ปรารถนาบุปผารัตนโกสินทร์ ยามหอมรินมนต์กวีศรีอีสาน เหลืองละมุนอุ่นรวีดอกคลี่บาน แต่งแต้มลานลาแล้งระแหงดิน เกสรร่วงกาลล่วงห้วงสำนึก ราชพฤกษ์ดอกไม้สร้อยทองศิลป์ เคยคล้องคอหน่อข้าวเหนียวเสี่ยวชาวดิน บอกพื้นเพ...วศินถิ่นบ้านนา ลมเดือนห้าแล้งลาที่ราบสูง ดอกยางยูงร่วงลิ่วทิวไผ่หนา เมื่อวันพรุ่งจะโบกไหวใบหล่นลา แหล่ะกลีบคูนตะแบกป่าจะล้าโรย ฤาเสียงแคนแผ่นดินสิ้นมนต์ขลัง เมื่อนกป่านิราศรังทั้งหิวโหย จากเสี่ยวกินเสี่ยวตายอ้ายโอดโอย เมื่อลมร้อนอีสานโบยโชยอัตคัด ลานสวรรค์ลานนาดูว้าเหว่ เรือนซังเซทุกข์ร้อนหนี้ผ่อนผัด ดอกคูนหนุ่มไปรุ่งเรืองเมืองวิวัฒน์ ควายกำดัดมัดขวิดลมอยู่ซมเซา บักเสี่ยวเอ๋ยเอ็งก็รู้ว่าปู่ย่า แก่ชราป่วยไข้ใจหงอยเหงา อีกหยูกยารักษาไปไม่บรรเทา โรครุมเร้าเศร้าซึมคิดถึงเอ็ง ทั้งโหวดหวิวพิณเดี่ยวเสี่ยวเคยเล่น ต้องลำเค็ญอ้างว้างร้างเสียงเปล่ง เคียวเหน็บเสาสนิทหนาวร้าวเส็งเคร็ง ยิ่งเร้าเร็งความหมายที่ตายแล้ว แล้งปีนี้หนักหนาฟ้าขมุกขมัว ด้วยฝุ่นดินเปื้อนทั่วทุกทิวแถว ลอยไปเปื้อนขอบฟ้าท้องนาแนว วัวควายเอ็งไม่แคล้วต้องล้มตาย ปิดตำนานลูกข้าวเหนียวบักเสี่ยวเอ๋ย วันเวลาล่วงเลยไร้ความหมาย เอ็งอยากมีเงินทองกองมากมาย จุดสุดท้ายสูญเสียจิตวิญญาณ คูนบ้านนาบานสะพรั่งพร่ำมนตรา เถิดคืนมากล่อมบรรเลงเพลงอีสาน รับมาลัยคล้องร้อยสร้อยดอกจาน แหล่ขับเพลงพื้นบ้านของแผ่นดิน เหลืองรวีฝนสีทองผองบักเสี่ยว เจือดอกเสี้ยวบุปผารัตนโกสินทร์ คือมนต์ขลังทุ่งนาแห่งวารินฯ สาดสายศิลป์ทิพย์เกสรสู่ม่อนเมือง ลำนำเศร้าราชพฤกษ์ยามดึกนี้ ธารน้ำตายังไหลปรี่ตราบฟ้าเหลือง บักเสี่ยวเอ๋ยหากอยู่ไหนไม่รุ่งเรือง หยุดฝันเฟื่องกลับมา ณ บ้านเรา ฝันสีทองคูนเหลืองแม้เรืองหล้า แม้แต่ฟ้าขลิบทองก็หมองเหงา สิ้นบักเสี่ยวเปลี่ยวใจไม่เห็นเงา ปลาร้าเน่าปลาแดกหอมตรอมสิ้นแล้ว! ---------------------------------- เมื่อลมแล้งมาเยือน...ดอกไม้แห่งอีสานบ้านนาก็บานไสว ดอกไม้หน้าแล้งมีความหมายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น ทำให้ข้าพเจ้าประหวัดไปถึงดอกคูน หรือ *ราชพฤกษ์* ดอกไม้ประจำชาติสยาม สีเหลืองทอง ผลิดอกคลุมต้นในฤดูคิมหันต์ ราวสายฝนสีทองในหน้าแล้ง ดูอัศจรรย์ที่ฝนสีทองไม่ทำให้น้ำเจิ่งนอง เขียนบทกวีแทนใจมิ่งมิตรอีสาน ในนามบักเสี่ยวแห่งทุ่งนาและลอมฟาง บอกเล่าเรื่องราวแห่งความประทับใจและความเศร้าในยามนี้ ลำนำราชพฤกษ์ลาลานจึงมุ่งให้มิ่งมิตรชาวอีสานผู้ทิ้งถิ่น ได้กลับไปเยือนผืนแผ่นดินมาตุภูมิในยามสงกรานต์เทศกาล กลับไปรับฟังปัญหาและความทุกข์ยากของผองมิตรบนที่ราบสูง ที่บางคราวอาจจะถูกทิ้งและหลงลืมไปกับกาลเวลา กลับไปซับน้ำตาบรรพบุรุษ และสืบทอดประเพณีอันดีงาม เป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนความหมายแห่งวัฒนธรรมแผ่นดิน ไม่เป็นคนหลงลืมรากเหง้าปู่ย่าตายาย อยู่สุดหรูอยู่ในเมืองวิวัฒน์ บทกวียังมุ่งให้เห็นคุณค่าของบักเสี่ยวและญาติสนิทมิตรสหาย ตราบใดที่ดอกคูนสีทองยังบานแต่งท้องทุ่งอยู่ทุกคิมหันตฤดู ตราบนั้นจงเชื่อมั่นว่ายังไม่อับจนหนทาง.... แด่ *บักเสี่ยว บักสิเด๋อ* แห่งสำโรงบ้านนา อุบลราชธานี หากมีโอกาสจักกลับไปชื่นชมดอกคูนโปงลางและเสียงแคนอีกครั้ง *หมายมั่นสัญญา*
3 เมษายน 2548 23:36 น. - comment id 448828
รื่น ลำนำ ลำน้ำน่าน อ่านแล้ว รื่น ฝัน ถึงคืนชื่นภิรมย์เคยชม ฝัน วัน เวลาพาพรากจากวาน วัน ลา จากกันขวัญระกำวันอำ ลา... .......................... บทลำนำของคุณลำน้ำน่านบทนี้ ทั้งหวาน เศร้า เหงา และเจ็บปวดลึกๆค่ะ... ...................ไพเราะมากค่ะ.................
3 เมษายน 2548 23:59 น. - comment id 448843
เดือนเมษาแล้ว ดอกคูณกำลังเบ่งบานจริง ๆ พร้อม ๆ กับดอกประดู่ที่กำลังจะบาน พูดถึงดอกคูณแล้ว ยังเชยไม่หาย เพิ่งจะทราบว่าชื่อเดียวกับ ราชพฤกษ์ เมื่อ 2 ปีมานี้เอง นีว่าชาวอีสานก็คงไม่อยากทิ้งถิ่นฐานของตนหรอก แต่...เค้าต้องหาเลี้ยงชีพตนเองและครอบครัว เมื่อถึงเวลา เค้าก็ต้องกลับบ้านของตน เพราะไม่มีที่ไหนที่อยู่แล้วสบายเท่ากับบ้านเรา :)
4 เมษายน 2548 00:01 น. - comment id 448845
บรรยายมองเห็นภาพเลยครับ ปีใหม่ไทยก็ไปได้นะ สนุกดีออก อบอุ่น รดน้ำดำหัว ผู้ใหญ่
4 เมษายน 2548 04:44 น. - comment id 448869
...คูณ... ชาวอีสานถือเป็นไม้มงคล มีความหมายถึงความสมบูรณ์พูนสุขและโชคค่ะ ทั้งเนื้อไม้ ใบ ดอก ............................ แวะมาชมกลอนงามค่ะ
4 เมษายน 2548 06:58 น. - comment id 448872
เป็นต้นไม้ที่มีดอกสวยมากครับ ผมชอบมากดูแล้วเหลืองอร่าม งดงาม ร่มเย็นดี
4 เมษายน 2548 09:04 น. - comment id 448891
เมื่อเข้ามาแสวงหาความรุ่งเรืองในเมืองหลวง น้อยนักที่จะหวนกลับไปสู่บ้านนาคะ.. อาจเหลือแค่ตำนานให้ลูกหลาน..ว่าครั้งหนึ่งเราเคยปลูกข้าวเลี้ยงตัวเอง..หาผักหาปลายังชีพ... ..
