เปิดกวีบทที่ประทับใจ ท่านเขียนไว้งดงามตามเหตุผล ใช้ทวนย้ำพร่ำบอกดวงกมล ว่าสิ่งที่เป็นตนจริงหรือไร?... ...เป็นรามลักษณ์ยักษ์ลิงแน่จริงหรือ? แท้ก็คือหัวโขนเขาโยนใส่ พอจบบทหมดเรื่องถอดเครื่องไป เดิมเช่นไรก็เป็นเหมือนเช่นเดิม... ใครคิดอวดศักดาว่ายิ่งใหญ่ ประพฤติในความกร่างอย่างฮึกเหิม พบผู้ด้อยยิ่งกระหน่ำเข้าซ้ำเติม เบ่งตัวใหญ่กว่าเดิมไม่เกรงใคร เมื่อถึงวันทัณฑโทษโลดรุกฆาต เรือกระดาษสิ้นศักดิ์เขาผลักไส จมกระแสเชี่ยวกลางชลาลัย เหลือเพียงร่างทิ้งไว้ไร้วิญญาณ มาอย่างไรกลับไปอย่างมือเปล่า ไร้เดือนดาวศักดิ์ยศหมดเรียกขาน สิ้นทรัพย์ที่สะสมมาเนิ่นนาน รักและชังสิ้นกาลในทรงจำ แม้นก่อนตายคลายอำนาจวาสนา ไร้ผลบุญนำพาอุปถัมภ์ หมดสิ้นฐานชูคออย่างเคยทำ ต้องชอกช้ำเพราะหัวโขนโดนยึดไป
12 ตุลาคม 2547 18:53 น. - comment id 349647
เวลามาหาพี่ดอกแก้วทีไร น้องกานต์ถอดหัวโขนทุกทีนะคะพี่ดอกแก้ว แต่ว่าไม่เศร้านะคะถ้าจะโดนยึดหัวโขนคืน
12 ตุลาคม 2547 19:15 น. - comment id 349661
เข้ามาชื่นชมเช่นเคยค่ะพี่ดอกแก้ว พยายามจะแต่งกลอนต่อจากกลอนพี่ทีไร ก็ไม่ได้ทู๊ก..ที เลยได้แต่ชื่นชมอย่างเดียวนะจ๊ะ :)
12 ตุลาคม 2547 19:46 น. - comment id 349677
หัวโขน .. ที่ต้องตีหน้ายักษ์.. เรน.. ไม่ชอบเลยคะ.. เคยเห็น .. คนใกล้ชิด .. ที่ต้อง..วางหน้า.. ยิ้มก็ ..ไม่ได้.. หน้าต้องดุ .. ตลอดเวลา.. คิ้วต้องชน .. เพื่อให้.. เด็กๆกลัว.. เรนว่า .. ไม่ดีเลยคะ.. เรนชอบ.. ผู้ใหญ่ .. ใจดี .. ..อยากให้ ..ถอดหัวโขน .. ออกจัง.. ..เรน ..จะได้ ..อุ่นใจ .. พร้อมที่จะเล่าๆๆๆๆ.. อย่างที่ใคร คนนั้น อยากจะรู้ .. บางที.. ความรู้สึก.. ของเรน .. ก็อยากจะ.. บอกเค้าว่า.. ..ถอดหัวโขน .. วางเก็บ..เถอะนะ.. แล้วเรนจะเล่า ..ความในใจ..ไม่หนี. ขอแค่.. ถอดใจ..กับหัวโขน..ที่มี.. เป็นเพื่อนซี้ .. หน้าใส .. ที่ไม่ดุเลย.. ..เรน ..ขออนุญาต.. นะคะ.. เรนชอบที่..พี่ดอกแก้วเขียนนะคะ.. ..สื่อได้ดี .. มีความหมายมากเลยคะ..
12 ตุลาคม 2547 19:48 น. - comment id 349678
โห้ยย ..ชื่อเรน ..หายไหนร่า..
