...เมื่อดอกไม้ไม่อ่อนหวานเหมือนวันวาน ทั้งสายธารไม่รินหลั่งเหมือนครั้งก่อน ฟากท้องฟ้าเป็นฟองดำทั่วอัมพร สายลมร้อนมอดไหม้ไพรพนา เหมือนบทกลอนนั้นหนาค่าลดน้อย เพราะคนพล่อยพาลเร้นไม่เห็นค่า เอาความคาวเอาราคีตีราคา เอาความหล้าเอาความหลังลงฝังกลอน เอาความโง่เอาความหลงลงวาทะ เอาความคละเอาความเขลาเข้าสั่งสอน เอาความคิดอันไร้ค่าเป็นอาภรณ์ สุดท้ายกลอนก็ดับลับไปเอง!
10 มีนาคม 2548 15:34 น. - comment id 437047
เพราะข้าคือจอมมารอันหาญกล้า เพื่อจะมาปราบธรรมะให้สลาย ใครขวางข้าทั่วทั้งผองมันต้องตาย แค่เพียงร่ายคาถาแล้วฆ่ามัน!!
10 มีนาคม 2548 15:38 น. - comment id 437051
แวะมาบ้านกลอนไทยในที่นี้ ถึงไม่มีมิตรมาข้าไม่สน หากคิดเป็นศัตรูสู้ฆ่าคน จะประจญจนข้าจะบรรลัย
10 มีนาคม 2548 15:45 น. - comment id 437054
เพียงพจีเสแสร้งแกล้งเขียนขีด เหมือนเอามีดมาจ้วงแล้วล้วงไส้ สุดท้ายคือชีวันอันจัญไร ไปเถิดไปทิ้งความหวังลงฝังดิน
10 มีนาคม 2548 15:54 น. - comment id 437058
ก็โลกนี้สีดำทุกค่ำเช้า และตัวเราคือมารเพื่อผลาญหล้า ร่ายเวทย์มนตร์อันศักดิ์สิทธิ์ปลิดวิญญาณ์ ทุกชีวาจะโศกศัลย์ชั่วกัลป์กาล
10 มีนาคม 2548 15:56 น. - comment id 437059
ไม่มีหรอกดอกไม้ในวันนี้ มันเปลี่ยนสีเป็นเศร้าพร้อมเน่าเหม็น สุดท้ายคือเศษซากเหมือนอยากเป็น ไม่ต้องเห็นมันหรอกมวลดอกไม้!
10 มีนาคม 2548 15:58 น. - comment id 437061
ในโลกนี้โสมมข้าขมขื่น เพียงความชื่นชุ่มน้ำก็ฉ่ำหาย จิตมนุษย์เมามัวแสนชั่วร้าย ข้าจะร่ายคาถาแล้วฆ่ามัน!!
10 มีนาคม 2548 16:02 น. - comment id 437065
ไม่มีหรอกสายลมโรยโชยระรื่น มีแต่ความขมขื่นของคืนค่ำ ข้าจะจารจารึกด้วยหมึกดำ ถึงความต่ำชั่วช้านานาชน!
10 มีนาคม 2548 16:07 น. - comment id 437069
๏ แปลกหน้าขณะพบ............ฤ ประสบอนาถา โปรดจงกรุณา......................มุทุตาและเกื้อกูล ดุจไม้ศุจิแย้ม......................ผิว์กุหลาบและแหลมบูรณ์ ถูกบีบสิกระลูน*....................มิเสถียรจรูญใด- ๚
10 มีนาคม 2548 16:10 น. - comment id 437072
เมื่อสายหมอกมืดคลุ้มหม่นคุมตัว ดาวสลัวแสนรกร่วงตกฟ้า อาทิตย์แดงส่องแดดแผดชีวา ถึงคราวข้าจะยึดครองผองชีวิต!
10 มีนาคม 2548 16:13 น. - comment id 437074
๏ แปลกหน้าขณะพบ............ฤ ประสบอนาถา โปรดจงกรุณา......................มุทุตาและเกื้อกูล ดุจไม้ศุจิแย้ม......................ผิว์กุหลาบและแหลมบูรณ์ ถูกบีบสิกระลูน*....................มิเสถียรจรูญใด- ๚ จาก : รหัสสมาชิก : 2189 - อัลมิตรา ก็ในเมื่อมวลมนุษย์สุดโหดร้าย ข้าทำลายด้วยฤทธีก็ดีนั่น ไฉนค่อนเอ๋ยคำร่ำรำพัน ว่าตัวฉันไร้เหตุมิเมตตา!
10 มีนาคม 2548 16:19 น. - comment id 437075
จินตนาการเถิดว่าเวลานี้ จักไม่มีสรวงสวรรค์ตระการไหน มันง่ายนักหากเธอมิเผลอใจ ครั้นจิตใฝ่ฟันฝ่าพยายาม
10 มีนาคม 2548 16:20 น. - comment id 437076
โลกสวยด้วยรักจักเมตตา โลกข้างหน้าเย็นฉ่ำด้วยน้ำใส เอาอารมณ์ข่มเหงด้วยแรงไฟ จะมอดไม้ทั้ง....โลกเป็นจุล
10 มีนาคม 2548 16:20 น. - comment id 437077
จินตนาการเถิดว่าเวลานี้ จักไม่มีขุมนรกให้อกหวาม อีกที่สุดโลกหล้าคราตรองตาม คงได้ความหากชำเลืองเบื้องล่างเรา
10 มีนาคม 2548 16:20 น. - comment id 437078
เริงร่ายลมเล่นล้อ...........ราวไพร พ่นพิษอัคคีภัย...............ผ่านฟ้า มอดไหม้รุกหลับไหล......มวลหมู่ เหลือแต่ตอต่อหน้า........อนาจแท้ภัยชน
10 มีนาคม 2548 16:22 น. - comment id 437079
เพราะเบื้องบนตนหรือคือฟ้ากว้าง แจ่มกระจ่างสดใสคลายอับเฉา จินตนาการเถิดว่าประชาเรา- ปราศโศกเศร้ายังยืนหยัดในปัจจุบัน
10 มีนาคม 2548 16:26 น. - comment id 437081
จินตนาการเถิดว่าเวลานี้ จักไม่มีสรวงสวรรค์ตระการไหน มันง่ายนักหากเธอมิเผลอใจ ครั้นจิตใฝ่ฟันฝ่าพยายาม จาก : รหัสสมาชิก : 2189 - อัลมิตรา ไม่มีหรอกสรวงสวรรค์ในวันนี้ มีแต่ขุมอเวจีที่คุร้อน รอเวลาเผาผลาญทุกขั้นตอน ไม่ต้องรอนรานจิตคิดฝ่าฟัน!
10 มีนาคม 2548 16:27 น. - comment id 437082
แก้ปัญหาด้วยแรงกาย มิวายสิ้นแรง..ไร้ผล จงใช้ปัญญาเข้าสู้ชน เราคือคน..ใช่ควายในคันนา.
10 มีนาคม 2548 16:27 น. - comment id 437083
จินตนาการเถิดว่าอาณาจักร จักตระหนักว่าประเทศไร้เขตกั้น มิยากนักหากเราเข้าใจกัน แล้วมุ่งมั่นฟันฝ่ามาร่วมทาง
10 มีนาคม 2548 16:28 น. - comment id 437085
โลกสวยด้วยรักจักเมตตา โลกข้างหน้าเย็นฉ่ำด้วยน้ำใส เอาอารมณ์ข่มเหงด้วยแรงไฟ จะมอดไม้ทั้ง....โลกเป็นจุล จาก : เฝ้ามองโลก ถึงคราวแล้วโลกควรแยกแตกสลาย และมลายหายลับลงดับดิ้น ก็ในเมื่อนรชนบนพื้นดิน สรรพ์ก็สิ้นห่าเหตุความเมตตา!
