ เพราะนิยมยึดจิตคิดจับเงา เพียงเวลาผ่านผันคืนวันเปลี่ยน โลกก็เวียนหมุนรับกลับใหม่เก่า วัฎจักรสลายนามความมัวเมา คืนสู่ความว่างเปล่าเท่านั้นเอง
10 มิถุนายน 2548 17:58 น. - comment id 478153
มดว่ามดเข้าใจนะ เป็นอีกบทที่อ่านแล้วยิ้ม มันเป็นสัจธรรมดี ไหนใครไม่เข้าใจ?? อิอิ
10 มิถุนายน 2548 18:17 น. - comment id 478160
10 มิถุนายน 2548 19:37 น. - comment id 478183
สุดท้ายก็ได้เป็นได้แค่นั้นจริงจริงค่ะ ชื่นชมในผลงานคุณเสมอ แต่งได้ดีมากๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ
10 มิถุนายน 2548 19:57 น. - comment id 478200
นึกถึงเรื่องของไอแซค อาซิมอฟ เรื่องนึงครับ รู้สึกจะเป็น สองศูนย์ศูนย์หนึ่ง โอดิสซี่ อะไรนี่แหละครับ... เขียนได้ดีครับ..
11 มิถุนายน 2548 12:48 น. - comment id 478430
หากจักรวาลมีจิตสำนึก คงดีน่าดู อิ อิ..