12 ตุลาคม 2547 19:53 น. - comment id 349679
เรน..เหมือนพี่วนัสนันท์..เลยคะ.. ..แบบ ต่ออยู่ตั้งชั่วโมง..นะคะ.. เรน ก็เล้ย..เขียนเอา..นะดิคะ..
12 ตุลาคม 2547 20:39 น. - comment id 349728
อันทำการ..สิ่งใด..ด้วยใจรัก.. จะอวดศักดิ์..อวดวิชา..ก็หาไม่.. คิดโลดแล่น..เชี่ยวชาญ..การใดๆ.. ถ่ายทอดไว้..เป็นกลอนกาพย์..ตราบชั่วกาล.. หากแม้นท่าน..เคืองใจ..ในไฟกล้า.. คงเจิดจ้า..เพียงชั่วคราว..ลงร้าวฉาน.. หากท่านรอ..ดูไป..มิได้นาน.. ตัวข้านั้น..คงมอดไป..วายชีวา.. ด้วยความรัก..ลุ่มหลง..ในกลอนกาพย์.. เป็นดังภาพ..ศิลปะ..มากคุณค่า.. แม้นับวัน..เสื่อมถอย..ด้อยราคา.. แต่ตัวข้า..ยังรักภาพ..ทาบวิญาณ.. ข้าผู้น้อย..ยังคงร้อย..เป็นโคลงกลอน.. แม้รู้ตัว..ว่ายังอ่อน..จะห้าวหาญ.. ฝีกหัดไป..ค่อยๆได้..วิชาชาญ.. อีกไม่นาน..คงตามท่าน..ทันสมใจ..
12 ตุลาคม 2547 20:51 น. - comment id 349751
ธรรมะสวัสดีค่ะ คุณพี่ดอกแก้ว ดอกบัวสวยมากค่ะคุณพี่ ขอธรรมะคุ้มครองคุณพี่ดอกแก้วค่ะ
12 ตุลาคม 2547 20:52 น. - comment id 349755
มาชื่นชมอีกแล้วค่ะ เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยค่ะ ทุก ๆ อย่าง ก็เป็นเพียงสิ่งสมมุติ เมื่อยกเลิก ก็ไม่มีอะไรเหลือเลย
12 ตุลาคม 2547 21:08 น. - comment id 349781
งานดี..จังเลย... เห็นด้วยทุกประการ...ทุกวันนี้...มีแต่คนสวมหัวโขน.. เข้าหากัน.... ไม่รู้จะสวมทำไม..ให้มันหนัก... เป็นตัวเป็นตน..ของตนเอง..ก็ดีกันอยู่แล้ว... ภูฯ..แวะมาชื่นชม..จ๊ะพี่...งานงาม...ชอบ
12 ตุลาคม 2547 21:19 น. - comment id 349797
ถอดหรือใส่ ไม่อาจรู้ ด้วยหัวจิต เก็บมิดชิด หัวใจ ภายในถ้ำ ลึกยากมอง ส่องรู้ การกระทำ ด้วยลึกล้ำ ซ่อนเร้น ยากเห็นตน
12 ตุลาคม 2547 22:27 น. - comment id 349869
@...เพียงพลิ้ว... ถอดหัวโขนแล้ว..ลืมถอดเขี้ยวเล็บด้วยหรือเปล่าคะ...เด็กขี้โกง...เพราะลวดลายการต่อกลอนไม่เบาเลย... เรื่องของหัวโขนนี้..เป็นบทกลอนที่พี่ดอกแก้วชอบมาก...สอนใจได้ดี ...และก็จำได้แม่นยำเพราะเป็นบทกลอนที่ผู้ใหญ่ท่านหนึ่งอดีตข้าราชการกรมที่ดิน ... ท่านเขียนด้วยลายมือตัวเองแล้วสอดไว้ใต้กระจกบนโต๊ะทำงานที่สำนักงานของพี่ดอกแก้ว ... ......เป็นรามลักษณ์ยักษ์ลิงแน่จริงหรือ? แท้ก็คือหัวโขนเขาโยนใส่ พอจบบทหมดเรื่องถอดเครื่องไป เดิมเช่นไรก็เป็นเหมือนเช่นเดิม... บทนี้แหละค่ะน้องกานต์
12 ตุลาคม 2547 22:32 น. - comment id 349877
@...วนัสนันท์... ตื่นแล้วหรือคะเจ้าหญิงนิทรา.. แต่งต่อไม่ได้ก็ไม่เป็นไรค่ะ แค่เข้ามาอ่านและมาทักทายก็ดีใจมากแล้วละน้องต่าย..