10 มีนาคม 2548 16:29 น. - comment id 437086
ไม่มีเหตุเลศนัยใช้เข่นฆ่า ปราศบีฑาผู้ใดใครขัดขวาง ปราศคนเจ็บล้มตายไร้ครวญคราง ไร้แนวทางลัทธิมิแบ่งใคร
10 มีนาคม 2548 16:31 น. - comment id 437087
เพราะเบื้องบนตนหรือคือฟ้ากว้าง แจ่มกระจ่างสดใสคลายอับเฉา จินตนาการเถิดว่าประชาเรา- ปราศโศกเศร้ายังยืนหยัดในปัจจุบัน จาก : รหัสสมาชิก : 2189 - อัลมิตรา เพราะเบื้องบนคนหรือคือมืดฟ้า และศรัทธาหนีหายให้อับเฉา เหลือเพียงสิ่งมืดสลัวในตัวเรา และว่างเปล่าอ้างว้างอย่างเลือดเย็น!
10 มีนาคม 2548 16:33 น. - comment id 437088
ความแต่งต่างทางศาสน์มิอาจกั้น อยู่ร่วมกันอย่างสันติต่างมีให้ จินตนาการเถิดว่าถ้าร่วมใจ ทุกคนไซร้มีชีวิตจิตเสรี
10 มีนาคม 2548 16:33 น. - comment id 437089
แก้ปัญหาด้วยแรงกาย มิวายสิ้นแรง..ไร้ผล จงใช้ปัญญาเข้าสู้ชน เราคือคน..ใช่ควายในคันนา. จาก : รหัสสมาชิก : 12405 - โอ คาลิฟโซ แก้ปัญหาด้วยแรงกายใช่สมอง นั่นและผองคนพาลสันดานนั่น โลกรันทดหมดค่าและจาบัลย์ ก็กระนั้นและสมองมันของควาย!
10 มีนาคม 2548 16:35 น. - comment id 437090
จินตนาการเถิดว่าอาณาจักร จักตระหนักว่าประเทศไร้เขตกั้น มิยากนักหากเราเข้าใจกัน แล้วมุ่งมั่นฟันฝ่ามาร่วมทาง จาก : รหัสสมาชิก : 2189 - อัลมิตรา มันยากยิ่งเกินสิ่งไรในโลกนี้ ที่จะมีการร่วมแรงอย่างแกร่งกล้า มีแต่การแย่งชิงติงราคา แล้วจะมาเอาอะไรให้ร่วมกัน!
10 มีนาคม 2548 16:38 น. - comment id 437091
ไม่มีเหตุเลศนัยใช้เข่นฆ่า ปราศบีฑาผู้ใดใครขัดขวาง ปราศคนเจ็บล้มตายไร้ครวญคราง ไร้แนวทางลัทธิมิแบ่งใคร จาก : รหัสสมาชิก : 2189 - อัลมิตรา ข้าจะฆ่าคนชั่วทุกตัวตน มันเป็นคนหรือเป็นผีมิเว้นไม่ โลกจะได้งามบ้างช่างปะไร กับบรรลัยเสียบ้างของบางคน!
10 มีนาคม 2548 16:38 น. - comment id 437092
จินตนาการเถิดว่าประชาชาติ ล้วนมุ่งมาตรความสุขในทุกที่ ดำรงชีพแนวทางอย่างเสรี แต่อาจมีผู้เห็นฉันเพ้อฝันไป
10 มีนาคม 2548 16:39 น. - comment id 437094
โลกกว้างใหญ่มองไกลแผ่ไพศาล สิ่งสวยงามให้มอง..ปองมากมี อย่ามองใกล้มุมแคบรูปแบบนี้ มองด้วยใจเข้าสิ..จะเห็นความเป็นจริง
10 มีนาคม 2548 16:40 น. - comment id 437095
ความแต่งต่างทางศาสน์มิอาจกั้น อยู่ร่วมกันอย่างสันติต่างมีให้ จินตนาการเถิดว่าถ้าร่วมใจ ทุกคนไซร้มีชีวิตจิตเสรี จาก : รหัสสมาชิก : 2189 - อัลมิตรา ความแตกต่างทางศาสน์อาจขาวงกั้น เพราะชนชั้นเรานี้มีหลายเหล่า ทั้งคนชั่วคนดฉดโหดไม่เบา จะร่วมใจใยเล่าเสียเปล่าจริง!
10 มีนาคม 2548 16:46 น. - comment id 437104
โลกกว้างใหญ่มองไกลแผ่ไพศาล สิ่งสวยงามให้มอง..ปองมากมี อย่ามองใกล้มุมแคบรูปแบบนี้ มองด้วยใจเข้าสิ..จะเห็นความเป็นจริง จาก : รหัสสมาชิก : 12405 - โอ คาลิฟโซ เพราะโลกนี้แคบนักสักแค่คืบ จะส่ำสืบส่ำสาวก็รู้รู้ไส้ มันมีแต่อัปยศหมดไฉไล และหลับไหลรุ่มร้อนมิหย่อนเลย!
10 มีนาคม 2548 16:47 น. - comment id 437105
เธออาจคิดว่าฉันนั้นพร่ำเพ้อ แต่หากเธอไตร่ตรองมองเงื่อนไข มีเพียงฉันผู้หนึ่งซึ่งมั่นใจ ฤๅมีใครยังหวังอย่างเดียวกัน
10 มีนาคม 2548 16:49 น. - comment id 437107
ยังปรารถนาว่าเธอจักร่วมด้วย ต่างมุ่งช่วยก่อร่างสร้างความฝัน ให้ปรากฏแจ้งจิตสัมฤทธิ์พลัน แล้วโลกนั้นจะหลอมเป็นเช่นหนึ่งเดียว
10 มีนาคม 2548 16:52 น. - comment id 437110
ที่ร้อนรุ่มเพราะใครไหนชีแนะ ลองชำแระให้เห็นเป็นขนาน ลมปากปล่อยไปอยู่ไม่นาน มัวคอยพาลด้วยอารมณ์..ไม่สมฤดี
10 มีนาคม 2548 16:57 น. - comment id 437111
ความเป็นจริงที่ร้อนและรุ่มเร้า เพราะใจเจ้า..ใช่อะไรที่ไกลแสน ไร้สมาธิ..ไม่สงบย่อมขาดแคลน สูญสิ้นแผนปัญญาฝ่าภัยพาล
10 มีนาคม 2548 16:59 น. - comment id 437112
จินตนาการเถิดหนาถ้าอำนาจ สิทธิ์ผูกขาดต้องแตกแหลกเป็นเสี้ยว ปราศผู้ชอบครอบครองปองผู้เดียว เธอคงเหลียวเฉลียวจิตคิดแปลกใจ
10 มีนาคม 2548 17:00 น. - comment id 437113
เพราะหากเธอทำไปได้เช่นนั้น ผู้โลภโมโทสันอันมักใหญ่ ผู้หิวโหยโรยแรงแห่งหนใด จักหมดไปจากโลกคลายโศกตรม
10 มีนาคม 2548 17:01 น. - comment id 437114
ความถือพี่มีน้องต้องบังเกิด สิ่งประเสริฐสรรสร้างอย่างเหมาะสม จินตนาการเถิดหนาพารื่นรมย์ ความชื่นชมแบ่งปันพลันเกิดมี
10 มีนาคม 2548 17:03 น. - comment id 437116
คนทั้งมวลล้วนชอบมอบความรัก ต่างร่วมภักดิ์สงบสุขทุกถิ่นที่ มีเมตตากรุณาเอื้ออารี โลกเรานี้จักงดงามล้ำพิไล มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า ..
