สร้อยวรรษาหยาดรินลงถิ่นแล้ง ศิลาแลงร้อนรุ่มก็กรุ่นหอม ฟ้าอรหันต์พระสุรินทร์ทินกร ทออาทรกล่อมโลกลบโศกเศร้า วาโยธาตุโบยอ่อนขจรฟ้า เกลี่ยปุยฝ้ายเมฆาเวหาหาว ถักทอม่านระบายบานวิมานดาว งามอะคร้าวสุนทรียะแห่งแผ่นดิน ขุนคีรีทวารวดีทศทิศ สูงสถิตทิพยธารสถานศิลป์ โรยละอองฟ่อนไหวไอฝนริน ปลุกท้องถิ่นไร่นาสาลีรวง แดนแหลมทองสยามในยามนี้ พระบารมีธาราดลหยาดฝนหลวง มิ่งขวัญทองดิ้นทองลำยองยวง ด้วยดอกดวงราชหงส์วงศ์วรรณ นั่นสายน้ำโบราณเจ้าพระยา จากนิมมานวนาสุธาสวรรค์ นำสายธารน้ำตาจากคนธรรพ์ มาล้างคราบจาบัลย์มหานคร เขียวมรกตพฤกษ์พรมที่ห่มหล้า รุกขเทวาล้วนถวัลย์บรรจถรณ์ หมู่แมกไม้เถาวัลย์พนันดร ต่างกอปรสุนทรีย์ศรีแผ่นดิน โบสถ์สถานธรรมะพระชินสีห์ ปรางค์ปราเจดีย์รัตนโกสินทร์ กาสาวพัสตร์ชินบุตรหยุดมลทิน โบกรินรินประกาศธาตุพุทธะ มรดกศิลปาชีพอารยธรรม ล้วนบ่มร่ำด้วยปัจเจกเอกทักษะ คือทิพยพรรณเริงแรงแห่งกาละ สู่อายตนะแห่งไทมิใช่ทาส สถาปัตย์นำสมัยร่วมสมัย เรือนทรงไทยสันโดษประโยชน์ดาษ อุ่นไมตรีอุ่นเหย้าเผ่าวิลาส เพลงพิณพาทย์นาฏศิลป์รินละไม ภักษาหารเกลื่อนเขตทวีปมณฑล รุ้งรวงหล่นรองเรืองเหลืองไสว ธัญญาหารเต็มท้นตำบลไกล ผลิตผลส่งไซร้ขุนจักรวาล เอนกอนันต์ขวัญค่ามหาสมุทร เอกมนุษย์เผ่าไทยแสนไพศาล จะจมดินสิ้นวัยไร้ตำนาน สิ้นทายาทบริบาลวิญญาณลึก หยาดน้ำตาเทพีนางสงกรานต์ หลั่งเป็นเลือดมานานสานผลึก อนารยชนสังคมอึกทึก จิตสำนึกพ่ายแพ้กระแสอวิชชา รอผู้กล้าอรหัตนิวัตน์นคร มาไถ่ถอนโซ่ตรวนบ่วงตัณหา ปราบหมู่มารจัญไรไพร่พันธนา คืนมิ่งค่าอารยชนบนแผ่นดิน เพื่อดำรงอยู่ในห้วงเอกภพ แผ่นดินสงบลึกล้ำธรรมศิลป์ สุนทรียทิพย์ระยิบธรณิน ตราบสิ้นยุคศรีอาริยเมตไตรยฯ --------------------------------- ในวาระศรีมงคลสงกรานต์นี้ ข้าพเจ้ารู้สึกเศร้าลึกๆ ประสบการณ์เทศกาลของมิ่งมหาสงกรานต์นี้ในอดีต คือความทรงจำที่แตกต่างเสียแล้ว สยามโบราณคือแผ่นดินทองมีมนต์ขลังที่ลุ่มลึก สงบและมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนผู้ใดในโลกหล้า หากแต่กำลังถูกกระแสโลกาภิวัฒน์แทรกซึม แม้นมาตรการของรัฐจะรณรงค์กันอย่างยิ่งยวด หากแต่ลูกหลานไทยเองกลับไม่แยแสที่จะอนุรักษ์ ฝรั่งกังไสเต็มนคร เสื้อผ้าอาภรณ์หลุดรุ่ยสู่สายตาสาธารณชน น่าเสียดายประเพณีรดน้ำดำหัวบรรยากาศไทยๆ จะมีสักกี่คนที่ตื่นแต่อรุณรุ่ง ไปทำบุญตามประเพณี อบอวลน้ำหอมน้ำปรุงรวยริน บ่งบรรยากาศและวิญญูชนของไทย สุนทรียแห่งแผ่นดินจักมีเสน่ห์หากไม่บิดเบือด ความงดงามแห่งต้นธาตุเผ่าไทยจักขจรไปสู่สากล เป็นหนึ่งเดียว หากจิตสำนึกลูกหลานไทยไม่ตายจาก ประเพณี ธรรมชาติ และอารยธรรมทั้งปวงนั้น จึงอุปมาเหมือนสุนทรียภาพสยาม ที่เราทุกควรจะหวงห่วงและทำนุบำรุงให้เกริกไกร สมค่าราชวงศ์ สมค่าแผ่นดินแหลมทองนิรันดร์ ข้าพเจ้าขอเป็นกำลังใจให้กับทุกผู้ทุกนามที่มิย่อท้อ นำความสงบสันติ นำความดีกลับคืนแผ่นดิน...