12 ตุลาคม 2547 22:57 น. - comment id 349899
@...เรนน้อย... หัวโขน...ถ้ารู้ว่าเรากำลังสวมอยู่ ก็ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวเลยจ้ะ เพราะเราย่อมทราบว่าเราต้องถอดออก และรู้ว่าตัวเราเป็นใคร แต่สำหรับกับบางคนที่สวมหัวโขนอยู่แต่ไม่ยอมรับรู้ว่านั่นเป็นหัวโขน...นั่นละจึงน่ากลัว เพราะนอกจากจะสำคัญตนผิดแล้ว ..เมื่อถึงคราวที่จะต้องถอดก็จะทำใจยอมรับไม่ได้... ผู้ใหญ่บางคนที่ชอบสวมหัวโขนหน้าดุมีเขี้ยวกับเด็กบางคน ..ก็อาจเป็นเพราะรู้ว่าต้องทำหน้าที่ดุเด็กหรือเปล่าจ๊ะ...หรือเด็กชอบทำเรื่องให้ต้องดุหรือเปล่าเอ่ย..ก็เลยถอดหน้ากากเขี้ยวยักษ์ออกไม่ได้สักที ... ..แต่ถ้าเป็นเพราะเคยชินกับบทบาทนั้น จนสวมติดไว้เหมือนทำศัลยกรรม ก็น่าเศร้านะ... หน้าที่ควรจะสวยงามด้วยธรรมชาติก็ต้องถูกปกปิดไว้ด้วยเครื่องกำบังแห่งความถือตัว... ..สำหรับคนที่อยู่ใกล้น้องเรนคนนั้น...พี่ดอกแก้วคงได้แต่ส่งมนต์ใจไปคลายความยึดติดในหัวโขนนั้นให้นะจ๊ะ...เพื่อจะให้เขากลับมายิ้ม มาคุย มาถาม มาทักน้องเรนด้วยใบหน้าจริงที่งดงาม..แล้วมาฟังเด็กน้อยส่งเสียงแจ้วๆจำนรรจาให้กลับไปนอนละเมอเลย..ดีมั๊ยจ๊ะ.. ดีใจที่แวะมาบอกเล่ากล่าวความในใจไว้นะจ๊ะน้องเรนคนดี....เข้าช่วงปลายฝนต้นหนาวอย่างนี้ระวังเป็นหวัดนะ
12 ตุลาคม 2547 23:01 น. - comment id 349905
คนที่ไม่ออกนามอ่ะ เค้าเข้าจัยไรผิดป่าวฮะ? อ่านแล้วมัน..ขัดๆ??