4 เมษายน 2548 09:25 น. - comment id 448900
ลมเดือนห้าแล้งลาที่ราบสูง ดอกยางยูงร่วงลิ่วทิวไผ่หนา เมื่อวันพรุ่งจะโบกไหวใบหล่นลา แหล่ะกลีบคูนตะแบกป่าจะล้าโรย โดยส่วนตัวแล้ว เวลาอ่านกลอนของลำน้ำน่าน จะชอบอ่านท่อนที่บรรยายในลักษณะนี้เป็นพิเศษ.. อ่านแล้วได้กลิ่นได้ไอ ของสิ่งที่ร้างที่ห่างไปนานจนเกือบหลงลืม..
4 เมษายน 2548 10:29 น. - comment id 448934
ผลงานของยอดกวีชายคนนี้ช่างละลานตระการตาเสียนี่กระไรแฝงไว้ในจิตใจชาวอีสานได้อย่างลึกซึ้งเสียนี่กระไร ขอปรบมือให้กึกก้องครับ แก้วประเสริฐ.
4 เมษายน 2548 10:39 น. - comment id 448939
บทกวีคุณงามนักครับ ยิ่งนานวันยิ่งน้อมรับและรอคอยงานคุณ งามละมุนและตระการความรู้สึกจริง
4 เมษายน 2548 11:12 น. - comment id 448967
ต้นไม้พระราชทานให้เป็นต้นไม้ประจำจังหวัดบุรีรัมย์ดอกงามมากแต่เมื่อเปรียบกับกลอนบทนี้แล้วยังด้อยไปถนัดเลยละ ชื่นชมครับ
4 เมษายน 2548 11:36 น. - comment id 448983
เคยเห็นที่รอบบึงแก่นนคร จ. ขอนแก่น ช่างงดงามยิ่ง ป่านนี่คงสะพรั่งเต็มรอบบึง แต่สักวันคงมีโอกาสไปเห็นที่ จ. บุรีรัมย์ บ้าง ขอชนชมผลงานค่ะ สวัสดีนะคะ
4 เมษายน 2548 11:44 น. - comment id 448988
http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_33233.php คูนดอกพราว..ราวสายฝนสีทอง .......... เรารักฤดูร้อน แม้ร้อนนัก อยากพักร้อน..... ร้อนนี้....มีดวงดอกไม้หวานบานแย้ม มากมาย หลายหลากสี มีแดง ม่วง พวงชมพู ขาวพราวพวง แตะแต้มตัดท้องฟ้าคราม สดสวย สว่างไสว หอมงาม ไปทั่วเมือง ที่แสนร้อน...... ทองกวาว ตะแบก เสลา แคแสด ชมพูพันธ์ทิพย์ โมกขาว พราวต้น ....... นานาพืชพรรณพวงดวงดอก ออกมาสะพรั่งพราว ราวนัดไว้..ดูงามราวอัญมณีถูกหว่านโปรย โรยหวาน ให้ร้อนคลาย กลายเป็นชื่นฉ่ำ...... ราชพฤกษ์...เหลืองละออ ทอดเป็นพวงระย้าพราวราว......สายฝนสีทอง.....คู่ผืนดินถิ่นเขตร้อน ดังชื่อ.....ภาษาอังกฤษ Golden Shower Tree.....หรือที่เรานี้เรียกกันว่า....... ดอกคูน....ที่พูนเพิ่มเติมต่อ จนได้ชื่อว่าเป็นไม้มงคล และได้รับการยกย่องว่า...... เป็นต้นไม้ประจำชาติไทยเรานี้ ให้แสนดียิ่งๆขึ้นไป ในทางบวก....คูน คือ สัญญารัก ให้หนุ่มสาวคราวรักกัน ได้ร่วมฝันและยึดคำมั่นสัญญา...ว่าจะคืนกลับมา ยังท้องทุ่ง ยามดอกคูนบานเหลืองไสว....เตือนใจจำ....... กลับมาไหว้ แม่พ่อ....ขอพรในวันมงคลสงกรานต์งานบุญ...... หนุ่มสาวจากถิ่นที่ราบสูง คงรักดอกคูน เสียงแคน......และ..... เหนือในดวงใจ ทุกดวง ของผู้คนแห่งดินแดนระแหง แต่ไม่แล้งน้ำใจที่ใสเย็น..... คือ..หลวงพ่อคูณ..ท่านเปรียบประดุจดัง ที่หวัง กำลังใจ เป็นมิ่งขวัญ รวมพลัง ความเชื่อ ศรัทธา น่าเลื่อมใสพาใจให้ไม่มืดบอด.....ให้ได้พบเส้นทางสว่างไสว พาดวงใจสงบงาม.....ไม่แล้งตามผืนดิน ....... .......... ..........
