..๏ อ่านเรื่องสั้นสะกิดใจย้อนให้คิด ว่าชีวิตผันแปรไปแค่ไหน หรือมั่นคงดังเช่นให้เป็นไป อย่ามั่นใจจนประมาทอาจตรอมตรม เห็นปักเป้าคราวพลิ้วลอยลิ่วคว้าง ล้อลมพลางโยกย้ายหางส่ายสม คล้ายรุนแรงโฉบเฉี่ยวเลี้ยวตามลม คราวนั่งชมหวนคิดชีวิตจริง มีรุ่งโรจน์โชติช่วงและร่วงหล่น เปรียบเทียบตนแปรไปไม่หยุดนิ่ง ดั่งว่าวน้อยลอยลมน่าชมจริง ดูทุกสิ่งงดงามตามใจปอง สายป่านขาดอาจคว้างอย่างไร้เหตุ เกิดอาเพศพลาดพลั้งต้องนั่งหมอง อีกจุดหมายสิ้นความตามครรลอง ครั้นเหม่อมองปักเป้าจึงเข้าใจ ๚ะ๛
7 ตุลาคม 2547 12:16 น. - comment id 345625
สายป่านขาดอาจเกิดจากความซาดิสของลม ^o^
7 ตุลาคม 2547 12:20 น. - comment id 345632
ให้ข้อคิดดีมากเลยค่ะ
7 ตุลาคม 2547 12:21 น. - comment id 345633
อย่าทำตัวเป็นว่าวเหลิงลม
7 ตุลาคม 2547 12:46 น. - comment id 345661
โห..เพราะและข้อคิดดีมากๆๆเลย
7 ตุลาคม 2547 15:05 น. - comment id 345769
ด้วยเหตุการณ์เปลี่ยนผันนั้นเสมอ สิ่งที่ตั้งไว้นะเออเผลอเปลี่ยนผัน แม้วันนี้ชีวิตรุ่งพรุ่งสูงนั้น แต่อีกวันชีวิตล้าน่าเศร้าจริง *-*ชอบกลอนบทนี้ค่ะ แต่งได้ดีมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ ชื่นชมในผลงานนะค่ะ*-*
7 ตุลาคม 2547 19:00 น. - comment id 345931
คนโบราณ ท่านจึงสอนนักสอนหนาไงครับ เกิดเป็นคน อย่าลืมตัว ได้ดีมียศศักดิ์ แล้วก็อย่าลืมกำเนิดตน ได้ดีมีสุข อย่าหลงระเลิง เมกเชื่อคนโบราณนะครับ เพราะที่ผ่าน ๆ มา มันก็ประจักษ์แก่สายตาอยู่แล้ว +-*-+-*-+ +-*-+-*-+ปู๊ชายอารมดี๊ดี+-*-+-*-+ +-*-+-*-+
7 ตุลาคม 2547 20:28 น. - comment id 346014
อ่านเรื่องสั้นแล้วใจย้อนให้คิด ว่าชีวิตมิรู้ได้อะไรจะเกิด อย่าคิดว่าชะตาดีชีวีเลิศ ตาลปัตรอาจกำเนิดก่อจิตร้าว เห็นปักเป้าหางพริ้วลิ่วล้อลม ส่ายตาชมเกลียวคลื่นครืนหาดขาว นกนางนวลปีกกางคล้ายค้างคาว นิ่งกลางหาวดั่งแขวนไว้ไม่ไหวติง ในฉับพลันลมทะเลหยุดเห่เป่า ว่าวปั๊กเป้าผันหัวทิ้งตัวดิ่ง ถลาลงทะเลแล้วแน่นิ่ง ต้องทอดทิ้งชีวินตาสิ้นแวว นางนวลกลับโผผินบินถลา ร่อนลงมานวยนาด ณ หาดแก้ว เพราะมีเหตุคือปีกจึงหลีกแคล้ว จากเรื่องแล้วที่จู่จู่ลมหยุดพัด... ฤๅยามนี้ถือป่านเจ้าปักเป้า ตัวเท่าเท่ากับตัวที่เคยหัด ป่านจึงดึงจิตคิดอดีตชัด ถูกป่านมัดมือชกจิตฟกช้ำ ขอมิ่งมิตรพบฟ้าแจ่มตะวัน ขอจอมขวัญฝันชื่นกับคืนค่ำ ที่พานพบพาลเภทมีเหตุนำ แผลระกำพร้อมสมานด้วยกาลเอย
7 ตุลาคม 2547 20:30 น. - comment id 346019
...สุดสายป่าน ท่านให้ ปล่อยไปเถิด อะไรเกิด ช่างใจ อย่าไปสน อย่าไปฉุด หยุดยั้ง เลิกกังวล อย่าหมองหม่น เสียดาย สุดปลายมือ... .......................สวัสดีครับ....................