12 ตุลาคม 2547 23:04 น. - comment id 349910
@...ผู้น้อย ไม่ออกนาม... หากมาดมั่นสิ่งใดตั้งใจแล้ว ดุจเกราะแก้วกันภัยให้เข้มแข็ง เป้าหมายคือตัวเร่งให้มีแรง พร้อมเปลี่ยนแปลงปรับไปให้ได้ดี เมื่อรักในกลอนกาพย์ภาพศรีศิลป์ และตั้งจินต์ฝึกไปไม่หน่ายหนี ความสำเร็จงดงามจักเกิดมี ขอให้สมฤดีได้เร็วกาล สวัสดีค่ะ... ขอบคุณมากนะคะ ไม่ออกนามก็ไม่เป็นไร เพียงทราบว่าเข้ามาอ่านก็ดีใจแล้วค่ะ ขอให้ความปรารถนานั้นสำเร็จได้โดยเร็วนะคะ
12 ตุลาคม 2547 23:08 น. - comment id 349915
ชีวิตโลดแล่นบนเวที มากมีสีแสงแรงหฤหรรษ์ ลงจากเวทีถอดหัววางเสียพลัน อย่านำติดไปบ้านนั้น...อันตราย นักการเมือง นักปกครอง นักฯลฯ ถึงบ้านแล้วเป็นแม่พ่อลูกกันเถอะนะคะ สงสารพ่อแม่พี่น้องกันบ้างเหอะ กลอนดีจังค่ะ คุณดอกแก้ว
12 ตุลาคม 2547 23:09 น. - comment id 349918
@...NonSense... สวัสดีค่ะ ...NonSense วันนี้พี่ดอกแก้วพอจะมีเวลาว่างมาก ก็เลยมานั่งตอบน้ำใจของน้องๆอยู่ตรงนี้ ไม่คาดหมายว่า NonSense จะแวะมา ดีใจมากเลยค่ะที่ได้พบกัน ..บทกวีมีหลายมุมให้มอง ตรงกันบ้างขัดกันบ้างก็ไม่เป็นไร...ขอให้ใจของแต่ละคนมีความหวังความฝันที่จะสร้างสิ่งที่ดี สร้างงานไพเราะ ก็จะเป็นประโยชน์แก่ตนเองและผุ้อื่นอย่างมากมายค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่แวะมาอ่าน
12 ตุลาคม 2547 23:12 น. - comment id 349920
@...น้องปุ๋ย มณีปัทมะ ตารา... มาพร้อมกับความงดงามในน้ำใจ ขอบคุณมากค่ะน้องปุ๋ย...
12 ตุลาคม 2547 23:14 น. - comment id 349921
กลอนพี่แก้วอ่ะ สุดยอดเลย หัวโขนๆๆๆ อิอิ
12 ตุลาคม 2547 23:18 น. - comment id 349925
@...ขลุ่ยหลิบ... โลกียธรรม...คือ องค์ประกอบของหัวโขน ตราบใดที่เรายังอยู่ร่วมกับผู้อื่น..ก็อดไม่ได้ที่จะมีหัวโขนส่วนตัวกันไว้ใช้ ...แต่ต่างกันตรงที่ใครจะถอดได้ง่ายและเร็วกว่ากัน...และผู้ที่ทิ้งหัวโขนได้ก่อนผู้นั้นก็คือผู้ชนะค่ะ คือชนะใจตนเองออกจากความยึดติดในสิ่งจอมปลอม... ขอบคุณในความคิดเห็นดีๆนะคะขลุ่ยหลิบ
12 ตุลาคม 2547 23:23 น. - comment id 349929
@...ภูตะวัน ตะวันรอน... คำว่า สังคม..ทำให้หัวโขนเป็นเครื่องประดับที่นิยมมาก ในแต่ละสังคมก็จะมีหัวโขนหลายชนิดให้เลือกใช้...ขึ้นอยู่กับเทรนค่ะว่า ฤดูกาลนี้จะโหวตให้ค่านิยมใดขึ้นอันดับยอดนิยม แต่ที่ไม่เคยตกจากความนิยมเลยก็คือ ทรัพย์สิน ฐานะ ยศ และตำแหน่ง.. คนที่สวมหัวโขนและอยู่บนหอคอยงาช้างเหล่านี้จึงมีศีรษะและลำคอที่แข็งแรงเป็นพิเศษที่จะรองรับหัวโขนไว้ได้นานๆ ขอบคุณมากนะคะน้องภูที่แวะมาช่วยกันบ่นคนชอบสวมหัวโขนกัน