4 เมษายน 2548 11:44 น. - comment id 448989
http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_33233.php คูนดอกพราว..ราวสายฝนสีทอง .......... เรารักฤดูร้อน แม้ร้อนนัก อยากพักร้อน..... ร้อนนี้....มีดวงดอกไม้หวานบานแย้ม มากมาย หลายหลากสี มีแดง ม่วง พวงชมพู ขาวพราวพวง แตะแต้มตัดท้องฟ้าคราม สดสวย สว่างไสว หอมงาม ไปทั่วเมือง ที่แสนร้อน...... ทองกวาว ตะแบก เสลา แคแสด ชมพูพันธ์ทิพย์ โมกขาว พราวต้น ....... นานาพืชพรรณพวงดวงดอก ออกมาสะพรั่งพราว ราวนัดไว้..ดูงามราวอัญมณีถูกหว่านโปรย โรยหวาน ให้ร้อนคลาย กลายเป็นชื่นฉ่ำ...... ราชพฤกษ์...เหลืองละออ ทอดเป็นพวงระย้าพราวราว......สายฝนสีทอง.....คู่ผืนดินถิ่นเขตร้อน ดังชื่อ.....ภาษาอังกฤษ Golden Shower Tree.....หรือที่เรานี้เรียกกันว่า....... ดอกคูน....ที่พูนเพิ่มเติมต่อ จนได้ชื่อว่าเป็นไม้มงคล และได้รับการยกย่องว่า...... เป็นต้นไม้ประจำชาติไทยเรานี้ ให้แสนดียิ่งๆขึ้นไป ในทางบวก....คูน คือ สัญญารัก ให้หนุ่มสาวคราวรักกัน ได้ร่วมฝันและยึดคำมั่นสัญญา...ว่าจะคืนกลับมา ยังท้องทุ่ง ยามดอกคูนบานเหลืองไสว....เตือนใจจำ....... กลับมาไหว้ แม่พ่อ....ขอพรในวันมงคลสงกรานต์งานบุญ...... หนุ่มสาวจากถิ่นที่ราบสูง คงรักดอกคูน เสียงแคน......และ..... เหนือในดวงใจ ทุกดวง ของผู้คนแห่งดินแดนระแหง แต่ไม่แล้งน้ำใจที่ใสเย็น..... คือ..หลวงพ่อคูณ..ท่านเปรียบประดุจดัง ที่หวัง กำลังใจ เป็นมิ่งขวัญ รวมพลัง ความเชื่อ ศรัทธา น่าเลื่อมใสพาใจให้ไม่มืดบอด.....ให้ได้พบเส้นทางสว่างไสว พาดวงใจสงบงาม.....ไม่แล้งตามผืนดิน ....... .......... ..........