7 ตุลาคม 2547 21:38 น. - comment id 346105
ทีแรกนึกว่าเป็นปลาปักเป้าค่ะ แต่งดีจังนะคะคุณอัลมิตรา เคยเห็นที่สนามหลวงบ้างก็อยู่บนดิน บ้างลอยฟ้า บ้างต้องพยุง บางตัวก็ลอยอยู่ดีก็ร่วงลงมาเหมือนที่คุณบอกเลยค่ะ
7 ตุลาคม 2547 21:43 น. - comment id 346109
...อันที่จริงแล้วว่าวมีหน้าที่คือลอยล้อลมบน... ...ว่าวลอยลมได้ ก็เพราะมีลมเอื้อหนุน... ...หากวันใดลมมิเอื้อ หนำซ้ำยังผันแปรเป็นพายุกระหน่ำ... ...ว่าวก็มิอาจสง่างามบนท้องฟ้าได้อีกต่อไป... ...เป็นว่าวนี่ท่าจะเหนื่อยมากๆ ต้องปะทะกับลมที่กระแทกซ้าย-ขวาอยู่ตลอดเวลา ... ...อัลมิตราพอใจที่จะเป็นเพียงคนเล่นว่าว... ...ดึงรั้งและผ่อนสายป่าน ทำทุกอย่างตามแต่ใจปรารถนา... ...และถึงแม้ว่าสายป่านจะบาดมือบ้าง หรือว่าวจะหลุดลอยไป... ... ก็ไม่เป็นไร... ...สิ่งที่ได้เรียนรู้มาก็คือ จะทำอย่างไรดี... ...เพื่อให้ว่าวติดลมบนและลอยอยู่อย่างสวยงาม... ...หาจะเปรียบเทียบว่าวที่ลอยคว้างบนฟ้า ซึ่งใครต่อใครพากันชื่นชม คือ กวี... ...เด่นสง่าลำพัง เหมือนอยู่บนเวทีที่ต้องรับหน้ากับสถานการณ์ต่างๆ... ...มีสายตามากมายที่คอยจ้อง เจตนาก็แปลได้หลายรูปแบบ... ...มีทั้งชื่นชม และมีทั้งไม่ชื่นชม ... ...ว้า ..!! แค่คิดก็หน่ายใจเสียแล้ว ... ...ดังนั้นคนที่พอใจจะเป็นเพียงคนเล่นว่าว ก็พอใจกับการที่ได้เขียน เท่านั้น... ...มีความสุขตามอัตภาพ โดยมิเคยอุปโลกตัวเองว่าตนคือ กวี... ...สองมือที่สาวป่านว่าว สายตาที่จับจดอยู่บนท้องฟ้า หัวใจที่สดชื่น... ...สองมือที่คร่ำหวอดกับการเขียน สายตาที่จับจดบนชิ้นงาน หัวใจที่สงบสุข... ...อื้อ ..!! เพียงคิดก็สุขใจแท้...
7 ตุลาคม 2547 21:49 น. - comment id 346115
คุณextreme life ... สายป่านขาด องค์ประกอบหนึ่งก็ใช่เพราะแรงลม แต่อีกองค์ประกอบหนึ่งซึ่งสำคัญไม่แพ้กันก็คือ การผ่อน,ดึง สายป่าน ค่ะ คุณคนเมืองลิง .. ขอบคุณมากค่ะ คุณ tiki .. ตัวอย่างว่าวที่เหลิงลมมีให้เห็นอยู่ทั่วไป และแน่นอนค่ะ สิ่งที่คุณทิกิเขียนมาเป็นข้อเตือนใจที่ดีค่ะ คุณทะเลหวั่น ..ขอบคุณมากค่ะ คุณผู้หญิงไร้เงา.. ค่ะ ชีวิตไม่ใช่สิ่งที่หยุดนิ่ง และเมื่อไม่หยุดนิ่งย่อมมีสิ่งมากระทบ คงเหมือนว่าวค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่ให้กำลังใจเสมอมา คุณเมกกะ .. ค่ะ เป็นเช่นนั้นค่ะ โบราณเขาว่าไว้อย่างนั้นค่ะ คุณรมย์ บุริน .. บทกลอนที่ส่งมาจากแดนไกล จุดประกายให้มีความคิดเปิดกว้าง ขอบคุณมากมายนะคะ รักษาสุขภาพด้วยค่ะ คุณใบบอนแก้ว .. ขอบคุณมากค่ะ ได้แง่คิดที่ดีทีเดียว คุณเพียงพลิ้ว .. เขาว่าปลาปักเป้ามีพิษนะคะ เพื่อนที่อยู่ญี่ปุ่นเคยเล่าให้ฟังค่ะ ส่วนที่ท้องสนามหลวง อัลมิตราก็เคยไปเล่นว่าวนะคะ ตอนนั้นไม่ได้ซื้อ อัลมิตราไปยืนดู พอดีมีคนจะเลิกเล่น เขาบอกว่ายกให้เอามั๊ย อัลมิตราก็เลยสบายไปค่ะ เป็นว่าวจุฬานะคะที่เขาให้มาค่ะ
