คราวกระทบพบอารมณ์ปมปัญหา ความรู้สึกเกิดตามมาใช่หรือไม่ คือสุข-ทุกข์ ไม่ชอบ หรือชอบใจ เป็นเวทนาเกิดให้รู้สึกกัน พลันที่ใจไหวตามเวทนา ชอบ..นำสู่ตัณหาให้ยึดมั่น หากไม่ชอบ..ก็ค้นหาใหม่เช่นกัน เพราะใฝ่ฝันจะพอใจในเรื่องกาม เมื่อผูกติดฤทธิ์รสกามกำซาบ ไม่กำราบจึงก่อกรรมนำภพสาม เป็นเหตุในปัจจุบันนำเงื่อนความ เกิดติดตามต่อไปให้ร้อนรน ที่กระทำเช่นนี้มีเหตุว่า อวิชชา-สังขารผสานผล เป็นต้นเหตุสำคัญอันแยบยล อำนวยพลกิเลสมารสำราญใจ ใช้อะไรตัดตอก่อวัฏฏะ? ต้องเพียรละกิเลสเหตุหมองไหม้ ด้วยความเพียร สติมา ปัญญาไว เจริญในกรรมฐานการวิปัสสนา
14 กันยายน 2547 10:56 น. - comment id 330909
อืม สาธุ................. คนบ้ากามอย่างผม สำนึกขึ้นมาเลยครับ ............................ จะบ้ากามให้น้อยลงครับ แต่จะหมกมุ่นให้มากขึ้นอีกนิด ***********************************
14 กันยายน 2547 11:06 น. - comment id 330915
55555คนบ้ากามเข้าห้องมาได้ไง555555 สอนได้ดีจัง5555คนบ้ากามอ่านแล้วกลับตัวกลับใจบ้างน๊าคิกๆๆๆๆๆๆๆเดียวจะตายเพราะตัณหา คิกๆๆๆๆ
14 กันยายน 2547 11:40 น. - comment id 330977
สวัสดีครับ....พี่ต้อย มาอ่านเพื่อเป็นกำลังใจให้คนดี
14 กันยายน 2547 11:59 น. - comment id 331009
อุปาทานปัจจะยา ภโว เพราะมีการยึดมั่น ภพจึงมี เขียนกลอนปัจจยาการได้น่าอ่านมากครับพี่ ที่เรามีความดิ้นรน ทะเยอทะยาน แสวงหา ไม่รู้จักพอ ก็เป็นเพราะเราไปติด ไปยึด นั่นของเรา เราเป็นนั้น เราเป็นนี่ ถ้าละ การยึดมั่นถือมั่นได้ เราก็จะพ้นจากวงจรนี้ ขอบคุณครับ ที่เขียนดีดีมีประโยชน์ให้อ่าน +-*-+-*-+ +-*-+-*-+ปู้ชายอารมดี๊ดี+-*-+-*-+ +-*-+-*-+
14 กันยายน 2547 12:06 น. - comment id 331015
พี่ดอกแก้วจ๋า ภาวนาช่วยให้ใจสงบได้มากใช่ไหมคะ เพียงพลิ้วจะลองดูบ้างค่ะ
14 กันยายน 2547 13:14 น. - comment id 331094
พี่สอนให้ได้คิด ด้วยบทกลอนที่ไพเราะมากๆค่ะ ชื่นชมเสมอนะคะ
14 กันยายน 2547 13:28 น. - comment id 331114
นิยมในงานของพี่เสมอนะคะ ........................................... ลี่...ผู้มาเยือน .
14 กันยายน 2547 13:34 น. - comment id 331118
^_^ พี่ดอกแก้วสดใสใฝ่ธรรมะ พี่คงจะสงบสุข ไม่ทุกข์ร้อน เพราะยึดคติธรรมความอาทร แถมแต่งกลอนเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน สวัสดีค่ะชอบบทกลอนสอนใจพี่เสมอ
14 กันยายน 2547 14:20 น. - comment id 331162
การกำเนิดแก่ตายในมนุษย์ องค์พิสุทธิ์สอนไว้ให้สังหรณ์ ละกิเลิศก่อกุศลเอื้ออาทรณ์ ตัดนิวรณ์ก็เกิดสุขทุกข์มลาย
14 กันยายน 2547 15:11 น. - comment id 331235
เป็นบทกลอนที่สอนให้คิด.. คิดได้ก็พบทางที่ถูกที่ควร.. คุณพี่ดอกแก้วนำสาระมาสู่เพื่อนพ้องน้องพี่เสมอๆ.. ขอชื่นชมอย่างจริงค่ะใจ..