10 มีนาคม 2548 17:06 น. - comment id 437118
ดอกไม้ไม่แย้มบาน และสายธารอาจแห้งหาย ชั่วขณะจะคลี่คลาย เพียงอุบายของสายธรรม ขอเธอจงเปิดกว้าง จงปล่อยวางห่างเรื่องช้ำ บางบทแค่กฏกรรม รุมกระหน่ำในชีวิต ทุกอย่างจะผ่านไป ฝืนอย่างไรในลิขิต ยอมรับความจริงนิด อย่าให้สิทธิ์ผิดนำทาง ..
10 มีนาคม 2548 17:15 น. - comment id 437124
ใช้กำลังตัดสินแก้ปัญหา ต่างอะไรกับขี้ข้าอ่อนหนังสือ ปราชญ์เรียนรู้ดูตัวอย่างท่านจางจือ แค่ยกมือก็สยบศึกหมื่นแสน.
10 มีนาคม 2548 17:29 น. - comment id 437130
อิอิอิ แวะมาดู สงครามปะทะ คารม นางมารน้อยขอเป็นกองเชียร์แล้วกันนะคะ
10 มีนาคม 2548 17:31 น. - comment id 437132
เห็น ผู้ เก่งกล้า ต่อ กลอน แล้ว ถอยมาอ่าน ดีกว่าอ่ะนะ ว่าแต่ท่าน จอมมารฯ ท่านเคืองใครที่ไหนมารึ ร้อนนา ดื่มน้ำก่อนใจจะได้เย็นน้า ........
10 มีนาคม 2548 17:46 น. - comment id 437135
พึงระลึกฝึกใจใฝ่ธรรม พึงลดละกิเลสคามลุกลามใหญ่ เดินมุ่งสู่สายกลางระหว่างใจ จะมองได้และเห็นเป็นอนัตตา เพียงบทกลอนนั้นหนาใช่ค่าน้อย เพียงรูปรอยของนักปราญช์วาดจริงหนา ขีดถ้อยคำร่างเพียรเขียนเป็นมา ด้วยสำนึกด้วยชีวาวิญญากัน หลายคนเขียนกลอนกานท์ผ่านอักษร หลายคนเพียรสร้างอักษรตอนหฤหรรย์ หรือบางคนอาจสร้างมันด้วยจาปัลย์ คงไม่มีใครกันคิดบัลลัยย์ บทกลอนกานท์ไม่มีจบสงบก่อน ตราบโลกจรผันเวียนเปลี่ยนสมัย บทกวียังควรอยู่คู่ค่าไทย ตราบสิ้นฟ้าและสิ้นใจไม่สิ้นลง
10 มีนาคม 2548 18:10 น. - comment id 437147
มวลหมู่มนุษย์แวะเข้ามามากเหลือ ไว้ยามราตรีกาลนี้ ข้าจะมาตอบความ
10 มีนาคม 2548 19:14 น. - comment id 437191
จินตนาการเถิดว่าประชาชาติ ล้วนมุ่งมาตรความสุขในทุกที่ ดำรงชีพแนวทางอย่างเสรี แต่อาจมีผู้เห็นฉันเพ้อฝันไป จาก : รหัสสมาชิก : 2189 - อัลมิตรา จินตนาการเถิดว่าประชาชาติ จะพินาศย่อยยับลงกับที่ เพราะขาดซึ่งสิทธิและเสรี อยู่ย่ำยีกันทั่วทุกชั่วคน!
10 มีนาคม 2548 19:15 น. - comment id 437194
โลกกว้างใหญ่มองไกลแผ่ไพศาล สิ่งสวยงามให้มอง..ปองมากมี อย่ามองใกล้มุมแคบรูปแบบนี้ มองด้วยใจเข้าสิ..จะเห็นความเป็นจริง จาก : รหัสสมาชิก : 12405 - โอ คาลิฟโซ เพราะโลกนี้แคบนักสักแค่คืบ จะส่ำสืบส่ำสาวก็รู้ไส้ มันมีแต่อัปยศหมดไฉไล และหลับไหลรุ่มร้อนมิหย่อนเลย!
10 มีนาคม 2548 19:28 น. - comment id 437210
ความคิดเห็น : จินตนาการเถิดหนาถ้าอำนาจ สิทธิ์ผูกขาดต้องแตกแหลกเป็นเสี้ยว ปราศผู้ชอบครอบครองปองผู้เดียว เธอคงเหลียวเฉลียวจิตคิดแปลกใจ จาก : รหัสสมาชิก : 2189 - อัลมิตรา รหัส - วัน เวลา : 444809 - 10 มี.ค. 48 - 16:59 ความคิดเห็น : เพราะหากเธอทำไปได้เช่นนั้น ผู้โลภโมโทสันอันมักใหญ่ ผู้หิวโหยโรยแรงแห่งหนใด จักหมดไปจากโลกคลายโศกตรม จาก : รหัสสมาชิก : 2189 - อัลมิตรา รหัส - วัน เวลา : 444810 - 10 มี.ค. 48 - 17:00 ความคิดเห็น : ความถือพี่มีน้องต้องบังเกิด สิ่งประเสริฐสรรสร้างอย่างเหมาะสม จินตนาการเถิดหนาพารื่นรมย์ ความชื่นชมแบ่งปันพลันเกิดมี จาก : รหัสสมาชิก : 2189 - อัลมิตรา รหัส - วัน เวลา : 444811 - 10 มี.ค. 48 - 17:01 ความคิดเห็น : คนทั้งมวลล้วนชอบมอบความรัก ต่างร่วมภักดิ์สงบสุขทุกถิ่นที่ มีเมตตากรุณาเอื้ออารี โลกเรานี้จักงดงามล้ำพิไล มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า .. จาก : รหัสสมาชิก : 2189 - อัลมิตรา เพราะข้าคือจอมมารขมังเวทย์ มิมีเหตุให้ต้องแตกแหลกเป็นเสี้ยว ข้าจะขอครอบครองปองผู้เดียว จะไม่เหลียวแลหน้าไปหาใคร เพราะข้ามีโมโหโทโสยิ่ง สิ่งทุกสิ่งที่ข้าเห็นคือเป็นใหญ่ ผู้หิวโหยโรยแรงแห่งหนใด ก็หมดไปเพราะไม่สู้ผู้ชนะ ความถือพี่มีน้องของข้านี้ มิเคยมีสักหนพ้นสัจจะ คือโดดเดี่ยวในความฝันโดยพันธะ แล้วไหนหล่ะแบ่งปันพลันเกิดมี คนทั้งมวลล้วนชอบมอบความรัก แน่นและหนักนั่นแหล่ะตอแหลนี่ สวมหน้ากากกรุณาเอื้ออารี โลกจึงมีแต่เศษซากกากเศษเดน! มิตรภาพหามีไม่!
