โคลงสี่สุภาพ (๑) พุทธคุณไตรรัตน์ล้ำ..............รวีอรุณ พุทธุปบาทกาลบุญ............................เบิกฟ้า พุทธศาสนิกละมุน.............................พุทธชาด สยามนอ พุทธบุตรโชติชวาลหล้า......................สว่างเพี้ยงพันแสงฯ (๒) เพชรพิกุลเกล็ดแก้วร่วง.........พะไลทราย พันพร่างธรรมทองพราย.....................พิจิตรฟ้า กลีบหล่นร่วงโรยวาย..........................วัฏจักร เบิกรุ่งบุญระบายหล้า.........................โบสถ์เบื้องระเบียงวิหารฯ กาพย์ยานี ๑๑ อ่อนหวานแลอ่อนไหว บานละไมในริ้วลม ดอกไม้ไว้แย้มชม กลิ่นชื่นสมมิสิ้นไป ขจรร่อนขจาย ร่วงลานทรายพรายบ่วงใบ พรมเนินเพิ่งกวาดใหม่ หอมลมไล้ใกล้โบสถ์พุทธ พิกุลบุญราศี แทนความดีพลีพิสุทธิ์ ร่วงลงลานวิมุตติ แทนสายหยุดหยุดสายลา ดอกไม้สมุนไพร โบราณไขแต่ใดมา ปลูกไว้ในวัดวา เกสรห้าเครื่องยาไทย เหลืองนวลชวนให้หอม ภู่ผึ้งตอมห่อนกรายไหน เขียวแซมแย้มเรือนใบ ดอกดวงใจก็แย้มตาม มาลัยดอกพิกุล ร้อยพวงบุญกรุ่นทุกยาม คนเฒ่าเล่าลือนาม ร้อยแสนงามพุทธบูชา ดอกไม้คล้ายรูปจักร ร่วงลงตักรักบ่ลา ดอกตูมเต่งแตกตา มินานช้าจักหล่นพราย ผลิบานตระการต้น ดอกอำพนบ่วางวาย เหี่ยวแห้งแล้งเรือนกาย หอมบ่หน่ายสนิทนาน หอมธรรมแสนล้ำเลิศ หอมประเสริฐเทิดผสาน หอมกลิ่นอภิญญาณ หอมนิพพานเคล้าพิกุล พรรษาล่วงลาเลย ดอกไม้เอยยังเกื้อหนุน คล้องร้อยสร้อยบ่วงบุญ คล้องค่าคุณไว้ด้วยกัน ร่มไม้ในลานวัด สงบสงัดมิแปรผัน ระหงในวงศ์วรรณ พิกุลพรรณพุทธผกา ----------------------------- เมื่อลมฝนล่องไล้สวนรุกขชาติในวัดป่า ดอกพิกุลต่างก็โปรยดอกลงแต่งแต้มลานทรายกวาดใหม่ กลิ่มหอมดอกพิกุลนั้น หอมร่ำ อบอวลไปทั่วอาณาบริเวณ แลเสียงขลุ่ยแว่วหวานดังมาในสายลมเมื่ออรุณเบิกฟ้า ในมโนคติเนิ่นนานของข้าพเจ้านั้น ดอกพิกุลคือดอกไม้แห่งพุทธศาสนา คนเฒ่าคนแก่โบราณมักใช้เวลาบั้นปลายชีวิตอยู่กับวัด กวาดลานทรายและร้อยดอกพิกุลเพื่อเป็นมาลัยพุทธบูชา ภาพหญิงชรานุ่งซิ่นนั่งเก็บดอกพิกุลในวัดป่าแห่งหนึ่ง ยังคงงดงามตราตรึงอยู่ในความรู้สึก ดอกไม้หอมที่แพทย์แผนโบราณไทยเราในสารบบ เป็นเกสรทั้งห้า ได้แก่ ดอกพิกุล ดอกมะลิ ดอกสารภี ดอกบุนนาค และ ดอกบัวหลวง ห้วงพรรษาจะเวียนมาแล้ว ลองหาเวลาเดินไปตามวัดป่าต่างๆ โชคดีเจอดอกพิกุล แล้วเราจะพบว่า ดอกพิกุลนั้น กำลังบานพรายแต่งต้นงดงามอยู่ท่ามกลางวงล้อม แห่งพุทธธรรมทั้งปวง -------------------------------------------------------- ภาพดอกพิกุลบนใบสักทอง ถ่ายโดย ม.ล.ปรมาภรณ์ เทวกุล สถานที่ วัดภูมินทร์ จังหวัดน่าน
5 พฤศจิกายน 2547 07:30 น. - comment id 364169
..ไพเราะ.. และงดงาม.. ทุกครั้ง .. ที่ได้อ่าน ..งาน ของพี่ชาย.. ..กลิ่นหอม .. มากมาย.. โชยมา ด้วยดิคะ.. .. เรน.. อรุณสวัสดิ์ .. พี่ชาย..นะคะ..