7 ตุลาคม 2547 21:54 น. - comment id 346122
เป็นปักเป้าว่าวลอยด้วยลมช่วย ถ้าดวงซวยลมหยุดสะดุดหล่น ถ้าลมแรงอาจปลิวลิ่วหมุนวน พายุร้ายอาจบันดลผลต่างกัน
7 ตุลาคม 2547 22:14 น. - comment id 346149
เพราะค่ะหวานมาทักทายพี่อัลมิตรานะคะ คิดถึงค่ะ
7 ตุลาคม 2547 22:51 น. - comment id 346198
คุณชัยชนะ .. ค่ะ เป็นเช่นนั้น ว่าวไม่ได้ลอยเพราะตัวว่าวมีความสามารถโดยลำพังเลย มีหลายอย่างที่เอื้อหนุนอยู่ บางทีก็วูบ หวุดหวิดร่วงเหมือนกัน บางทีดิ่งหัวปักมาเลยทั้งที่ไม่มีลางบอกเหตุล่วงหน้า ค่ะ คุณเพราะรัก .. คิดถึงเช่นกันค่ะ ราตรีสวัสดิ์นะคะ
8 ตุลาคม 2547 01:55 น. - comment id 346271
แม้- อัลมิตรา มิเคยอุปโลกตัวเองว่าตนคือ กวี... แต่สิ่งที่วาดวางให้หลายดวงใจได้ประจักษ์นั่นคือวิถีทางแห่งกวี... ศรัทธา..ครับ
8 ตุลาคม 2547 11:03 น. - comment id 346450
คุณนาวา .. หากสิ่งที่อัลมิตราทำลงไป เป็นดั่งที่คุณกล่าว อัลมิตราก็ได้แต่ภูมิใจในลึกๆ เท่านั้น หากแต่ เส้นทางที่ปูลาดไว้ ถ้ามิมีผู้ใดก้าวสู่เส้นทางนั้น ..เส้นทางก็ยังคงเป็นเส้นทางที่เปลี่ยวดายดั่งเดิม .. นั่งอยู่บนโขดหินปากทาง..ขับลำนำเพลง ร่ายอารมณ์สุนทรีย์ของบทกลอน .. เพียงเท่านี้ ก็นับว่ามีความสุขยิ่งนักแล้ว ค่ะ
9 ตุลาคม 2547 13:27 น. - comment id 347308
เมื่อตอนเด็ก ๆ กลัวที่สุดเลย ผู้ใหญ่เขาบอกว่า ทำโดดน้ำเล่นดีไปเถอะ ปั๊กกะเป้า มันตอดขาดไปไม่รู้ด้วยนะ เคยมีเด็กถูกปักเป้าตอด ปากมันคมมาก งับปุบขาดปั๊บ พวกเด็กผู้หญิงกลับไม่กลัวปักเป้า เพราะไม่มีส่วนที่มันชอบตอด อิอิ เอะ นี่เราพูดเรื่องเดียวงกันอ๊ะเป่านี้
9 ตุลาคม 2547 20:17 น. - comment id 347509
ปักเป้า ที่เป็นปลา อัลมิตราเห็นเขาแขวนขายเป็นโมบายนะคะ ตัวจริงที่ยังเป็นๆอยู่ ก็ไม่เคยเห็นเลยค่ะ .. โชคดีจริง ที่คุณฤกษ์ระวังตัวไว้ดี .. ไม่งั้นล่ะ แย่เชียว แย่เชียว .... เฮ้อ .!! เกือบไปไหมล่ะ ดีน๊า ที่เชื่อผู้ใหญ่ไว้ก่อน
10 ตุลาคม 2547 15:41 น. - comment id 348015
ไม่อยากเป็นว่าวเลย กลัวสุดสายป่าน ขอบินเดี่ยวดีกว่า ที่อัลมิตราถามว่าบินเดี่ยวเป็นนกอะไรบิน ขอตอบว่าตอนนี้ขอเป็นนกขมิ้นเหลืองอ่อนก่อน(คนละทัวร์กับท่านนายกนะ)เอาไว้วันหน้าถ้าแกร่งกล้าจะเป็นพญาเหยี่ยว ***แวะมาทักทายครับ
11 ตุลาคม 2547 10:21 น. - comment id 348510
นกขมิ้นเหลืองอ่อน ค่ำนี้จะนอน ณ คอนไหน พญาเหยี่ยวเหินเพลินฟ้าไกล นกขมิ้นระวังไพรให้ห่วงหวง ... เป็นนกขมิ้นเหลืองอ่อน ก็ดีนะคะ ... มีความเป็นอิสระของตนเอง ค่ำไหนก็นอนนั่น ... :) ไม่เจอกันหลายวัน ป่านนี้เร่ร่อนไปนอนไหนแล้วหนอ ..