เมื่อความรัก ถูกความทุกข์ เข้ารุกไล่ ต้อนหัวใจ ให้จนมุม จนคลุ้มคลั่ง บีบขยี้ บี้บด หมดกำลัง จนความหวัง ความฝัน ต้องสั่นคลอน ความกลัดกลุ้ม คลุมครอบ ใจบอบช้ำ ความทรงจำ เลวร้าย เป็นพรายหลอน ตกหลุมพราง กลางใจ ใยนิวรณ์ กรรมยอกย้อน ใจย่อยยับ ใกล้อับปาง ความกลัดกลุ้ม กุมเกาะ จนเพาะเชื้อ เกิดความเบื่อ หน่ายใจ ไร้สรรสร้าง เป็นเชื้อร้าย กระจายซ่าน พล่านสรรพางค์ ผ่านเงาร่าง ความหลง คอยบงการ ...สงบนิ่ง สิ่งทั้งมวล ไม่หวนคิด มิปล่อยจิต ลอยล่อง ท่องสถาน สติเหนี่ยว เกี่ยวรัด คอยคัดคาน ดับฟุ้งซ่าน ด้วยธรรมมะ พระพุทธองค์...
9 มีนาคม 2548 19:47 น. - comment id 436660
...บางส่วนโพสไว้ในบทกลอนของคุณคนเมืองลิง เขียนไปตามอารมณ์ เครียด กลุ้ม เบื่อ....ขณะนั้นครับ..อิ อิ .. พอรู้สึกดีขึ้น เลยมาแต่งต่อครับ มีแต่ทฤษฎี ไม่ค่อยได้ปฏิบัติ ก็เป็นแบบนี้แหละ...
9 มีนาคม 2548 20:12 น. - comment id 436678
ทฤษฎี มีไว้เพื่อปฏิบัติ ห่างทิ้งทฤษฏีไป การปฏิบัติก็เป็นแค่เพียง.... ความรู้ที่ไร้การขบคิด ...ชีวิตเราไม่มีทฤษฎี แต่เมื่อไหร่ที่รู้จักปฏิบัติ ทฤษฎีต่างๆจะเข้ามาอย่างรวดเร็ว....... *โฮ๊ะๆๆๆ มั่ว
9 มีนาคม 2548 22:17 น. - comment id 436742
เมื่อความรัก ถูกความทุกข์ เข้ารุกไล่ เหมือนเปลวไฟ ลุกลาม ตามเผาผลาญ ยากจะดับ ไฟ-ทุกข์ ที่รุกราน ทรมาน ร้อนเหลือ เพราะเชื้อไฟ ใช้ธรรมะ ระงับ เพื่อดับเชื้อ พุทธจุนเจือ ธรรมปลง สงฆ์ขานไข ช่วยดับร้อน ผ่อนเย็น บำเพ็ญใจ ที่เผาไหม้ กลับมอด ปลอดเชื้อฟืน..
9 มีนาคม 2548 23:40 น. - comment id 436808
ความเจ็บปวด ทำให้ ใจประหวั่น นึกฉับพลันความสิ้นสูญหมดทุกสิ่ง ทั้งที่จริงแล้วใจในความจริง ยังคงมีทุกสิ่งหากเราคิด *-*แต่งได้ดีมากๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ ชื่นชมในผลงานนะค่ะ*-*
10 มีนาคม 2548 00:59 น. - comment id 436835
จบได้ดีจริงๆ ครับ เห็นชื่อเรื่องตอนแรกนึกว่าจะมีเรื่องสะใจอะไรหรือเปล่า เลยรีบเข้ามาดูครับ ;)
10 มีนาคม 2548 09:52 น. - comment id 436888
สวัสดีครับ...คุณ น.นิรัตศัย ที่คุณพูดมาถูกต้องครับ เอ..แบบทฤษฎีของความรักหรือเปล่า อิอิ ต้องปฏิบัติก่อน แล้วทฤษฎี จะหลั่งไหลมาเป็นห่าฝน แหม..จดจำแทบไม่ทันเลยครับ .......................................................................
10 มีนาคม 2548 10:10 น. - comment id 436892
สวัสดีครับ...คุณคนเมืองลิง อิอิ..ปีศาจสุรา มาเป็น เช่นชีขาว พูดเรื่องราว ธรรมมะ สะใจโก๋ คนเมืองลิง สอนลึกซึ้ง พึ่งพุทโธ ให้หมดโง่ ดับมอด ปลอดเชื้อฟืน .................................................................... สวัสดีครับ...คุณผู้หญิงไร้เงา อิอิ..ไม่เห็นจะกะล่อนตรงไหนเลย น่ารักออก ตามที่คุณบอก ตามความคิดผม คิดว่าไม่มีอะไรเลยนะ ..........ยิ่งคิด ยิ่งไม่มี ยิ่งอยาก ยิ่งไม่ได้............
10 มีนาคม 2548 10:14 น. - comment id 436893
สวัสดีครับ...คุณ ม.ปณิธาน ยินดีที่ได้รู้จักครับ จบด้วยภาคปฏิบัติดีกว่า อิอิ..ห้วนๆ หน่อยครับ มือใหม่น่ะ
10 มีนาคม 2548 11:37 น. - comment id 436935
สาธุ....................
10 มีนาคม 2548 14:13 น. - comment id 437010
สวัสดีครับ...คุณ ขอโทษครับ...ผมเมา อิอิ..พักเหล้า เข้าวัด ครับ....แต่เปรี้ยวปากอยู่เหมือนกันครับ
15 มีนาคม 2548 12:11 น. - comment id 439323
ดับไฟที่ลุกไหม้นั้นได้แน่ แต่ที่แย่ดับไม่ไหวคือใจเรา ได้แต่หลงพะวงคิดถึงแต่เขา จะดับเท่าไรไม่บรรเทาได้สักที มาช้ามาก......แต่ก็มา......เพราะว่าเธอคือเพื่อนของเราไงค่ะ dark side of mind ไม่เคยเห็นกลอนของ dark side of mind เลยสักครั้งเลยขอเข้ามาดูทางประวัตินะจ๊ะ...... ขอโทษนะที่มาทักทายช้า......ไม่ว่ากันนะค่ะ.
18 มีนาคม 2548 18:26 น. - comment id 440999
สวัสดีครับ...คุณแก้วนีดา มาเยี่ยมกันด้วยใจ จะว่าได้อย่างไรครับ คุณแก้วดาคงไม่ต่างจากผมเท่าไหร่ครับ แต่ผมน่ะ ..ไม่พยายามเติมเชื้อลงไปเท่านั้นเองครับ ปรารถนาดีนะครับ..