10 มีนาคม 2548 19:29 น. - comment id 437212
อาจจบตอนเท่านั้นที่ฉันเห็น เพราะประเด็นตกไปไม่เหมือนก่อน แต่สักวันเปลี่ยนไปใฝ่สัญจร ก็จะมีบทกลอนมาเหมือนเดิม *-*กลอนน่ารักดีค่ะ*-*
10 มีนาคม 2548 19:37 น. - comment id 437223
ที่ร้อนรุ่มเพราะใครไหนชีแนะ ลองชำแระให้เห็นเป็นขนาน ลมปากปล่อยไปอยู่ไม่นาน มัวคอยพาลด้วยอารมณ์..ไม่สมฤดี จาก : รหัสสมาชิก : 12405 - โอ คาลิฟโซ รหัส - วัน เวลา : 444807 - 10 มี.ค. 48 - 16:52 ความคิดเห็น : ความเป็นจริงที่ร้อนและรุ่มเร้า เพราะใจเจ้า..ใช่อะไรที่ไกลแสน ไร้สมาธิ..ไม่สงบย่อมขาดแคลน สูญสิ้นแผนปัญญาฝ่าภัยพาล จาก : รหัสสมาชิก : 12405 - โอ คาลิฟโซ ที่โลกร้อนจะเพราะใครที่ไหนเล่า ก็พวกเจ้าเหล่ามนุษย์สุดขนาน โลมด้วยเล่ห์ลมปากถากกันกราน ภัยจึงพาลด้วยอารมณ์ไม่สมปอง เผากันด้วยคนเป็นที่เหม็นเน่า ก็พงษ์เผ่าพวกมนุษย์สุดสยอง บ้างทำเป็นไม่ไหวติงหยิ่งลำพอง เจ้าก็ลองมองเจ้าจะเข้าใจ!
10 มีนาคม 2548 19:46 น. - comment id 437230
ดอกไม้ไม่แย้มบาน และสายธารอาจแห้งหาย ชั่วขณะจะคลี่คลาย เพียงอุบายของสายธรรม ขอเธอจงเปิดกว้าง จงปล่อยวางห่างเรื่องช้ำ บางบทแค่กฏกรรม รุมกระหน่ำในชีวิต ทุกอย่างจะผ่านไป ฝืนอย่างไรในลิขิต ยอมรับความจริงนิด อย่าให้สิทธิ์ผิดนำทาง .. จาก : รหัสสมาชิก : 7067 - กุ้งหนามแดง ดอกไม้เมื่อไม่หอม ก็จงพร้อมเป็นซากเน่า แม่น้ำไม่งามเงา มันก็เน่าเพราะน้ำนั่น เปิดไปก็ใช่เห็น เพราะลำเค็ญมาขวางกั้น ร้องไห้ในบางวัน เพราะความฝันเริ่มลางเลือน ทุกอย่างเมื่อย่างกราย มันโหดร้ายมีใครเหมือน ชอกช้ำคอยย้ำเตือน ว่าผองเพื่อนพึ่งไม่ได้!
10 มีนาคม 2548 19:50 น. - comment id 437235
ใช้กำลังตัดสินแก้ปัญหา ต่างอะไรกับขี้ข้าอ่อนหนังสือ ปราชญ์เรียนรู้ดูตัวอย่างท่านจางจือ แค่ยกมือก็สยบศึกหมื่นแสน. จาก : รหัสสมาชิก : 12405 - โอ คาลิฟโซ ก็กำลังวังชาข้ามีเยอะ แล้วมีเหรอจะพ่ายแพ้แก่ปัญหา ดูอย่างพวกสดายุอสุรา ก็สยบโลกาด้วยกำลัง
10 มีนาคม 2548 19:54 น. - comment id 437238
อิอิอิ แวะมาดู สงครามปะทะ คารม นางมารน้อยขอเป็นกองเชียร์แล้วกันนะคะ จาก : รหัสสมาชิก : 4903 - มารน้อย นางมารน้อยมาเป็นบริวารข้าแต่โดยดี!
10 มีนาคม 2548 19:56 น. - comment id 437241
เห็น ผู้ เก่งกล้า ต่อ กลอน แล้ว ถอยมาอ่าน ดีกว่าอ่ะนะ ว่าแต่ท่าน จอมมารฯ ท่านเคืองใครที่ไหนมารึ ร้อนนา ดื่มน้ำก่อนใจจะได้เย็นน้า ........ จาก : ดาหลา & ปะการัง เคืองมนุษย์สุดชั่วทุกตัวตน ข้าดื่มแต่โลหิต น้ำเปล่าข้าไม่ดื่ม ขอบใจเจ้าก็แล้วกัน
10 มีนาคม 2548 20:03 น. - comment id 437249
ความคิดเห็น : พึงระลึกฝึกใจใฝ่ธรรม พึงลดละกิเลสคามลุกลามใหญ่ เดินมุ่งสู่สายกลางระหว่างใจ จะมองได้และเห็นเป็นอนัตตา เพียงบทกลอนนั้นหนาใช่ค่าน้อย เพียงรูปรอยของนักปราญช์วาดจริงหนา ขีดถ้อยคำร่างเพียรเขียนเป็นมา ด้วยสำนึกด้วยชีวาวิญญากัน หลายคนเขียนกลอนกานท์ผ่านอักษร หลายคนเพียรสร้างอักษรตอนหฤหรรย์ หรือบางคนอาจสร้างมันด้วยจาปัลย์ คงไม่มีใครกันคิดบัลลัยย์ บทกลอนกานท์ไม่มีจบสงบก่อน ตราบโลกจรผันเวียนเปลี่ยนสมัย บทกวียังควรอยู่คู่ค่าไทย ตราบสิ้นฟ้าและสิ้นใจไม่สิ้นลง จาก : ใยไหม เคยระลึกฝึกใจใฝ่ธรรมะ และลดละกิเลศจนหมดสิ้น แต่สุดท้ายนะหรือคือมลทิน ให้ข้ากินข้าเห็นเป็นอัตตา ก็บทกลอนนั้นหนามีค่าน้อย เพราะคนพล่อยซ่อนเร้นไม่เห็นค่า เอาความคาวเอาราคีตีราคา เอาโศกาเอาความแค้นเป็นแก่นกลอน เอาความโง่เอาความหลงลงวาทะ เอาพันธะเอาความเขลาเข้าสั่งสอน เอาความคิดอันไร้ค่าเป็นอาภรณ์ สุดท้ายกลอนก็ดับลับไปเอง!