10 เมษายน 2548 01:06 น. - comment id 451521
ถึง คุณลำน้ำน่าน ค่ะ... แผ่นดินไทย อยู่ในใจ ไทยทุกผู้ หัวใจผยอง ของนักสู้..อยู่ในสยาม ภาพอรุณ..สุนทรียะ จะรุ่งราม ระบือนามความเป็นไทย..ใสธรรมธาร.. ณ แดนดิน ถิ่นหนึ่ง..ซึ่งไกลเหย้า พี่น้องเราภิรมย์รักสมัครสมาน ณ วัดโบสถ์ อุโฆษระฆัง..กังสดาล งานสงกรานต์..บรรสานจินต์ แผ่นดินไกล แพร่ศิลป์ ศาสน์ นาฏกรรม ธรรมจักร ผนึกรัก..ผนึกฝัน..แสงธรรม์ไสว มะลิกลอย ร้อยสร้อยแก้ว แวววิไล กราบกลางใจ..จรุงขวัญ..บรรพชนา.. ยุคศรีอาริย์เมตไตรย...เยือนใจอก ข้ามอุทกธรณิน..เยือนถิ่นหล้า สักวันหนึ่ง..ซึ่งไม่ไกลในมรรคา ผองผู้กล้าจะคืนถิ่นดินมารดร.... ณ หนึ่งกาล..สงกรานต์สินธุ์..ใสพินทุ์เพชร เพียงแก้วเก็จกรองรักสลักสรณ์ แม้ร้างทางห่างกระเซ็น..กระเด็นกระดอน นาถนครคืออมฤต..ณ จิตนิรันตร์ ฯ ..........................ช่อชงโค................ ด้วยแรงบันดาลใจ..ลิขิตข้ามหล้ามาให้ค่ะ สงกรานต์สวัสดิ์ นะคะ (=^-_-^=)
10 เมษายน 2548 01:10 น. - comment id 451525
อดีตกาลนมนานสมัยก่อน หากลองย้อนมองดูคุณค่าหลาย บรรพบุรุษผุดก่อต่อเติมไว้ ทิ้งอุ่นไอสืบสานวัฒนธรรม
10 เมษายน 2548 02:53 น. - comment id 451547
ศิลปะวัฒนธรรมประจำชาติ คำประกาศอารยะยุคสมัย สื่อคำถามงามค่ามนุษย์นัย ความเป็นไปในถิ่นต้องยินดี
10 เมษายน 2548 08:49 น. - comment id 451556
อยากให้ภาพแบบนั้น...กลับมาเช่นกันค่ะ จะได้เลิกกลัวที่จะออกจากบ้านในช่วงสงกรานต์ ขอให้ปีใหม่นี้...เป็นอีกปีแห่งความสุขใจของคุณลำน้ำน่านนะคะ .