4 เมษายน 2548 12:14 น. - comment id 449011
แด่ ลำน้ำน่าน บุรุษแห่งสายน้ำ ฤดูแล้งแห้งน้ำดินช้ำเศร้า ต้นไม้เฉาเคยชอุ่มเขียวชุ่มฉ่ำ ต้องแห้งเหี่ยวเหลียวมองกลับหมองช้ำ แต่น้ำคำของเขามิเศร้าตาม ดั่งดอกคูนพูนเพิ่มออกเติมเรื่อย คลี่กลีบเฉื่อยบานช้าเหลืองจ้าหวาม เติมสีทองรองเรืองเหลืองทุกคาม ทั่วสยามสุกใสเหลืองไล้ทา ด้วยบทกลอนซ่อนสิงแอบอิงรัก ซึ้งตระหนักแนบแน่นดุจแผ่นผา เตือนพวกเราเฝ้ารักษ์พืชผักปลา ท้องทุ่งนาสายน้ำเช้าค่ำเย็น ฝากแผ่นดินถิ่นเกิดกำเนิดชาติ งานสะอาดบริสุทธิ์ผุดให้เห็น บทกวีรี่ไหลหลั่งใสเย็น น้ำน่านเค้นขับกลอนวอนเหลียวแล
4 เมษายน 2548 12:52 น. - comment id 449031
แอบมาอ่านและมาชื่นชมจ๊ะ......
4 เมษายน 2548 12:57 น. - comment id 449044
หน้านี้ดอกคูณบายสลอน ในมอขอก็เหลืองอร่ามคลเคล้าไปด้วยดอกชัยพฤกษ์ และดอกอินทนิน สีม่วง อมขาว สีม่วงเข้มของดอกอินทนิน ปะปนกับสีเหลืองของดอกคูณ พร้อมทั้งสีส้มอมน้ำตาลของช่อชัยพฤกษ์ น่าดูชมมากค่ะ กลอนของคุณช่างงดงามมากจริง ๆ ค่ะ
4 เมษายน 2548 13:52 น. - comment id 449099
ยามที่ได้ไปเยือนในจังหวัดต่างๆ ในช่วงหน้าร้อน เมื่อเห็นดอกคูนสีเหลืองบานสะพรั่งเต็มต้น... นอกจากในความงาม...จะสัมผัสได้ถึงเรื่องราวที่ถ่ายผ่านแห่งท้องถิ่นอีสาน ...เสมือนว่าทุกกลีบดอกเหลืองๆ เหล่านี้ กำลังกระซิบบอกเรา...ผู้ผ่านมา... ...อย่าลืมฉัน... .
4 เมษายน 2548 14:25 น. - comment id 449114
ก่อนจากมานั้น ต้นคูณที่พ่อปลูกเพิ่งเติบโต กำลังงาม ตอนนี้ดอกคูณคงห้อยระย้าเหลืองอร่ามอยู่ข้างรั้วบ้าน ...แต่ไม่มีโอกาสได้ชื่นชม...
4 เมษายน 2548 14:55 น. - comment id 449144
ว่าตามอารมณ์กลอนอ้อนอ้ายจากสาวนา ......... (สาวนา)..สาวทุ่งอยู่กรุงนุ่งยีนส์ส่งข่าวบอก ไม่หลงบางกอกกรุงกรงดอกอ้ายจ๋า รักปลาร้าปลาแดกตะแบกนา รักข้าวกล้าคูนไสวไพรรวงรอ... สงกรานต์นี้หวังซื้อยีนส์ให้อ้ายนุ่ง แทนผึ่งพุงผ้าขาวม้าเอ้อระเหย ให้ลองแปลกอินเทรนด์บ้างนะอ้ายเอย เคยไม่เคยลองสักหน่อยข้อยว่าดี... จะซื้อทองฝากแม่พ่อให้หัวร่อร่า ว่าสาวนาเก็บหอมถนอมเงินมาปลดหนี้ ให้แม่พ่อแก่เฒ่าได้สบายเสียสักที รอสินสอดอ้ายคนดีให้มาขอรอจนโรย... จำได้ไหม.