5 พฤศจิกายน 2547 08:12 น. - comment id 364194
งามเหลือ เกิน อ่านไปได้กลิ่นพิกุลแก้ว มาแต่ไกล หอมชื่นใจ แท้ สดชื่นหัวใจ นินึ่ง
5 พฤศจิกายน 2547 08:16 น. - comment id 364197
หอมเอยหอมพิกุล กลิ่นเจ้ากรุ่นละมุนใจ ยามยากเมื่อจากไกล พออาศัยกลิ่นประเทือง หวัดดีครับ...
5 พฤศจิกายน 2547 09:08 น. - comment id 364226
หายไปนานเลยนะ.............
5 พฤศจิกายน 2547 11:42 น. - comment id 364356
^_^มาชื่นชมผลงานค่ะ
5 พฤศจิกายน 2547 12:25 น. - comment id 364402
งดงามมาก เขียนได้ดีจริง ๆ ดอกพิกุลหอมชื่นใจชอบมาตั้งแต่เด็ก เม็ดพิกุล ยิ่งชอบ เอามากัดกัน ใช้เขี้ยวดันใครหักก่อน คนนั้นแพ้ ปัจจุบัน พิกุลมีปลูกทั่วไปไม่เน้นที่วัด เพราะ วัดไม่ค่อยจะมีต้นไม้ร่มรื่นเหมือนเมื่อก่อน พระกลับไปเน้นสิ่งปลูกสร้าง บางวัดมีโยมไปช่วยปลูกสิ่งก่อสร้างซะเต็มวัดเลย เคยไปเล่นลูกกลม ๆ ที่สนามกอล์ฟนอร์ทปาร์ค อยู่กลางกรุงเทพฯไปทางดอนเมือง รอบ ๆ สนามระยะทางหลายกิโลเมตรมีทางเดินให้ประชาชนจ๊อคกิ้ง เขาปลูก พิกุล ไว้มากมายรายทาง
5 พฤศจิกายน 2547 12:54 น. - comment id 364414
มาอ่านแล้วค่ะ ลำน้ำน่าน ยังไม่มีเวลาดูรายละเอียดคำและความนะคะ ฝากไว้ก่อน
5 พฤศจิกายน 2547 12:57 น. - comment id 364417
ชอบดอกพิกุลเหมือนกันค่ะ ต้นใหญ่ แต่ดอกกลับเล็กๆ น่ารัก งานคุณลำน้ำน่าน สวยงามทุกงานเลยนะคะ ชื่นชอบจริงๆ ค่ะ ................................................................................................... ลี่...ผู้มาเยือน .
5 พฤศจิกายน 2547 13:55 น. - comment id 364464
อ่านแล้วทำให้คิดถึงยาย..ที่ลาลับโลกนี้ไปแล้ว ท่านชอบไปวัดมาก.. วัดที่ท่านไปมีต้นพิกุลอยู่หลายต้น ท่านชอบเก็บดอกพิกุลมาฝากอยู่เรื่อย ๆ เพราะเห็นว่าเราชอบ....คิดถึงยายจัง .....................................................................
5 พฤศจิกายน 2547 16:39 น. - comment id 364556
งดงามมากค่ะ..บุรุษแห่งสายน้ำ
5 พฤศจิกายน 2547 20:15 น. - comment id 364648
ขออนุญาติพี่นิว เก็บไว้ศึกษาการเขียนนะค่ะ อ้อมอยากแต่งกาพย์ยานี ...........ขอบคุณค่ะ..
