ผ้าแพรวา อาภรณ์พรรณ อันอ่อนช้อย ร่วมเรียงร้อย หัตถศิลป์ ถิ่นอิสาน วิจิตรประจักษ์ สลักหล้า มาช้านาน ผสมผสาน ผ่านเชิงชั้น อันบรรจง เส้นสายไหม วิไลวรรณ ปานทองแต้ม กนกแกม แต้มเติมไหม ให้ระหงส์ กระสวยสอด ประสานศิลป์ ดิ้นทองลง สอดประสาน วิจิตรส่ง คงแพรพรรณ ฟืมกระตุก รุกเล่นลาย ร่ายลายผ้า เหยียบซ้ายขวา สอดกระสวย ช่วยเสกสรรค์ กระชับมือ กระตุกกี่ ทุกวี่วัน เกิดแพรพรรณ อันวิจิตร สถิตย์ไทย เสียงฟืมกี่ ประสานสลับ กับกระสวย ระรินระรวย เป็นเพลงผ้า แพรวาไสว ลำนำล่อง ทำนองยาว สาวผู้ไท ขิดหมี่ไหม ลายระย้า โสภาพรรณ หมู่หนุ่มสาว ชาวผู้ไท ใช้นุ่งห่ม ประสานประสม ระอองกลิ่น ศิลป์เสกสรรค์ ใช่เพียงเห็น แค่ผืนผ้า แพรวาพรรณ แต่รังสรรค์ เพื่อสืบสาน งานแผ่นดิน แต่บัดนี้ เพลงผ้า มาเลือนหาย เสียงฟืมกี่ กระสวยสาย ก็หายสิ้น เสียงเครื่องจักร ถักทอผ้า มากลืนกิน ไร้เพลงศิลป์ ถิ่นเพลงผ้า มาบรรเลง
7 พฤษภาคม 2548 14:22 น. - comment id 463184
เเวะมาเยี่ยมลุงป๋อง ไพเราะดีคับ นับถือๆ
7 พฤษภาคม 2548 18:58 น. - comment id 463298
ยอดเยี่ยมอีกเช่นเคย อ่า ลุงทะลักเคยคิดที่จะเขียนกลอนไม่เพราะบ้างมั๊ยค๊ะ??? แหะๆ เอ๊ออ - - - อุดรมีผ้าหมี่ขิดนะจะบอกให้ หุหุ (( มีใครอยากรุมะเนี่ย ไม่สนๆ ไม่อยากรุก็จะบอก))