สัญญาใจใกล้ลอมฟาง ตราบฟ้าสางดุเหว่าแว่วนกเขาโหย วสันต์ลาฟ้าแล้งไร้สายฝนโปรย ดาวเรืองโรยรักลาร่วงควงคูนลา... วันที่ฟ้าโพล้เพล้ในบึงบัว จนสลัวตระกองกันปันห่วงหา ฝากตราตรึงซึ้งหวานหอมดอมบัวลา ฝนเสน่หาหยาดพร่างกลางวาริน.. มาตัดพ้อสาวบ้านนาว่าลืมทุ่ง ลืมผ้าถุงมิภักดีสิ้นถวิล ยังคงรักศักดิ์ศรีมิคลี่กลีบลำดวนให้น้ำตาริน ยังรักดินถวิลนารู้ค่าคนรู้ค่าควาย... จะคืนทุ่งขี่ควายอ้ายคร่อมเคียง ให้รวงเรียงระบัดไหวรักใจอ้าย เป็นสาวนารักทุยลุยโคลนตราบวันตาย เป็นเมียอ้ายรักดอกคูนพูนเพิ่มดี... กลับไปเป็นสาวนารอท่าฝน ให้อ้ายเสียบหล่นเสียบดอกลำดวนตราบชีพนี้ ทัดดอกคูนล้อมวงหน้าสาวนาที จูบแก้มนี้ราวรวงใสยังไหวรอ... ตะแบกบานหวานห่มอย่าตรมนะ สัญญาจะคืนนาคูนอย่าท้อ อย่าเพิ่งร่วงรวงดอกพราวพร่างพื้นพ้อ อ้ายจ๋ารอสาวนาอย่าน้อยใจ... คิดถึงหอม ปลาร้าและปลาแดก มิยอมแลกร่างห่างไปไหน รักกลิ่นโคลนสาบควายกลิ่นอ้ายไพร กลิ่นไหนไหนฤาจะสู้กลิ่นปลาแดกมิแยกรักมิแยกเรา!
4 เมษายน 2548 19:15 น. - comment id 449266
เขียนถ้อยสารส่งข่าวนาหาบักเสี่ยว ดอกกระเจียวบานรอรีบคืนหลัง วันสงกรานต์กลับมาอย่าละล้าละลัง ลาเวียงวังกลับคืนถิ่นกินหอยปู อำเภอสำโรงอยู่ไม่ไกลจาอำเภอเมืองสักเท่าไหร่ ยิ่งเขียนยิ่งคมขึ้นครับ
4 เมษายน 2548 19:18 น. - comment id 449271
^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^ งานงามจ่ะ..น้องหล้า..แว๊ปมาอ่านจ่ะ.. หน้าแล้ง..ดอกคูณ..ก็งาม ดอกจานก็สวย... ทั้งเหลือง ทั้งแสด บานเต็มท้องทุ่ง.. ^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^^ ^_____^
5 เมษายน 2548 09:45 น. - comment id 449386
หอมกลิ่นลมแล้ง ....ดอกคูนเสียงแคนวาบในสำนึกคนเคยผ่านทาง....หวนคำนึงวันคืนเก่าๆครับ.....
5 เมษายน 2548 12:45 น. - comment id 449519
ชอบดอกคูนมากเลยค่ะ กลอนไพเราะมากๆๆๆๆ รูปสวยจัง ชอบค่ะชอบ
9 เมษายน 2548 16:42 น. - comment id 451389
ไพเราะ กังวานครับ งดงาม ยิ่งใหญ่ กรุ่นกลิ่นไปดอกคูนอีสานในฤดูร้อน สงกรานต์นี้เชิญเที่ยวที่อีสานนะครับ จากเด็กเมืองดอกคูนเสียงแคน
10 เมษายน 2548 16:31 น. - comment id 451704
โดยพื้นฐานจิตใจแล้วคนอิสานจะรักถิ่นฐานมาก และเขาจะชื่นชอบกับประเพณีวัฒนธรรมของตนมาก สังเกตได้จาก อาหารการกิน เสียงเพลง ภาษาพูด ทุกวันนี้ ทั่วประเทศแทบจะถูกอิสานกลืนแล้ว ยังไง ส้มตำยังมีรสแซบเหมือนเดิม และเพลงหมอลำยังไม่สาบสูญไปใหน เพราะคนอิสานแม้จะพลัดถิ่นก็ยงคงไม่ลืมสิ้นวัฒนธรรม ไม่ว่าจะอยู่แหงหนตำบลได เมื่อมีเงินเมื่อไรไทอิสานจะกลับบ้านทันที กลับไปสนุกสนานที่บ้านนา สัญญาว่าสงกรานต์นี้ ลาวดีๆจะกลับบ้านกัน ฉันมั่นใจ