10 เมษายน 2548 09:15 น. - comment id 451566
ศพประหลาด ฉันไปพบศพเก่าเน่าเหม็นหึ่ง เป็นวันซึ่งถึงสำรอกออกชิวหา คลุ้งตลบกลบทั่วท้องนภา เอียนระอาหน้าพองน้ำหนองเต็ม แต่ให้แปลกประหลาดเกินคาดคิด ฤๅดูผิดพิศวงเหมือนบ่งเข็ม ศพขยับกลับดิ้นลิ้นแลบเล็ม หนองบวมเบ็มโป่งปูดกระฉูดบาน ฉันคิดว่าท่าไม่ดีเตรียมหนีแล้ว ศพกระแด่วดิ้นไปใกล้ละหาน ฉันเหลือบเห็นทันทีศพรี่คลาน กำลังพล่านพลุ่งโพล่งจะลงไป ฉันหันกลับจับฉวยด้วยไม้ท่อน วิ่งไล่ต้อนตีดักกักเสียใหญ่ หนองจะเฟะเละราดขนาดใด ฉันทนได้ไม่กลัวสุดตัวเลย เหล่าพี่น้องมองดูก็รู้จิต แห่งความคิดของฉันลั่นเปิดเผย ฉันสังวรสอนจิตคิดอยู่เลย จึงได้เอ่ยออกคำจำจากจร แต่ศพนี้เน่าหนักทะลักแล้ว กำลังแจวจ้ำพรวดอวดแม้หนอน ใกล้ละหานคลานเฟะเละทุกตอน ฉันไหว้วอนต้อนกันช่วยกั้นซี........
10 เมษายน 2548 11:28 น. - comment id 451609
ผู้ทรงศีลเราใส่ไว้เต็มปืด โปรดดูถืดพะอืดพะอมทั้งขมปี๋ ช้าอยู่ใยไปดูให้รู้ซี ช่วยด้วยซี่ทำไงไม่เงียบงัน.......
10 เมษายน 2548 14:44 น. - comment id 451684
สายสงกรานต์ดั่งสายทองคล้องขวัญไทย ดับร้อนใจดับแล้งไร้คล้ายธารหอม ฟ้าพุทธภูมิงามกระจ่างพร่างเพชรทินกร พรายอาทรเอื้ออุ่นไอไททุกครา สายลมฟ้อนอ้อนนภาฟ้าเริ่มรุ่ง ราวม่านรุ้งคลี่แย้มแต้มเวหา คลี่เวทีฟ้าเวทีฝันเริ่มทิวา วิมานดาวดาราในราตรีพลีแผ่นดิน ภูผาทองครองเทียบทิวทิพย์เมฆ ทักวิเวกสู่แดนสรวงธาราศิลป์ ปรายสายวสันต์ขวัญฟ้าระร่ำริน จุมพิตถิ่นนาทองคลองเรียวรวง แดนธรรมแดนทองแดนไท แดนไสวใต้ร่มฉัตรพระพ่อหลวง หยาดน้ำพระทัยราวเพชรพราวลำยองยวง หยาดสู่รวงดอกข้าวราวเพชรพรม สายน้ำใจไหลจากบึงรักพระผ่านฟ้า ดั่งเจ้าพระยาธารสวรรค์พลันหอมห่ม สู่ท้องไร่ท้องนาวิมานวนาลบตรอมตรม ให้คนจนลืมตาอย่ารานรอน แตกเป็นช่อกอไพรโอบผืนหล้า ปวงเทวานางไม้นิทราฝันบรรจถรณ์ มวลแมกไม้ฟ้อนร่ายรำนิรันดร เฉลิมฉลองสุนทรีย์ศรีแผ่นดิน โบสถ์โบราณวิมานธรรมพระชินสีห์ ปรางค์เจดีย์ศรีศักดิ์รัตนโกสินทร์ ร่มกาสาวพัสตร์ยอดพระรัตนตรัยหยุดมลทิน สอนธรรมรินประกาศธาตุพุทธะ งานงามล้ำจากมือไทมือทองศิลปาชีพ คือประณีตบ่มละมุนเอกทักษะ จากมือกร้านใจนวลหอมธรรมะ สื่ออายตนะว่าไทใจอิสรา เรือนไทยหอมดอกไม้ใกล้บึงบัว ฟ้าสลัวร้อยมาลัยหอมไหนกว่า ฟังดนตรีไทยใสเย็นดาวเกลื่อนฟ้า นับดาราดูหยาดน้ำค้างพร่างกลีบใจ คือสายใจไทยสายใยรักภักดิ์พิสุทธิ์ เอกมนุษย์รักพระธรรมนำทางไสว ไม่มีวันจมดินสิ้นตำนานโบราณไทย อัญมณีใจจักสืบสานวิญญาณลึก หยาดน้ำตาเทพีไพรนางสงกรานต์ คือตำนานสอนใจรู้รำลึก อย่ายอมพ่ายอารยธรรมไร้สำนึก จิตล้ำลึกฝึกไว้ไร้อวิชชา มากผู้กล้าอรหันต์ในครองวัตร มาคืนกลับปลดโช่ตรวนบ่วงตัณหา ราวเพชรพร่างกระจ่างใสไร้พันธนา คืนขวัญกล้าสู่ปวงชนบนแผ่นดิน ให้ดำรงไร้ร่างวางทุกสิ่ง ทุกข์ทนนิ่งสร้างโลกทิพย์ธรรมศิลป์ มิสิ้นหล้ามาตุภูมิทิพย์วาริน ตราบชีพสิ้นหวังใจไทยไทพบวิมุตติสู่ยุคพระศรีอาริยเมตไตรย์..