10 มีนาคม 2548 20:25 น. - comment id 437254
อาจจบตอนเท่านั้นที่ฉันเห็น เพราะประเด็นตกไปไม่เหมือนก่อน แต่สักวันเปลี่ยนไปใฝ่สัญจร ก็จะมีบทกลอนมาเหมือนเดิม *-*กลอนน่ารักดีค่ะ*-* จาก : รหัสสมาชิก : 4521 - ผู้หญิงไร้เงา กลอนก็เริ่มหล่นหายไปแล้วหล่ะ ใครคิดจะสืบสานก็พานสูญ ค่าเริ่มลดถดถอยคอยเกื้อกูล หรือเพิ่มพูนเป็นขยะมาประเดิม
10 มีนาคม 2548 20:46 น. - comment id 437260
ข้านี้หรือเพิ่งเห็นท่านจอมมารฯเวทย์ ผู้วิเศษ ท่านเคืองใด โปรดไขขาน เผื่อข้าฯน้อยผู้ยังทุกข์ไม่สำราญ อาจฟังความชื่นบานท่านสักครา ข้าฯน้อยขอคารวะท่านจอมมารฯ
10 มีนาคม 2548 20:52 น. - comment id 437263
โปรดอภัยในวันนี้มีธุระ อาจดูด้อยสาระนะกลอนข้าฯ แต่เมื่ออ่านงานท่านพรรณนา สุดจะหัก น้ำตา...หากข้าฯ ตรม ข้าฯ ก็เป็นได้แค่นี้เอง คงเป็นกลอนขยะอย่างที่ท่านว่าแหละ ขอต้อนรับและคารวะท่านอีกครั้ง
10 มีนาคม 2548 20:57 น. - comment id 437264
ไม่มีหรอกดอกไม้ที่ไหวหวาน ไม่มีหรอกลำธารที่ฉ่ำชื่น มีแต่ความมืดหมองของกลางคืน และจงยื่นมือรับไปกับมัน
10 มีนาคม 2548 21:08 น. - comment id 437269
ข้านี้หรือเพิ่งเห็นท่านจอมมารฯเวทย์ ผู้วิเศษ ท่านเคืองใด โปรดไขขาน เผื่อข้าฯน้อยผู้ยังทุกข์ไม่สำราญ อาจฟังความชื่นบานท่านสักครา ข้าฯน้อยขอคารวะท่านจอมมารฯ จาก : รหัสสมาชิก : 4895 - tiki รหัส - วัน เวลา : 444959 - 10 มี.ค. 48 - 20:46 ความคิดเห็น : โปรดอภัยในวันนี้มีธุระ อาจดูด้อยสาระนะกลอนข้าฯ แต่เมื่ออ่านงานท่านพรรณนา สุดจะหัก น้ำตา...หากข้าฯ ตรม ข้าฯ ก็เป็นได้แค่นี้เอง คงเป็นกลอนขยะอย่างที่ท่านว่าแหละ ขอต้อนรับและคารวะท่านอีกครั้ง จาก : รหัสสมาชิก : 4895 - tiki ข้าเคืองแค้นมารมนุษย์สุดโหดร้าย ที่ทำลายร่างข้าอย่างสาหัส มันรวบรวมความขลังพลังวัตต์ มาประหัตประหารข้าอย่างสาใจ มันเด็ดดอกไม้งามทุกยามที่ กลืนวารีรอกระรื่นสะอื้นไห้ มันเอาเพลิงเผาผลาญม่านไม้ไพร จนข้าใกล้หมดมารุตสุดชีวังค์
10 มีนาคม 2548 21:38 น. - comment id 437284
โอหนอ มารมนุษย์สุดแสนคลั่ง ไยประดังเด็ดไม้งามให้ทรามหมอง อีกวารีเชี่ยวยังกลืนรื่นละออง วางเพลิงผองป่าพงคงวอดวาย โอ้อนาถชาติเรานานเนานัก ชาติที่รักไยกระทำช้ำเสียหาย ข้าฯฟังท่านพรรณนามามากมาย ช่างโหดร้ายมารมนุษย์สุดโหดมาร ขอคารวะท่านจอมมารฯ อีกครั้ง ขอให้ท่านสงบรำลึกในความเยือกเย็น ในกระแสธารใจ
10 มีนาคม 2548 21:50 น. - comment id 437290
เรนอยากรู้จัก ..จอมมารขมังเวทย์.. อยากรู้สาเหตุ .. ที่ ..ก่อปัญหา.. บทกลอน ..ของเรน ..หัดแต่งมา .. ขอท่าน..กรุณา .. โปรดชี้นำ .. เรน ..เป็นนักเรียน..ฝีกหัด .. เก็บคำสัมผัส.. มาหัดเขียน .. บางที .. เรนก็ แอบมา.. เรียน .. ก็ยังเพี้ยน.. ตัวเบี้ยว .. ครูแยกเขี้ยว ..ทุกที .. ... เรน.. ขอยืนยัน .. บทกลอนไทย .. ไม่มีวันตาย .. ...
10 มีนาคม 2548 22:28 น. - comment id 437307
แม้ขยะเก็บไปรีไซเคิ้ล ยังได้เงินเหมือนกันทุกวันเห็น ฉะนั้นบทกลอนไทยในประเด็น น่าจะมีขอเน้นย้ำอีกที *-*ชื่นชมในผลงานค่ะ*-*
10 มีนาคม 2548 22:30 น. - comment id 437309
คารวะ ท่านจอมมารฯ 1 จอก
10 มีนาคม 2548 22:40 น. - comment id 437318
แม้ราตรีนี้ จะมืดมิด แต่ยังมีแสงดาว พราวไสว ในความดำมืด ใช่ว่าจะไร้แสง ดวงอาทิตย์ ยังมีจุดดับ คารวะท่าน อีก 1 จอก
10 มีนาคม 2548 22:42 น. - comment id 437321
โลก ยังคงหมุนไป ท่านใยต้องจริงปานนั้น คารวะท่าน อีก 1 จอก
10 มีนาคม 2548 22:45 น. - comment id 437323
ดอกไม้ สวยงาม งามอย่างที่มันเป็น มนุษย์ ก็เช่นกัน ท่านใยต้องคร่ำครวญ กับโชคชะตา ปานนั้น คารวะท่าน อีก 1 จอก
10 มีนาคม 2548 22:48 น. - comment id 437325
ดอกไม้ เบ่งบาน ส่งกลิ่น อบอวล คน ก็เช่นกัน ผ่านจุดรุ่งโรจน์ โรยรา เป็นเฉกเช่นเดียวกัน คารวะท่าน อีก 1 จอก
10 มีนาคม 2548 22:53 น. - comment id 437326
ลาภ ยศ สรรเสริญ ฯ ไม่จีรัง ใยต้องเศร้าเสียใจ เมื่อวันหนึ่งมันหายไป มันไม่มี เพราะมันไม่มีอยู่จริงๆ มิใช่ฤา ใยต้องเศ้ราเสียใจ ใยทุกข์ ขมขื่นใจ ไปใย คารวะท่าน อีก 1 จอก
10 มีนาคม 2548 23:00 น. - comment id 437332
จุดจบ กับ จุดกำเนิด เป็นจุดเดียวกัน เกิด ดับ จึงเป็นเรื่องปกติ กังวลใจไปใย คารวะท่าน อีก 1 จอก
10 มีนาคม 2548 23:05 น. - comment id 437334
ความเรียบง่าย คือความสวยงาม Simple is Beautiful
10 มีนาคม 2548 23:07 น. - comment id 437335
เรียบง่าย คือ ธรรมชาติ งามหมดจดกระไรปานนั้น สวยงามกระไรปานนั้น
10 มีนาคม 2548 23:11 น. - comment id 437338
แนวกวีหลายหลากมากรูปแบบ วางกฏแนบหลักเกณฑ์เน้นเงื่อนไข หากถือกรอบวางรอบครอบงำใจ คงเทียบใช่กะลา อัตตาตน ฤๅตัวเราลมแล้งแผลงพัดผ่าน ร่ายฟุ้งซ่านเป็นกลอนตอนสับสน ไร้สาระคุณค่าศรัทธาชน เพียงพร่ำบ่นลอบย้ำ คำกวี เพราะเราคือเจ้าของครองลิขสิทธิ์ จะยึดติดทำไมในวิถี เทียบรากหญ้าต่ำต้อยด้อยความดี จะสุนทรีย์แค่ไหนไม่อยากวัด อยากแหกกฏบทกวีที่คับแคบ ขอเพี้ยนแบบสักคราอย่าเพิ่งขัด อย่าตัดสินหมิ่นความหยามชี้ชัด ว่าอ่อนหัดทำตาม อำเภอใจ หลากความคิดแนวกวีที่เปิดกว้าง อาจมีบ้างถูกผิดติดขัดได้ ถึงเข้ารกเข้าพงหลงทางไป อย่าหวั่นไหวก้าวต่อมิท้อพลาง ขอเพียงใจส่องไฟในความมืด อย่าขี้ตืดอารมณ์พร่างพรมกว้าง จงสานฝันเถิดหนาอย่าเลือนลาง เพราะหนทางแห่งศิลป์ไม่หมิ่นกัน
10 มีนาคม 2548 23:16 น. - comment id 437339
๏ เพ็ญแขคงแจ่มฟ้า...................จิรกาล ดุจปราชญ์อาจเชี่ยวชาญ.............เปรียบอ้าง ปวงศิลป์เปรียบสุริยการ..............โปรดโลก- ธาตุนอ กำจัดความมืดท้าง*......................หมดสิ้นความเขลา ๚ะ๛
10 มีนาคม 2548 23:29 น. - comment id 437345
ไม่มีจบไม่มีจาก ไม่มีพราก ไม่มีหนีไปไหน ไม่มีไม่มีอะไร หรือเราคิดไปเอาเอง ไม่รู้เหมือนกันนะ เรือ่ง นี้
11 มีนาคม 2548 09:46 น. - comment id 437448
เอื๊อก .......!!!!! ผมไม่รู้ ผมมาววววววว
11 มีนาคม 2548 11:16 น. - comment id 437475
กลอนมาจากใจ ถ้าไม่มีใจ-ก็ไม่มีกลอน ถ้าใจดับกลอนก็ดับ ถ้าใจตื่นกลอนก็ตื่น ๚ะ๛ size>
11 มีนาคม 2548 12:54 น. - comment id 437507
เพียงอุบายมารร่ายมนต์คนวิพากษ์ สำนึกฝากเหตุผลกลอนด้นดั้น ร้ายคือดีกวีนัยไหวสำคัญ คิดต่างกันฝันต่างคน......วางละ ^_^..............