5 พฤศจิกายน 2547 20:30 น. - comment id 364668
งดงามสู่ธรรมชาติแห่งความสงบ.....เงียบ.....ดับฉับพลัน.....แม้นท่ามกลางดงดอกไม้กลิ่นรื่นระรวย ชวนให้พิสมัยไหลหลง ไร้ซึ่งการรับรู้สภาวะภายนอกโดยสิ้นเชิง.....มืดมิดสนิทดับ.....สงบนิ่ง ดิ่งสู่ ความสงบ..... มณี ปัทมะ ตารา
7 พฤศจิกายน 2547 19:50 น. - comment id 365660
เขียนไปคนละแนวคงไม่ว่ากันนะครับ พิกุลกลัวจะร่วง พุ่มพวงไม่เผยวจี ปากปิดมิดไม่มี ไยแกล้งพี่เฉยชาไป
8 พฤศจิกายน 2547 04:09 น. - comment id 365856
สวยเสมอ นะ
8 พฤศจิกายน 2547 10:02 น. - comment id 365904
แจม ขอบคุณครับ ไม่ค่อยได้เจอกันเลยนะมิตรเก่ามิตรแก่ พี่ชัยชนะ ไม่ว่าอยู่แล้วครับ แนวไหนก็ได้ กลอนที่เขียนมานี้ แนวๆ ว่า ปิดปากพูดไม่ได้เพราะพูดมาเมื่อไหร่ดอกพิกุลทองจะร่วงออกจากปากหรือป่าวครับ ขอบคุณที่แวะมาครับ พี่มณี ผมชอบเรียกชื่อนี้มากจริงๆ ครับ ผมว่าธรรมชาติเสนอธรรมนั้น ต้องผู้มีจิตรับธรรมจริงๆ ครับ ขอบคุณมากครับ น้องอ้อมครับ เจอแล้วตัวจริง อยู่นี่เอง ไม่ได้ทักทายกันนานเลยนะครับ กาพย์ยานี เขียนง่ายครับ แต่พี่เขียนได้ไม่ดีหรอกครับ อิอิ อย่าเอาเป็นแบบอย่างเลยครับ พี่ดอกแก้ว ขอบคุณมากครับที่แวะมาให้กำลังใจกันเสมอ magic คุณยายผมก็ชอบดอกพิกุลเหมือนกันนะครับ แต่ว่า ท่านก็ได้ลาโลกนี้ไปแล้วด้วยเช่นกัน ขอบคุณมากครับ ลี่ ชวนมาเยือน ขอบคุณครับ ผมดีใจมากที่บทกลอนมีส่วนก่อเกิดความสุขให้ครับ ขอบคุณมากครับ ทิกิ ขอบคุณมากครับที่แวะเข้ามาให้กำลังใจกัน พี่ฤกษ์ ขอบคุณมากครับพี่ พี่ให้กำลังใจผมทุกงานแบบนี้ผมก็เหลิงแย่เลยครับ ดอกพิกุลไม่ว่ายุคไหนสมัยไหน กลิ่นหอมก็ยังเหมือนเดิมครับ ขอบคุณมากครับพี่ คนเมืองลิง ผลิใบ ลุงผีฯ และดาหราฯ และน้องเรน ขอบคุณมากครับที่แวะเข้ามาติดตามอ่านให้กำลังใจเสมอมา ลุงผีหายไปนานเลยนะครับ ผมไม่เห็นเขียนงานมานานนักแล้วครับ ยังคิดถึงอยูเสมอนะครับ
2 ธันวาคม 2547 14:03 น. - comment id 382456
งามครับงามจริงๆ ที่บ้านผมปลูกไว้หน้าบ้านเลยเพราะชอบมาตั้งแต่เด็ก โดยนำก้านหญ้ามาเสียบร้อยเป็นมาลัย แล้วเก็บมาโรยใต้หมอน กลางคืนส่งกลิ่นหอมชื่นใจมากครับ แก้วประเสริฐ.