10 เมษายน 2548 20:05 น. - comment id 451746
และ.. คุณ..คือมรดกอัญมณีแผ่นดินด้วยครับ ลำน้ำน่าน ควรค่าแห่งการพึงถนอม..ใจ พึงรักษาจิตวิญญาณอันแสนงามของคุณไว้ ให้มีพลังสร้างสรรงานกำนัลแด่โลก ด้วยศรัทธาชื่นชมอย่างมากครับ
10 เมษายน 2548 22:08 น. - comment id 451779
อ่านกลอนของบุรุษแห่งธาร กำลังเคลิ้มอยู่เชียว ก็ได้กลิ่นตุๆของศพเน่า เขียนได้ดีนะคะ นักเล่านิทาน แต่ถ้าจะให้ดี ควรเปิดกระทู้ต่างหากดีกว่า จะได้เต็มที่ในการฟังนิทานของคุณหน่อย เผื่อมีแจม ครั้นจะแจมตรงนี้ก็เกรงใจเจ้าของกระทู้เขาค่ะ :)
10 เมษายน 2548 23:19 น. - comment id 451796
เห็นด้วยกับคุณอัลมิตรามากครับ ทำให้เสียบรรยากาศสุดสุดเลย
10 เมษายน 2548 23:50 น. - comment id 451799
คุณ ลำน้ำน่าน คะ เมื่อคืนก่อนลงกลอนฝากไว้ให้ ด้วยแรงบันดาลใจอย่างใหญ่หลวงค่ะ.. รู้สึกดีมากๆ กับการสัมผัสสุนทรียภาพตระการ จากงานที่งดงามทางวรรณศิลป์ และ คติชีวิต ซึ่งคุณลำน้ำน่าน ได้มอบให้แก่เพื่อนๆนักกลอน ครั้นพอย้อนมาอ่านอีกครั้ง ก็พบ..อะไรบางชนิด ที่เข้ามาแทรกในช่วงความคิดเห็นอันไม่บังควร ทำให้หลายคนอาจต้องรีบปิดจอ.. ช่อชงโค เห็นด้วยกับคุณอัลมิตรานะคะ สำหรับนักเล่านิทาน ที่ระยะนี้ย่องเข้าไปใส่ ข้อเขียนในมุมกลับ ปรากฏให้เห็นในงานหลายชิ้น เพื่อนๆบางคนก็ตอบกลับ สำหรับการรวนลักษณะนี้ ได้ไปโผล่ในงาน ของช่อชงโค สอง สามครั้งแล้วเช่นกันค่ะ.. เป็นคำท้าทายให้โต้ตอบ แต่ว่า เขา ไม่ กล้า ที่จะระบุนามปากกาจริง ว่าเป็นสำนวนของใคร ที่ใช้ชื่อเล่นๆ ว่า กลับด้าน..คิดว่าเป็นคนเดียวกัน กับโวหารเล่านิทานที่ลงในงานของคุณราชิกาค่ะ ช่อชงโค จึงคิดว่า คู่แข่งชนิดนี้ไม่เหมาะสมนะคะ. เลยลบออกไป และไม่ได้ต่อกระทู้พิสดารนั้น ทุกคนที่เข้ามาอ่านงานของคุณลำน้ำน่าน และนิยม ต่างชื่นชมในความใจกว้างกว่าลำน้ำ ที่คุณยอมให้นักเล่านิทานมาแสดงอหังการไว้ แต่หารู้ไม่ว่า กลับยิ่งเพิ่มความงดงามให้งาน แห่งสุนทรียภาพของคุณลำน้ำน่านค่ะ ยังคิดอยู่ว่า คุณลำน้ำน่าน จะลบของเขาออก หรือว่า จารึกไว้ให้เห็นความต่างระหว่างจิตใจคน ......................................... ถ้าอ่านแล้วยาวไป ลบก็ได้นะคะ ไม่มีปัญหาค่ะ มาเป็นกำลังใจให้คุณลำน้ำน่านค่ะ
