ก้อนหินหากวางอยู่ไม่รู้เคลื่อน ผ่านวันเดือน ปีไป ตะไคร่จับ ยิ่งเนิ่นนานผ่านไปตะไคร่ทับ มากมายนับหุ้มหินหมด ไม่งดงาม ก้อนหินหากกลิ้งไปในน้ำเชี่ยว ตะไคร่เขียวไม่จับทับล้นหลาม บางก้อนดูกลมขาวเป็นวาววาม มองเห็นตามลำห้วยสวยจับใจ เปรียบสมอง สองมือ นั้นคือหิน ตราบชีวินยังอยู่รู้เคลื่อนไหว เราเป็นเจ้าของมันทุกวันไป ต้องหมั่นใช้สมองและสองมือ ต้องหมั่นคิดหมั่นเขียนพากเพียรยิ่ง ไม่ทอดทิ้งมานะขยันถือ กอปรกิจยากอุปสรรคมาดักฮือ ล่าถอยคือพ่ายแพ้ให้แก่มัน พบปัญหาหลายแง่ย่อมแก้ได้ หากมีใจมานะสู้ขยัน ถ้าปล่อยเลยตามเลยเฉยเฉยกัน เหมือนหินครันไม่เคลื่อนไหว ตะไคร่มี หินกลิ้งย่อมจะไร้ตะไคร่จับ หมั่นเคลื่อนขับ สมอง สองมือนี่ จะปราดเปรื่องเรืองวิทย์ รู้วิธี อยู่โลกนี้อย่างสบายไม่อายคน.
11 ธันวาคม 2544 01:07 น. - comment id 24254
เปรียบเทียบได้ดีจังค่ะ มุมมองไม้เก็ด น่าทึ่งจังค่ะ
11 ธันวาคม 2544 02:03 น. - comment id 24268
อืมมม.... ขอชมว่าเปรียบเทียบได้ยอดเยี่ยมเลย....
11 ธันวาคม 2544 09:19 น. - comment id 24285
ต้องพยายามเป็นหินกลิ้งเนอะๆ เปรียบเทียบได้ดีจังเลยนะคะ
11 ธันวาคม 2544 18:42 น. - comment id 24400
เป็นการเปรียบเทียบที่ยอดเยี่ยมจ้ะ สรุปว่า ควรใช้สมองบ่อยๆ จะได้ไม่สมองเสี่อม เปรียบกับเห็นที่กลิ้ง แล้วเห็นภาพได้ชัดเจนจริงๆ
11 ธันวาคม 2544 19:46 น. - comment id 24445
เข้าใจแล้วครับต่อไปนี้คงจะใช้บ่อยขึ้น