12 ตุลาคม 2547 23:27 น. - comment id 349933
@...ชัยชนะ... ชีวิตจริงสิ่งครอบไว้ใช่หัวโขน จึงไม่อาจหยิบโยนทิ้งได้ง่าย สิ่งที่ยึดครอบครองผองใจกาย คือลวดลายโลกีย์ที่ลวงตา สวัสดีค่ะชัยชนะ..ไปอ่านกลอนตอบแล้วสนุกดีจัง
12 ตุลาคม 2547 23:31 น. - comment id 349936
@...คุณทิกิ... ปวงเจ้านายวุ่นวายไม่เคยเว้น ทุกชั่วโมงถือเป็นเจ้านายเขา กลับถึงบ้านความถือตัวไม่บรรเทา หัวโขนจึงทำเอาบ้านทลาย เห็นด้วยนะคะคุณทิกิ อย่าสวมหัวโขนกลับเข้าบ้าน..เพราะที่บ้านไม่ใช่เวทีที่จะให้แสดงบทบาทเช่นนั้น ขอบคุณที่แวะมานะคะ
12 ตุลาคม 2547 23:33 น. - comment id 349938
@...คนที่มาบอก หัวโขนๆๆๆ อิอิ .. หมูหวานหรือเปล่าที่มาบอก ..หัวโขนๆๆๆ .. ขอบคุณใครคนนั้นมากนะคะที่มาช่วยร้องหัวโขนๆๆๆๆ
12 ตุลาคม 2547 23:36 น. - comment id 349941
---------(เจอกันหน่อยคับท่านไร้นาม)--------- ท่านใจรัก อย่างไร ใครว่าท่าน? คืนและวัน หมุนเวียน เปลี่ยนสมัย ใครรักชอบ การใด ก้อทำไป สุดแต่ใจ ท่านแล้ว ไม่แคล้วกัน บทกวี มีดี ที่ผู้แต่ง จะจริงใจ หรือเสแสร้ง แล้วแต่ท่าน ไฟว่าร้อน ยังต้องดับ กันทุกวัน ก่อนที่ท่าน จะมอดม้วย ด้วยเปลวไฟ ที่ข้าเขียน อยากจะบอก เอาไว้ว่า ท่านทำมา มันผิด คิดดูใหม่ ก่อนจะต่อ คลอกาพย์กลอน ด้วยฟอนไฟ ต้องเข้าใจ ถ่องแท้ ที่แน่จริง ข้าก็เป็น เช่นผู้น้อย เหมือนดังท่าน แม้ไม่มี วิญญาณครู มาสู่สิงห์ ค่อยค่อยเรียบ เรียงตอน ก่อนอ้างอิง จากใจจริง ถึงท่าน ผู้ไร้นาม ------------------------------------------------------- ต่อยากมากกกกกก -*- (นับถือๆ)
12 ตุลาคม 2547 23:43 น. - comment id 349948
ป๋มยังเปงเด็กใหม่อ่าคับ สำหรับที่นี่ แต่อาจจา..เก่ามาจากที่อื่น ^ ^ รู้สึกว่าที่นี่ น่าอยู่กว่าทุกที่ที่ผ่านมา ป๋มก้อคงจะปักหลักไปอีกนานเลยอ่าขอรับพี่ท่าน ^ ^ กลอนผมแต่อ่ะ มานเรื่อยๆเปื่อยๆ พอได้ระบายฟามนายจายปายวันๆอ่าขอรับ ^ ^(ทนๆเอาหน่อยนะพี่ท่าน) แล้วก้อ..หัวโขนๆๆๆ มะกี้ ป๋มเองขอรับ ลืม Log In หุๆๆ ^ ^
12 ตุลาคม 2547 23:47 น. - comment id 349952
@...NonSense...(อีกครั้งค่ะ) จับตัวได้แล้ว คนที่มาร้องหัวโขนๆๆๆ จะได้ขอบคุณได้ถูกตัวซะที... แหม..ฝีมือต่อกลอนเหลือร้ายจริงๆ อย่างนี้น่าจะส่งไปประกวดประเภทกลอนสดนะคะ ..คิดเดี๋ยวนั้น เขียนเดี๋ยวนั้น ..นับถือๆ อยู่คุย..อยู่เขียน...ให้บ้านกลอนไทยคึกคักไปอีกนานๆนะคะ ...