11 เมษายน 2548 10:57 น. - comment id 451890
สวัสดีครับทุกคน ผมดีใจมากวินาทีนี้ที่มิ่งมิตรนักกลอนทั้งหลายติดตามให้กำลังใจมาตลอด รวมทั้งคุณช่อชงโคและสาวบ้านนาพุดไพรที่ฝากคอมเมนท์อันงามวิจิตรไว้ให้ครับ จริงๆ แล้วไม่ได้คิดอะไรมากกับกระทู้อสุภซากที่นำมาลงไว้หน่ะครับ เพราะตีความไม่ออกเหมือนกันว่าแปลว่าแบบไหนอย่างไร อาจจะเป็นการเขียนเล่นๆ ของคุณเล่านิทานก็ได้ครับ สาธารณชนมีสิทธิ์คอมเมนท์และโพสต์ข้อความส่วนตัว ก็สามารถทำได้ครับ ต้องขอบคุณคุณเล่านิทานเสียกว่าที่ลงบทกลอนงามไว้ร่วมอ่านแม้เนื้อหาจะไปด้วยกันไม่ได้เลยก็ตามที ผู้อ่านเท่านั้นที่จะเลือกเสพสาสน์จากอักษร...และงานเขียนก็จะสะท้อนทัศนคติส่วนลึกของคนเขียนเช่นกันครับ ผมเชื่อว่าผู้อ่านที่เป็นวิญญูชนมิได้กระทบกระเทือนครับ ขอบคุณทุกๆ ความคิดเห็นครับ ผมน้ำตาเอ่อวินาทีนี้
11 เมษายน 2548 12:05 น. - comment id 451929
ดีจัง ได้กลอนอีกเยอะเลยที่มาโพสต์
11 เมษายน 2548 13:45 น. - comment id 452031
อิอิอิ...........คุณลำนด้ำน่านตอบได้ดีค่ะ.........เห็นด้วยค่ะ.........และไม่จำเป็นที่เราจะต้องไปลบการแสดงความคิดเห็นของ...คนเล่านิทาน...ค่ะ........แก้วนีดาก็ได้รับการติชมและการเล่านิทานให้ฟังเช่นกัน.........เราว่าคนเล่านิทานเค้าคงจะชอบมาเล่านิทานให้คนอื่นๆฟังนะค่ะ.........เลยไม่กล้าที่จะบอกนามปากาของตัวเอง......คงกลัวว่าเพื่อนๆจะรู้จักเค้ามากเกินไปนะค่ะ.........เค้าเลยชอบที่อยู่ในมุมมืดของบ้านกลอนของเพื่อนๆ........และคงจะชอบที่จะอยู่คนเดียวในบ้านของตัวเอง........และชอบที่จะอยู่ตัวคนเดียวอีกด้วย.......เลยต้องใช้วิธีแอบมาเยี่ยมมาหาเพื่อนๆด้วยการเข้ามาเล่านิทานให้เพื่อนๆฟังไงค่ะ.........พวกเราต้องเห็นใจเค้ากันมากๆๆนะค่ะ.........เพราะว่าเค้าคือคนที่ชอบมาเล่านิทาน.........แบบไม่มีตัวตน.......ไงค่ะ.
20 เมษายน 2548 22:56 น. - comment id 456993
มาช้าหน่อยนะครับคงไม่ว่ากัน ระยะนี้ไม่ค่อยสบาย งานบุรุษกวีเช่นคุณเป็นเพชรน้ำเอกครับ ซ้ำยังเป็นบทเรียนแก่คนจะฝึกหัดได้ดีเสียด้วยครับ แม้แต่ผมเองครับ แก้วประเสริฐ.