คีตกะขานรับสรรพเสียง เปล่งสำเนียงลมใจไพรบุปผา เรงเร้าแสงสีทองให้ส่องมา ปลุกดุเหว่าวัยชราสาธุชน รับอรุณพุทธะดฤถี ดุษณีไตรรัตน์นิพัทธกุศล ธรรมธรศีลมัยไร้จินต์จล พุทธมณฑลสงบงามยามรุ่งนี้ ดอกมะลิข้าวจ้าวหนาวค่อนคืน สุคนธ์อื่นบ่เทียมเรียมรวงศรี หอมข้าวใหม่ไอนึ่งซึ่งฤดี อุ่นไมตรีอรุณฤกษ์แย้มเบิกฟ้า อุโบสถโพ้นพรรษาจันทราล่วง กลางไตรวัฏบาศบ่วงเสน่หา เวไนยชาติดาษดื่นผืนพารา ยึดเอกธรรมปฏิมาคุณากร โหม่งตะโพนกังสดาลจากย่านวัด ยังสงัดให้คลายคล้ายเสียงสอน ฝูงวิหคแตกพรูสู่ดงดอน จากคบขอนเดียวดายปลายทิวตาล จัดสำรับเตรียมข้าวก่อนดาวเลื่อน เด็ดบัวเผื่อนพับจีบกลีบผสาน ถวายสงฆ์เอกบุรุษพุทธทาน อภิบาลศาสนาสรณตรัย พลีศรัทธาสืบทอดยอดพระธรรม ด้วยเสียงสวดมนต์ร่ำเจิมสมัย กำแพงแก้วคุ้มเหตุปวงเภทภัย แว่วรำไรโชยคว้างพร่างธูปควัน พุทธสาวกเดินผินบิณฑบาต น้ำค้างทรงหยดหยาดดาษสวรรค์ ทั้งไตรทิพย์เทวาอภิวันท์ พรหมจรรย์ผืนผ้ากาสาวาพัสตร์ จบขันข้าวตั้งจิตอธิษฐาน ไตรทวารน้อมนพสงบสงัด รัศมีธรรมภพนพรัตน์ ดั่งมนต์ขลังธรรมสัจทรรศนีย์ ฤาแสงไต้ฤกษ์ฟ้าวนาสวรรค์ ร่วมเสกสรรค์จาตุรนต์รัศมี สว่างวาบอาบสัตว์ทั้งภพตรี ดุษฏีศรีไตรสรณคมน์ จวักแรกข้าวตักพักลงบาตร จิตสะอาดศรัทธาถาถั่งถม ดั่งบัวบานเหนือนทีหนีหล่มตม ตื่นจากหลงโง่งมอวิชชา จวักสองครองจิตพิศพระธรรม ประกาศย้ำพระธาตุศาสนา รู้พระไตรฯ ชินสีห์อภิญญา เอกธาดาอริยะพุทธเจ้า จวักสามนิยามนามมรรคผล เบิกบานตนบนทางพร่างสีขาว เดินทางไกลในวัฏฏะอันยืดยาว สุขอะคร้าวเหนือใจธไนศวรรย์ คีตกะบรรเลงเพลงสันโดษ กล่อมอุโฆษกล่อมแคว้นแถนรังสรรค์ สัตว์ไตรจักรนฤทุกข์สุขวัยวัน เพราะยึดมั่นในไตรสรณคมน์ ------------------------------ คืนนี้พระจันทร์กำลังทอแสงอวดนวลระยิบเต็มดวง ชวนให้นึกถึงคืนวันพระจันทร์งามในอดีต และเงางามแห่งการเวียนเทียนในวัดเก่าโบสถ์คร่ำ รุ่งเช้าที่ข้าพเจ้าตื่นขึ้นมาใส่บาตรพร้อมกับลำนำน้ำค้างทรงหยด ชวนนึกไปถึงฉากภาพหนึ่งของนักเขียนในดวงใจ *ทมยันตี* บรรยายตอนแม่มณีจันทร์ตื่นขึ้นมาในเรือนไทยโบราณ ของท่านเจ้าคุณอัครเทพวรากร ไว้อย่างจับใจว่า ดาวเลื่อนเดือนลอยคล้อยเคลื่อน ไก่แก้วขันเตือนแซร่ศัพท์ ดุเหว่าแว่วหวานขานรับ น้ำค้างหยัดหยดย้อยพร้อยพราย (ทวิภพ) ข้าพเจ้าคิดว่าเวลาที่เรามีความทุกข์ที่สุด สิ่งเดียวที่จะอธิบายและแก้วิกฤตภายใจได้คือพระธรรม และอายตนะอันสะอาดบริสุทธิ์แห่งธรรมชาติ จึงเพียรพยายามโน้มใจเข้าหาพระไตรสรณคมน์ หากภาระบนบ่ายังหนักอึ้งท่ามกลางกระแสสังคม ลองยึดพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์เป็นที่พึ่ง ไตรสรณคมน์ อาจเป็นคำตอบสุดท้ายกับครรลองชีวิตที่ทุกข์ทน ในสังสารวัฏอันยาวยึดนี้........ คืนนี้แหงนหน้ามองพระจันทร์บนฟ้าซิ แล้วเจอกันที่บนนั้น แสงจันทร์พรรณรายนวลธรรม ที่ข้าพเจ้ากำลังจ้องมองอย่างดุษณีสิโรราบ
25 เมษายน 2548 03:11 น. - comment id 460072
ผู้ใดมองเห็นธรรม ผู้นั้นมองเห็นตถาคต....... นี่คือสัจจธรรม คือความงามในจิต ความงามในสิ่งในธรรมชาติโดยแท้... มาทักทายยามดึกครับ........
25 เมษายน 2548 08:03 น. - comment id 460106
ทำอะไร ทำให้ดี มีธรรมะ เข้าระสม และประสะ ปัญหาสลาย มีแต่ความ ราบรื่น ชื่นใจกาย มิตรสหาย พลอยสุขสันต์ ทั้งนั้นนา ฯ ( บทธรรมท่านพุทธทาสภิกขุ) รับแนวคิดที่ดีด้วยใจ งานให้ข้อคิดงามจริง ขอบคุณค่ะ
25 เมษายน 2548 10:35 น. - comment id 460157
งดงามค่ะ ทาน ศีล และภาวนา.. ในไตรสรณคมน์.. น้อมรับธรรมอันเป็นของผู้ประพฤติดี.. ..
25 เมษายน 2548 10:53 น. - comment id 460165
เพราะมากค่ะ ลำน้ำน่าน.........ดาเองก็จะชอบมองพระจันทร์ในคืนเดือนเพ็ญเสมอ........เพราะว่ามันทำให้เราคิดถึงอะไรต่ออะไรอีกมากมายเลย........คิดถึงทั้งเรื่องสุขและเรื่องทุกข์ ที่ผ่านเลยมาแล้ว....และก็เรื่องที่เรากำลังจะต้องพบเจอในวันต่อๆไป.........ดาคิดและตั้งจิตอธิฐานเอาไว้เสมอว่า.........เกิดชาติใดขอให้ได้เพศชาย........ได้อยู่ภายใต้ร่มเงาของพระพุทธศาสนา.....เสียแต่ว่าชาตินี้เป็นหญิงสิ่งที่ทำได้ก็แค่.........ทำดีปฏิบัติดี....เท่านั้นเอง.....หอมกลิ่นธูปและครัวเทียมเสมอในใจ........แปลกแต่จริงค่ะ.......ดาได้กลิ่นเหล้าและบุหรี่ไม่ได้เลย.......นี้แหละคือสิ่งที่แปลกในตัวของแก้วนีดา......อิอิอิ.
25 เมษายน 2548 11:52 น. - comment id 460202
เป็นงานที่สวยงามและได้ความรู้ ควบคู่ไปเสมอ อยากเขียนเป็นงานกลอนตอบมาก ๆ แต่..ภาษาคุณสวยจนไม่กล้าเขียนตอบ ขอบคุณงานดี ดี ที่มีให้อ่าน ชื่นใจ ฮึม..เมื่อเช้า ตื่นเช้าเหมือนกันมาใส่บาตร ภาพเลยชัดเจนอยู่ในใจ..ชื่นใจ ................................................................ ................................................................