13 ตุลาคม 2547 01:41 น. - comment id 349993
เพราะมากค่ะพี่ดอกแก้วจ๋าอ่านทีไร่ไม่ผิดหวังค่ะคิกๆๆๆคิดถึงเสมอค่ะ ฝันดีนะคะ
13 ตุลาคม 2547 08:38 น. - comment id 350022
มาอ่านอีกรอบค่ะ ชอบบทเดียวกับพี่ดอกแก้วค่ะ
13 ตุลาคม 2547 09:36 น. - comment id 350057
ถึง >>> พี่ดอกแก้ว+NonSense
13 ตุลาคม 2547 10:31 น. - comment id 350080
ถึง>>>พี่ดอกแก้ว + NonSense
13 ตุลาคม 2547 10:42 น. - comment id 350083
ขออภัย..ในความ..วู่วามจิต.. ทำความผิด..มิได้คิด..ดูหน้าหลัง.. อ่านไม่จบ..ยังเขียนไป..ไม่ระวัง.. ทำเสียพัง..ข้าผู้น้อย..ขออภัย.. พี่ดอกแก้ว..เปรียบเหมือน..เพื่อนชีวิต.. ช่วยผ่อนคลาย..ให้ดวงจิต..พิศมัย.. ก่อนเคยร้อน..รานรอน..ด้วยฟอนไฟ.. ไฟกลับกลาย..เป็นน้ำแข็ง..เย็นชื่นใจ.. ท่าน NonSense..ท่านนี้..ที่ว่าแน่.. ข้ายอมแพ้..เชิงกวี..ที่สอนไว้.. ช่วยให้ข้า..สำนึกผิด..คิดเสียใจ.. ต่อๆไป..จะพินิจ..ก่อนคิดทำ.. ขอนับถือ..เชิงกาพย์ของ..สองท่านนี้.. NonSense ท่าน..เชิงกวี..บ้าระห่ำ.. ข้าได้อ่าน..ท่านเรียงร้อย..ทุกถ้อยคำ.. ดังหนามตำ..ทิ่มทะลุ..สู่หัวใจ.. (โดนใจมากครับ) พี่ดอกแก้ว..ท่านได้สอน..ให้ย้อนคิด.. ดังมีฤทธิ์..มนต์สะกด..ให้หวั่นไหว.. แล้วตอกย้ำ..ถ้อยคำ..กำลังใจ.. จุดประกาย..ไฟเย็น..เป็นโคลงกลอน..
13 ตุลาคม 2547 12:04 น. - comment id 350119
สวัดีครับ............. มาเป็นกำลังใจให้คนที่แสนดี คนเรียงถ้อยร้อยลำเป็นคำกลอน คิดยอกย้อนแตกต่างล้วนสร้างสรรค์ บ้างลำนำคำฝากจากร้อยพัน จุดเดียวกันกวีไทยให้คำนึง แวะมาเป็นกำลังใจให้กันและกัน กำลังใจจากข้างในส่วนลึก ไม่ต้องฝึกต้องหามาให้เห็น จะแดดร้อนตอนสายจนบ่ายเย็น จะคอยเป็นกำลังใจให้ดนดี
13 ตุลาคม 2547 12:18 น. - comment id 350145
เหนือฟ้ายังมีฟ้า...อย่าอวดตน เนาะๆพี่ดอกแก้ว ^o^
13 ตุลาคม 2547 12:19 น. - comment id 350146
เขียนได้ดีมากครับ เมื่อก่อนผมทำงานต้องคอยคำนึงคิดอยู่เสมอ แต่พยายามใช้หลักอนุโลมปฏิโลมเสมอมาจึงสามารถพานาวาผ่านพ้นได้ครับ เป็นคติของผู้ทำงานและไม่ทำงานเป็นอย่างดีครับ หากจะให้ดีต้องมีธรรมประจำใจด้วยครับ แก้วประเสริฐ.
13 ตุลาคม 2547 12:50 น. - comment id 350160
ผู้จริงใจ..เข้าใคร..ไร้หัวโขน มือจะโลด..สมองแล่น..แทนภาษา เขียนด้วยจิต..คิดดี..ที่วิญญา สื่อออกมา..เช่นมิตร..คิดจริงใจ ..................................................