11 มีนาคม 2548 13:25 น. - comment id 437521
ขยันจังนะ...จอมมาร แต่จะขมังเวทย์หรือเปล่าไม่รู้นะ... แต่ที่แน่แน่...สำหรับข้าพเจ้า..หัวใจใส่กลอนเสมอ
11 มีนาคม 2548 13:27 น. - comment id 437524
โอหนอ มารมนุษย์สุดแสนคลั่ง ไยประดังเด็ดไม้งามให้ทรามหมอง อีกวารีเชี่ยวยังกลืนรื่นละออง วางเพลิงผองป่าพงคงวอดวาย โอ้อนาถชาติเรานานเนานัก ชาติที่รักไยกระทำช้ำเสียหาย ข้าฯฟังท่านพรรณนามามากมาย ช่างโหดร้ายมารมนุษย์สุดโหดมาร ขอคารวะท่านจอมมารฯ อีกครั้ง ขอให้ท่านสงบรำลึกในความเยือกเย็น ในกระแสธารใจ จาก : รหัสสมาชิก : 4895 - tiki ก็กระนี้ข้าจึงยอมเป็นจอมมาร เผื่อล้างผลาญมารอื่นอีกหมื่นแสน จึงเข้าถ้ำบำเพ็ญกายมาคายแค้น ที่เจ็บแน่นฝังลึกถึงรากเหง้า ข้ามาจากขุนเขาอันไกลพ้น ไร้ตัวตนที่กลาดเกลื่อนไม่เหมือนเก่า กระทั่งเห็นมารผีมีแต่เงา ข้าจึงเข้าไปหาเพื่อฆ่ามัน!
11 มีนาคม 2548 13:32 น. - comment id 437527
เรนอยากรู้จัก ..จอมมารขมังเวทย์.. อยากรู้สาเหตุ .. ที่ ..ก่อปัญหา.. บทกลอน ..ของเรน ..หัดแต่งมา .. ขอท่าน..กรุณา .. โปรดชี้นำ .. เรน ..เป็นนักเรียน..ฝีกหัด .. เก็บคำสัมผัส.. มาหัดเขียน .. บางที .. เรนก็ แอบมา.. เรียน .. ก็ยังเพี้ยน.. ตัวเบี้ยว .. ครูแยกเขี้ยว ..ทุกที .. ... เรน.. ขอยืนยัน .. บทกลอนไทย .. ไม่มีวันตาย .. ... จาก : รหัสสมาชิก : 3384 - rain.. ตัวข้าอยู่คนเดียวโดดเดี่ยวนัก จะรู้จักข้าไปไยไปเถิดหนา ข้านะคือจอมมารชาญวิชา อยู่แต่ป่าบำเพ็ญกายหลายหมื่นปี!
11 มีนาคม 2548 13:36 น. - comment id 437529
แม้ขยะเก็บไปรีไซเคิ้ล ยังได้เงินเหมือนกันทุกวันเห็น ฉะนั้นบทกลอนไทยในประเด็น น่าจะมีขอเน้นย้ำอีกที *-*ชื่นชมในผลงานค่ะ*-* จาก : รหัสสมาชิก : 4521 - ผู้หญิงไร้เงา ข้าไม่มีอะไรให้ชื่นชม มีแต่ความขื่นขมไม่สมหวัง แต่นี้ไปอักษรศิลป์จะภิณท์พัง และจะยังเพียงแค่เหยื่อเหลือให้กิน!
11 มีนาคม 2548 13:47 น. - comment id 437539
ความคิดเห็น : คารวะ ท่านจอมมารฯ 1 จอก จาก : จอมโจรชอลิ้วเฮียง รหัส - วัน เวลา : 445008 - 10 มี.ค. 48 - 22:30 ความคิดเห็น : แม้ราตรีนี้ จะมืดมิด แต่ยังมีแสงดาว พราวไสว ในความดำมืด ใช่ว่าจะไร้แสง ดวงอาทิตย์ ยังมีจุดดับ คารวะท่าน อีก 1 จอก จาก : จอมโจรชอลิ้วเฮียง รหัส - วัน เวลา : 445017 - 10 มี.ค. 48 - 22:40 ความคิดเห็น : โลก ยังคงหมุนไป ท่านใยต้องจริงปานนั้น คารวะท่าน อีก 1 จอก จาก : จอมโจรชอลิ้วเฮียง รหัส - วัน เวลา : 445020 - 10 มี.ค. 48 - 22:42 ความคิดเห็น : ดอกไม้ สวยงาม งามอย่างที่มันเป็น มนุษย์ ก็เช่นกัน ท่านใยต้องคร่ำครวญ กับโชคชะตา ปานนั้น คารวะท่าน อีก 1 จอก จาก : จอมโจรชอลิ้วเฮียง รหัส - วัน เวลา : 445022 - 10 มี.ค. 48 - 22:45 ความคิดเห็น : ดอกไม้ เบ่งบาน ส่งกลิ่น อบอวล คน ก็เช่นกัน ผ่านจุดรุ่งโรจน์ โรยรา เป็นเฉกเช่นเดียวกัน คารวะท่าน อีก 1 จอก จาก : จอมโจรชอลิ้วเฮียง รหัส - วัน เวลา : 445024 - 10 มี.ค. 48 - 22:48 ความคิดเห็น : ลาภ ยศ สรรเสริญ ฯ ไม่จีรัง ใยต้องเศร้าเสียใจ เมื่อวันหนึ่งมันหายไป มันไม่มี เพราะมันไม่มีอยู่จริงๆ มิใช่ฤา ใยต้องเศ้ราเสียใจ ใยทุกข์ ขมขื่นใจ ไปใย คารวะท่าน อีก 1 จอก จาก : จอมโจรชอลิ้วเฮียง รหัส - วัน เวลา : 445025 - 10 มี.ค. 48 - 22:53 ความคิดเห็น : จุดจบ กับ จุดกำเนิด เป็นจุดเดียวกัน เกิด ดับ จึงเป็นเรื่องปกติ กังวลใจไปใย คารวะท่าน อีก 1 จอก จาก : จอมโจรชอลิ้วเฮียง รหัส - วัน เวลา : 445031 - 10 มี.ค. 48 - 23:00 ความคิดเห็น : ความเรียบง่าย คือความสวยงาม Simple is Beautiful จาก : จอมโจรชอลิ้วเฮียง รหัส - วัน เวลา : 445033 - 10 มี.ค. 48 - 23:05 ความคิดเห็น : เรียบง่าย คือ ธรรมชาติ งามหมดจดกระไรปานนั้น สวยงามกระไรปานนั้น จาก : จอมโจรชอลิ้วเฮียง รหัส - วัน เวลา : 445034 - 10 มี.ค. 48 - 23:07 เจ้าก็เป็นจอมโจรน่าจะเข้าใจ ข้าคือจอมมารหนึ่งในพิภพ ข้าต้องทนบอบช้ำความสาหัสนานนับหมื่นปี แสงเดือนแสงตะวันที่ส่องสกาวใสใดเล่า ข้ามิเคยพบมิเคยสัมผัส บุปผามาลีว่างามใด ข้ามิเคยยล ข้าพบพานแต่ความมืดหมอง และความมืดมิด กับความเจ็บปวดที่รอข้าแก้แค้น เพื่อทวงคืนสิ่งที่ข้าสูญหายและหาได้สัมผัสไม่ เมื่อรุ่งอรุณทอแสง ใต้อรุโณทัยทิวานั้น ข้ากลับได้ยลแต่สิ่งชั่วร้าย ดอกไม้หอมแห้งหาย และสายธารแห้งเหือด กระนี้จะให้ข้าอยู่เฉยไปไยเล่า!