25 เมษายน 2548 12:05 น. - comment id 460210
ชื่นชมค่ะเพื่อนรัก ทิกิ
25 เมษายน 2548 13:16 น. - comment id 460246
สูดหายใจเต็บปอดท่องคำพุทธ นึกถึงคุณวิสุทธิ์พระชินสีห์ ปล่อยลมออกท่องโทโง่สิ้นดี มางมงายอย่างนี้ด้วยเหตุใด คณาจารย์แต่ละท่านล้วนเก่งกาจ พิมพ์คำสอนขายตลาดเหมือนน้ำไหล อยากนิพพานทางลัดซื้อเอาไป เฝ้าติดตามกราบไหว้เป็นขบวน ก็ล้วนแต่ให้โยมทำบุญไว้กินชาติหน้า ชาตินี้อาตมาขอรวยก่อนทั้งนั้น การยึดไตรสรณคมน์เป็นที่พึ่งต้องมีสติ...มิใช่ด้วยหลง
25 เมษายน 2548 13:18 น. - comment id 460248
ขอทำดี เท่านี้พอครับ
25 เมษายน 2548 14:29 น. - comment id 460309
คนรักสุข ขยะแขยงทุกข์ จึงแสวงหาสุขยิ่งขึ้นไป จึงยึดติดสุขทุกระดับ โดยเฉพาะผู้เมาสุขในสวรรค์ที่ฝันเอาเอง ส่วนธรรมะแท้นั้น เป็นเรื่อง*ปล่อยวาง*ทั้งสุขและทุกข์ เพื่อเข้าสู่ความดับทุกข์ อันมีเหตุใหญ่อยู่ที่ความยึดมั่นในความสุข ในที่สุดเมื่อค้นพบว่าที่แท้จริง*สุข* เป็นเพียงลมๆแล้งๆเป็นเพียงภาพมายา ที่ไม่มีอยู่จริง จึงพบความหรรษาร่าเริง เหมือนเมฆที่ลอยพ้นโบสถ์ เจดีย์ ตลอดถึงสวรรค์ พ้นสวรรค์พุ่งขึ้นสู่ความว่าง อันปราศจากขอบเขตของขนาดและเวลา ท่านพุทธทาส.. ......
25 เมษายน 2548 14:35 น. - comment id 460316
จึงเพียรพยายามโน้มใจเข้าหาพระไตรสรณคมน์ หากภาระบนบ่ายังหนักอึ้งท่ามกลางกระแสสังคม ลองยึดพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์เป็นที่พึ่ง (Apply) ไตรสรณคมน์ อาจเป็นคำตอบสุดท้ายกับครรลองชีวิตที่ทุกข์ทน ในสังสารวัฏอันยาวยึดนี้........ ..... ตัวตนจิตตนเป็นคำตอบสุดท้ายกับครรลองชีวิตนี้..
25 เมษายน 2548 14:43 น. - comment id 460323
เวลาจบขันข้าว ที่บ้านจะท่องกันว่า ข้าวของข้าพเจ้าขาวดังดอกบัว ยกขึ้นเหนือหัวตรงต่อพระสงฆ์ จิตใจจำนงตรงต่อพระนิพพานค่ะ คงท่องแบบไม่ถูกต้องเท่าที่ควร แต่ก็อนุโมทนาด้วยใจทุกครั้งค่ะ
25 เมษายน 2548 20:05 น. - comment id 460619
จะเป็น บุรุษแห่งสายกลางแล้วเหรอครับ พี่ สายน้ำ
25 เมษายน 2548 20:58 น. - comment id 460692
บิณทบาตโปรดสัตว์ลัดกลางทุ่ง อรุณรุ่งกาสาวพัตร์สบัดไหว สะท้อนแสงแทงตาสื่อหาใจ พนมมือยกขึ้นไหว้หทัยบาน
26 เมษายน 2548 18:48 น. - comment id 461319
เพิ่งจะทราบนะคะว่า..... ...การตักบาตร..ทั้งสามจวัก หมายถึงอะไร? กลอนความหมายดี และรู้ความหมาย.... และเป็นคนหนึ่งที่ชอบเรื่อง..ทวิภพ..มาก