13 ตุลาคม 2547 13:32 น. - comment id 350198
คนใส่หัวโขนคงจะหนักและทรมานมากนะคะ โชคดีที่เราไม่ต้องใส่หัวโขนใส่แค่แว่นอย่างเดียวก็หนักดั้งจะแย่อยู่แล้วค่ะ อิอิ วันนี้อารมณ์ดีค่ะ
13 ตุลาคม 2547 21:03 น. - comment id 350450
@...น้องหวาน เพราะรัก... สาวน้อยนัก(ขยัน)เขียน พี่ดอกแก้วตามอ่านไม่ทันเลยค่ะ อารมณ์ดีใส่หน้าแป๊ะยิ้มมาอย่างนี้คงมีอะไรดีๆอยู่ในใจแน่ๆเลย..คิก คิก ขอบคุณมากนะคะ
13 ตุลาคม 2547 21:10 น. - comment id 350466
@...เพียงพลิ้ว... พี่ดอกแก้วก็ไม่เข้าใจนะคะว่าทำไมจึงใส่เครื่องหมายคำพูดในบอร์ดนี้ไม่ได้... เพราะต้องการจะเน้นที่บทกลอนอันเป็นแรงบันดาลใจน่ะค่ะ...เดี๋ยวใครไม่รู้แล้วจะหาว่าพี่ดอกแก้วสวมรอยนำมาเป็นของตน ...เลยต้องเปลี่ยนมาเน้นที่การใช้สีแทน ขอบคุณที่แวะกลับมาอีกรอบนะคะน้องกานต์ กติการยังเหมือนเดิมสำหรับผู้มาเช้าสามครั้งติดต่อกัน....
13 ตุลาคม 2547 21:22 น. - comment id 350489
@...ผู้น้อย ไม่ออกนาม... สิทธิ์เสรีมีในงานที่จารจรด ต่างด้วยรสความหมายในภาษา ต่างด้วยแง่มุมมองของจินตา ต่างกันด้วยเจตนาที่หมายใจ บางครั้งคราวกล่าวเหมือนร้ายให้ขบคิด แต่เกิดจากบึ้งจิตที่สดใส บางครั้งกล่าวแสนหวานละมุนละไม แต่เกิดจากหัวใจไร้จริงจัง อย่ากังวลหม่นใจในเนื้อถ้อย จงเรียงร้อยด้วยใจไร้กรงขัง ใคร่จะเขียนเขียนไปไร้พะวัง สื่อกวีบทขลังอย่ารั้งรอ ...อย่ากังวลใจไปเลยนะคะ..ผู้น้อย พี่ดอกแก้วไม่ได้ถือว่าเป็นความผิดใดๆเลย ต้องการเขียนต้องการสื่ออะไรก็เขียนออกมาด้วยความเคารพในความคิดของตนเองเถอะค่ะ เพื่อการพัฒนาการทางภาษาและความคิด เวทีนี้ให้อิสระทางความคิดและการเขียนเสมอ..พยายามไปให้ถึงความสำเร็จที่หวังไว้นะคะ...อย่าท้อแท้หรือทุกข์ใจใดๆไปเลย ....เพราะชีวิตเป็นความทุกขือยู่แล้ว เราจึงไม่จำเป็นที่จะเพิ่มความทุกข์ให้ตนเองด้วยการเก็บไปกังวลใจอย่างไม่เป็นเรื่องหรอกค่ะ... ขอบคุณอีกครั้งนะคะที่มาแสดงความในใจไว้อีกครั้ง ..ขอบคุณมากค่ะ...