11 มีนาคม 2548 14:29 น. - comment id 437572
แนวกวีหลายหลากมากรูปแบบ วางกฏแนบหลักเกณฑ์เน้นเงื่อนไข หากถือกรอบวางรอบครอบงำใจ คงเทียบใช่กะลา อัตตาตน ฤๅตัวเราลมแล้งแผลงพัดผ่าน ร่ายฟุ้งซ่านเป็นกลอนตอนสับสน ไร้สาระคุณค่าศรัทธาชน เพียงพร่ำบ่นลอบย้ำ คำกวี เพราะเราคือเจ้าของครองลิขสิทธิ์ จะยึดติดทำไมในวิถี เทียบรากหญ้าต่ำต้อยด้อยความดี จะสุนทรีย์แค่ไหนไม่อยากวัด อยากแหกกฏบทกวีที่คับแคบ ขอเพี้ยนแบบสักคราอย่าเพิ่งขัด อย่าตัดสินหมิ่นความหยามชี้ชัด ว่าอ่อนหัดทำตาม อำเภอใจ หลากความคิดแนวกวีที่เปิดกว้าง อาจมีบ้างถูกผิดติดขัดได้ ถึงเข้ารกเข้าพงหลงทางไป อย่าหวั่นไหวก้าวต่อมิท้อพลาง ขอเพียงใจส่องไฟในความมืด อย่าขี้ตืดอารมณ์พร่างพรมกว้าง จงสานฝันเถิดหนาอย่าเลือนลาง เพราะหนทางแห่งศิลป์ไม่หมิ่นกัน จาก : รหัสสมาชิก : 2189 - อัลมิตรา รหัส - วัน เวลา : 445037 - 10 มี.ค. 48 - 23:11 ความคิดเห็น : ๏ เพ็ญแขคงแจ่มฟ้า...................จิรกาล ดุจปราชญ์อาจเชี่ยวชาญ.............เปรียบอ้าง ปวงศิลป์เปรียบสุริยการ..............โปรดโลก- ธาตุนอ กำจัดความมืดท้าง*......................หมดสิ้นความเขลา ๚ะ๛ จาก : รหัสสมาชิก : 2189 - อัลมิตรา รหัส - วัน เวลา : 445038 - 10 มี.ค. 48 - 23:16 อัสดงลอยดับฟ้า....................นภากาล เยี่ยงศาสตร์ศิลป์จบสาร........สืบหล้า อรุณรุ่งวันวาน......................มืดดับ ดังดื่นมวลมารบ้า..................บ่งไว้ในจินต์ แต่ละรสบทกลอนอันอ่อนหวาน อาจจะพาลเป็นขมไม่ชมชื่น เพราะเอาความมืดหมองของกลางคืน มาหยิบยื่นโยนใส่ให้แก่กลอน และแก่นของอรรถรสก็หมดแล้ว เพราะมีแนวเหม็นเน่าไม่เหมือนก่อน แต่ละวรรคแหว่งหายตายขั้นตอน และสั่งสอนสับสนจนติดยา และความก็เหมือนแก่ยากแก้ไข และเอาใจไปฝังจมฝั่งหล้า จนลมโลกโบกสะบัดไม่พัดพา เป็นอ่อนไหวเหมือนว่าศิลาลักษณ์ ก็แหกกฎบทกวีที่ขังกรอบ จนมันบอบมันช้ำเลือนจำหลัก แต่แล้วก็หล่นหายมากมายนัก ก็ว่าสักแต่จะสืบวิญญาณศิลป์ จนเจ้าหลงอมพระจันทร์ตะวันดาว ที่สกาวสดใสเอาไว้สิ้น จึงเหลือหมอกหม่นมาคลุมฟ้าดิน สุดท้ายนิลก็แดงเพื่อแต่งเงา ใบไม้มีสีเขียวก็เสี้ยวสั้น สุดท้ายมันก็จะเคลื่อนลงเหมือนเก่า และแล้วความงามอะเคื้อไม่เหลือเค้า เพราะพวกเจ้าเอาความขลังลงฝังดิน!
11 มีนาคม 2548 14:31 น. - comment id 437573
ไม่มีจบไม่มีจาก ไม่มีพราก ไม่มีหนีไปไหน ไม่มีไม่มีอะไร หรือเราคิดไปเอาเอง ไม่รู้เหมือนกันนะ เรือ่ง นี้ จาก : รหัสสมาชิก : 6139 - แม่จิตร สิ่งที่เจ้าพูด..หาเป็นเยี่ยงนั้นไม่ การจากการพรากเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงมิได้ และสุดท้ายมันก็จบเท่านั้นเอง!
11 มีนาคม 2548 14:33 น. - comment id 437575
ความคิดเห็น : เอื๊อก .......!!!!! ผมไม่รู้ ผมมาววววววว จาก : ขอโทษครับ...ผมเมา รึว่าจะเป็นเคล็ดวิชาหมัดเมา ประมาทมิได้เสียแล้วเรา
11 มีนาคม 2548 14:35 น. - comment id 437578
กลอนมาจากใจ ถ้าไม่มีใจ-ก็ไม่มีกลอน ถ้าใจดับกลอนก็ดับ ถ้าใจตื่นกลอนก็ตื่น ๚ะ๛ จาก : ผู้วิเศษคลั่งวิชา พวกเจ้าไม่มีใจกันหรอก รึจะมาประลองวิชากับข้า!
