ปณิธานกวี
เชษฐภัทร วิสัยจร
เมื่อฟากฟ้าสีครามสิ้นความหมาย
คงสิ้นทรายหลากสีที่พระสร้าง
สิ้นผีเสื้อสดใสใต้หมอกบาง
สิ้นระฆังน้ำค้างกลางสายลม
เสียง สัตว์คน ก็เข่นฆ่าบ้าอำนาจ
ธรรมชาติกล้ำกลืนอย่างขื่นขม
แบกรับความทรามโศกโลกโสมม
เสียงซากเปรตตรอมตรมระงมไพร
ละเลงเพลงเงินตราฆ่าน้องพี่
สิ้นศักดิ์ศรีสรวงเซ่นความเป็นใหญ่
เปลือกวัตถุเป็นกรอบครอบจิตใจ
นิยมใช้บอกค่าราคาคน
คงมิต่างจากสัตว์ดิรัจฉาน
ร่วมวัฏฏะสงสารอันสับสน
มีทั้งโศกทั้งสุขทุกข์ปะปน
มีรักโลภหลงตนปนอัตตา
แต่ฉันยังรักโลกนี้ที่พระสร้าง
ยังไม่อยาก ปล่อยวาง ทางเบื้องหน้า
ฉันจะขอต่อสู้กู้จรรยา
ด้วยแสงทองส่องท้าศรัทธาทาน
จะอดทนคนเกลียดเหยียดหยามหมิ่น
หมายดับสิ้นคนบาปความหยาบกร้าน
จะยอมเสียสละพระนิรพาน
เพื่อถ่ายทอดจิตวิญญาณผ่านถ้อยคำ
รังสรรค์เสกบทกวีคีตศิลป์
พจน์หลั่งรินร้อยอารมณ์อันบ่มร่ำ
วนเวียนว่ายเกาะแก่งกฎแห่งกรรม
จนสามโลกจดจำคำกวี