13 ตุลาคม 2547 21:27 น. - comment id 350492
@...น้องไก่ ผลิใบสู่วัยกล้า... เรียบเรียงคำมาร้อยเป็นสร้อยศิลป์ จากดวงจินต์สู่วาจามาเปิดเผย เป็นกวีบทงามตามรำเพย เพื่อเอื้อนเอ่ยออกไปให้รู้ความ... ไม่ได้พบกันหลายเพลาเลย...งานยุ่งอยู่หรือเปล่าคะ.. ขอบคุณมากเลยที่มาพร้อมน้ำใจที่ใสงาม ไม่ผิดหวังกับการกลับมาเยี่ยมเยียน
13 ตุลาคม 2547 21:43 น. - comment id 350513
@...extreme life... ไม่ประมาทพลาดท่าคราก้าวเดิน เพราะไม่เพลินมองไกลหมายแต่ฝัน มีสติรู้ตัวอยู่ทั่วครัน ไม่ผลุนผลันล้มลงตรงหลุมพราง มองทางโลกเรื่องโศกให้ชัดสี ว่ายังมีโศกกว่าเราเหงาอ้างว้าง มองทางธรรมนำใจใฝ่ละวาง ว่ายังมีแบบอย่างเหนือปุถุชน จริงอย่างที่ extreme life ..ว่าไว้นั่นแหละค่ะ บ้านกลอนไทยหลังนี้ นับวันก็จะมีผู้ยอดฝีมือมาปรากฏกายอย่างหนาแน่น... เหมือนดอกไม้งามที่ผลิดอกจนละลานตา ขอบคุณที่แวะมาให้กำลังใจนะคะ
13 ตุลาคม 2547 21:49 น. - comment id 350522
@...แก้วประเสริฐ... โลกียธรรมกับหัวโขนเป็นสิ่งที่มีอยู่คู่กัน ในสังคมของปุถุชนจึงเป็นสังคมแห่งความเศร้าเพราะการไขว่คว้าหาสิ่งจอมปลอม และรักษาความจอมปลอมเหล่านั้นไว้..และทั้งรู้ว่าไม่ใช่เรื่องจีรังก็ยังอยากยึดถือไว้ให้นานที่สุด...เป็นการหลอกตนเองอย่างไม่มีผู้อื่นมาเกี่ยวข้องเลย..น่าสงสารกับจิตที่คิดเรื่องเหล่านี้อย่างวุ่นวาย... ขอบคุณมากนะคะคุณแก้วประเสริฐ ที่แวะมาคุยกัน
13 ตุลาคม 2547 21:55 น. - comment id 350533
@...magic... จิตแจ่มใสไมตรีปรี่บทกลอน ทุกบทตอนไม่ย่ำใครให้ไร้ค่า ทุกวจีมีให้มิตรจิตเมตตา แม้บางคราไม่สัมผัส...ก็จัดว่างาม ขอบคุณมากนะคะ magic... บทกลอนมีความหมายดีมากเลยค่ะ ..สำหรับกับพี่น้องในบ้านหลังนี้..บ่งถึงใจที่ไมตรีมากมายเลย
13 ตุลาคม 2547 22:06 น. - comment id 350548
@...คนเมืองลิง... พูดถึงหัวโขนแล้ว...ก็ดูจะเกี่ยวกับเรื่องลิงๆอยู่นะ..อิอิ มาบอกว่าใส่แค่แว่นตา..ยอมเชื่อก็ได้ค่ะ... แต่เมื่อพูดถึงเรื่องทรมานแล้ว..พี่ดอกแก้วคิดว่า ตอนที่เขาสวมใหม่ๆน่ะ ก็คงจะไม่ค่อยชิน แต่พอนานๆเข้ากล้ามเนื้อคอก็แข็งแรง และรองรับหัวโขนได้เป็นปกติ เสมือนไม่แบกน้ำหนักอะไร.. ..แต่ตอนที่จะต้องโดนถอดหัวโขนนี่สิ คงจะทรมานใจมากมาย ขอบคุณมากนะคะที่มาเยี่ยมกันพร้อมกับอารมณ์ดีๆ
20 ตุลาคม 2547 21:38 น. - comment id 354729
มีโอกาสได้เข้ามาอ่านแล้วรู้สึกว่า เป็นการเขียนที่มีความหมายดี ๆ กันทุกคนเลยค่ะ ทำให้รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนอ่อนวิริยะมากและยังคิดไม่ค่อยจะออกอีกว่าจะเขียนอะไรดี ดีใจมากค่ะที่ได้เข้ามาแวะอ่าน