11 มีนาคม 2548 14:40 น. - comment id 437582
เพียงอุบายมารร่ายมนต์คนวิพากษ์ สำนึกฝากเหตุผลกลอนด้นดั้น ร้ายคือดีกวีนัยไหวสำคัญ คิดต่างกันฝันต่างคน......วางละ ^_^.............. จาก : plaing_piu ข้าจะร่ายมนตร์มารสังหารมนุษย์ ให้สิ้นสุดเศษซากให้สูญสิ้น ให้เหลือความอำไพในแผ่นดิน เพื่อได้กินหยาดทิพย์ทวีวิญญาณ!
11 มีนาคม 2548 14:41 น. - comment id 437583
ขยันจังนะ...จอมมาร แต่จะขมังเวทย์หรือเปล่าไม่รู้นะ... แต่ที่แน่แน่...สำหรับข้าพเจ้า..หัวใจใส่กลอนเสมอ จาก : รหัสสมาชิก : 12419 - มนต์กวี เจ้ามิเชื่อว่าข้าขมังเวทย์ รึเจ้าจะลองดี แต่ข้าคงใช้แค่ฝ่ามือเดียว เจ้าก็กระอักเลือดแล้ว!
11 มีนาคม 2548 15:45 น. - comment id 437619
มีคนอย่างท่านอยู่ก็มีสีสรรค์ไปอีกแบบ ใช่อิงแอบกับรัฐบาลพาลเวียนหัว มีฝ่ายค้านคอยเตือนไห้รู้ตัว แค่อย่ามั่วมีหลักฐานค้านให้เป็น อย่างท่านต้องเจอกับมารแมงมุม...ค่อยสูสีหน่อย...จิงม่ะ.... ก็ไปว่าเขาก่อนนี่ กลอนนี้ผมเขียนให้ท่าน...ตอนพ่ายแพ้แมงมุม จอมมารฯ...เขาน้อยใจกลับไปแล้ว เหมือนกินแห้วหัวหดหมดคุณค่า แถมสะอื้นกลืนกล้ำกินน้ำตา เพราะอยากมาว่าเขาก่อนจึงร้อนใจ
11 มีนาคม 2548 16:23 น. - comment id 437635
ท่านคือดำมืดมิดสนิททั่ว คนอื่นอาจหวาดกลัวระรัวหนี เราคือขาวราวสว่างเส้นทางมี ขอถือดีอวดกล้าดั่งท้าทาย ประหนึ่งเหรียญสองด้านอ่านความแจ้ง หนึ่งสำแดงแตกต่างบนความหมาย ทั้งหัว-ก้อยสื่อนิยามมิลามกราย มีขอบคล้ายแบ่งแยกให้แผกมอง เพราะโลกนี้ใช่จะมีเพียงหนึ่งด้าน หลากเหตุการณ์ดี-ร้ายมากมายสนอง เคยเจ็บช้ำเพราะทุกข์ย่ำน้ำตานอง หัวเราะก้องยิ้มได้ก็หลายครา เป็นมนุษย์ตัวน้อยด้อยฤทธี แต่ศักดิ์ศรีคุณธรรมแสนล้ำค่า ท่านเป็นมารอาจไม่ซึ้งซึ่งศรัทธา จึงก่นด่าเฉกโวหารนัยกานท์กลอน แม้ดอกไม้ทั่วไปไม่สวยสด แต่ปรากฏ ณ ที่หนึ่งซึ่งอยากสอน ดอกไม้แห่งความดีมิมีจร บานสลอนเมื่อเพ่งดูก็รู้เอง จงเปิดตาเปิดใจให้กว้างขวาง หากใช้จิตอำพรางอย่างข่มเหง คงเปรียบดั่งบัวใต้ตมตมละเลง ยากบานเต่งชูช่อรอพ้นธาร
11 มีนาคม 2548 16:31 น. - comment id 437639
เพราะเรามีมิตรภาพตราบสิ้นฟ้า จึงรจนาต่อไปใช่คิดผลาญ หวังกุศลผลบุญหนุนบันดาล ให้จอมมารกลับตนเป็นคนดี
11 มีนาคม 2548 16:58 น. - comment id 437651
อัลมิตราบอกเจ้าเราเห็นด้วย เอาใจช่วยคิดกลับใจไม่สายหนอ เคยเป็นมารด้านดื้อแค่นี้พอ ต่อนี้ก็หมั่นทำดี...สุขี....เอย
23 มีนาคม 2548 16:29 น. - comment id 443329
นมต์กวี อัลมิตรา ฝากไว้ก่อนเถอะ..ฮึม!..
25 มีนาคม 2548 03:11 น. - comment id 444155
อาจเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นฯที่ยังคงใกล้กับความไกลห่างจากจุดจบฯที่หามีไม่ยิ่งนัก แต่กระนั้น... ท่านจอมมารฯก็มิได้สำแดงตนห่างไกลไปจากความครบถ้วนของบทบาทแห่งจอมมารผู้ขมังเวทย์ ขาดไปแม้แต่น้อย นี่คือถ้อยคำที่มีมาถึงท่านฯ ..
25 มีนาคม 2548 05:24 น. - comment id 444164
:-|
26 มีนาคม 2548 15:01 น. - comment id 444739
ความคิดเห็น : อาจเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นฯที่ยังคงใกล้กับความไกลห่างจากจุดจบฯที่หามีไม่ยิ่งนัก แต่กระนั้น... ท่านจอมมารฯก็มิได้สำแดงตนห่างไกลไปจากความครบถ้วนของบทบาทแห่งจอมมารผู้ขมังเวทย์ ขาดไปแม้แต่น้อย นี่คือถ้อยคำที่มีมาถึงท่านฯ .. จาก : ลักษมณ์ รหัส - วัน เวลา : 452065 - 25 มี.ค. 48 - 03:11 ความคิดเห็น : :-| จาก : รหัสสมาชิก : 10654 - ลักษมณ์ รหัส - วัน เวลา : 452074 - 25 มี.ค. 48 - 05:24 มันคือจุดสุดท้ายของจุดจบต่างหากเล่า!
30 มีนาคม 2548 17:36 น. - comment id 446788
..มารนรกอกแตกแหวกวงการ มาคิดผลาญพล่านพร่ำคำอักษร เทียวโทษทั่วมั่วว่าด่าเป็นกลอน ใครสั่งสอนเสี้ยมสมหรือดมกาว ..คงโดนอัดขัดเคืองเขื่องอาฆาต อาระวาดฟาดดะปะทะกร้าว มาพิโรธโกรธจัดอัดระนาว ยังสามหาวกล่าวกร้านซ่านวาจา ..ไม่พอใจใครเก่าเขาเผาหัว จนมืดมัวหมดทางจะขวางท้า คงจนตรอกตกต่ำระกำมา ตามประสาสามัญไร้ชั้นเชิง ..จนอัดอั้นตันอกตกสะเก็ด กลายเป็นเม็ดหมักเน่าเก่าค้างเติ่ง มาตกแตกแหกเหี้ยนเพี้ยนเปิดเปิง จิตกระเจิงเหลิงกล้าบ้าตัวมาร ..สวมบทบาทมาดหมายว่าคล้ายนัก เที่ยวอวดศักดิ์ส่ายโอ่โม้โวหาร เป็นนักเลงเละระอันตพาล ด้วยคำพล่ามพ่นเพิ้อละเมอไกล ..กู่ไม่กลับจับมาก็บ้าบอ เพียงดูต่อตามแต่จะแถไหน ก็จำอวดออกโรงจรรโลงใจ จะกล่าวใยได้ฮาพาครื้นเครง..
6 พฤศจิกายน 2548 20:05 น. - comment id 533651
มาฮา
18 เมษายน 2549 00:45 น. - comment id 572200