14 กันยายน 2547 15:42 น. - comment id 331257
มาชื่นชมมาลัยบทในธรรมค่ะ
14 กันยายน 2547 19:23 น. - comment id 331459
@...หญ้าคา... คำว่ากาม หมายรวมถึง รูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัสค่ะ ที่เข้าใจว่าเป็นเรื่องเพศคือกามารมณ์อย่างเดียวนั้น ไม่ใช่หรอกนะคะ .....แต่ถ้าหากทราบดีอยู่แล้วก็ต้องขออภัยในคำอธิบายนี้ด้วยค่ะ...คิดเสียว่าพี่ดอกแก้วพูดเยอะไปนิดนึงก็แล้วกัน ...ขอบคุณนะคะที่แวะมาอ่าน
14 กันยายน 2547 19:29 น. - comment id 331464
@....เพราะรัก ...น้องหวาน มาหัวเราะอารมณ์ดีอยู่ตรงนี้เอง เรื่องของกามและตัณหานี่ ...คนธรรมดาอย่างเรามีกันอยู่ทุกคน แต่มีปริมาณที่ต่างกัน...และสิ่งสำคัญนั้นอยู่ที่ว่าใครจะกำจัดหรือควบคุมมิให้แสดงออกมาโดยทุจริตได้มากกว่ากันค่ะ ขอบคุณตัวป่วนมาช่วยกวนให้มีโอกาสขยายความนะคะ
14 กันยายน 2547 19:30 น. - comment id 331465
@...ผลิใบสู่วัยกล้า... สวัสดีค่ะน้องไก่ผู้มอบกำลังใจให้เสมอ ขอบคุณค่ะ
14 กันยายน 2547 19:35 น. - comment id 331472
@...เมกกะ... เขียนบทกลอนวอนใจให้เขาอ่าน ต้องประมาณเนื้อความตามที่ไข ไม่ให้ยากด้วยภาษาที่ห่างไกล เพียงหวังให้อ่านแล้วคิดสักนิดพอ สวัสดีค่ะน้องเมก ผู้ชายอารมณ์ดี บทกลอนธรรมะนี้...พี่ดอกแก้วิใคร่จะเขียนให้เต็มรูปแบบ เพราะยากด้วยภาษาธรรมและความเหมาะสม เพียงหยิบยกมาบางประเด็นที่ใกล้ตัว...นานๆครั้งจึงจะเขียนอย่างนี้สักหนนึงค่ะ ขอบคุณมากค่ะน้องเมก
14 กันยายน 2547 19:42 น. - comment id 331475
@...เพียงพลิ้ว... คำว่า ภาวนา ในความหมายหนึ่งนั้นหมายถึงการกระทำให้เจริญงอกงาม(ในกุศล) ซึ่งมีอยู่สองวิธีที่เราคุ้นชื่อจนรู้จักกันดีค่ะ คือ การเจริญสมาธิ และการเจริญวิปัสสนา การเจริญสมาธิก็คือ การที่ตั้งมั่นอยู่กับอารมณ์ใดอารมณ์หนึ่ง เช่น คำว่า พุทโธ หรือการดูลมหายใจ เป็นต้น ส่วนการเจริญวิปัสสนานั้น มีรูปและนามเป็นอารมณ์ค่ะ การกระทำที่ไม่ซับซ้อนสำหรับคนรุ่นใหม่ก็คือ การเจริญสมาธิ จะลองทำดูก็ได้นะคะ เช่น การท่องคำว่า สัมมาอรหัง คำว่า พุทโธ หรือการสวดอิติปิโส การแผ่เมตตา ...ในขณะที่ต้องการระงับความฟุ้งซ่านของใจก็ได้ค่ะ ขอบคุณที่สนใจนะคะเพียงพลิ้ว
14 กันยายน 2547 19:44 น. - comment id 331476
@...นางฟ้าซาตาน... ขอบคุณที่แวะมาอ่านนะคะ... ดีใจที่ทราบว่ากลอนบทนี้มีประโยชน์กับน้องๆค่ะ อย่าเพิ่งเบื่อที่พี่ดอกแก้วพูดเรื่องธรรมะนะคะ
14 กันยายน 2547 19:46 น. - comment id 331477
@...ลี่...ชวนมาเยือน... ขอบคุณค่ะน้องลี่ฯ ดีใจมากเลยค่ะที่น้องลี่ฯมาเยี่ยมเยือน
14 กันยายน 2547 19:49 น. - comment id 331478
@...คนเมืองลิง... ความทุกข์ร้อนของพี่นั้นมีแน่ คือเกิดแก่ตามขันธ์ที่หวั่นไหว แต่ไม่แก่ดีดรที่ร้อนใจ เพราะบทธรรมอำไพให้ความเย็น สวัสดีค่ะคนเมืองลิง ...มาอ่านมาให้กำลังใจเสมอขอบคุณนะคะ
14 กันยายน 2547 19:52 น. - comment id 331480
@...พ่อดอกรัก... ตัดนิวรณ์ถอนอวิชชาพาเกิดสุข พ้นปวงทุกข์แท้จริงสิ่งฝันใฝ่ ตัดให้สิ้นถึงรากแห่งพิษภัย หมดตัณหาจากใจไร้ทุกข์พลัน
14 กันยายน 2547 19:55 น. - comment id 331482
@...กอกก... ใช่ค่ะ...อ่านแล้วต้องการให้คิดจริงๆ เพราะอย่างน้อยก็เป็นการตั้งคำถามให้ตรวจสอบการกระทำของตนเองได้บ้าง...แม้กระทั่งเป็นการเตือนตัวพี่ดอกแก้วเอง ขอบคุณค่ะกอกก..
14 กันยายน 2547 19:57 น. - comment id 331484
@...คุณทิกิ... บทกลอนนี้..เรียกได้ว่าเนื้อหาเข้มขึ้นในพระอภิธรรม อาจไม่ไพเราะนักในรสวรรณศิลป์.. ขอบคุณนะคะที่มาทักทายกัน
14 กันยายน 2547 20:39 น. - comment id 331512
คงแวะมา สาธุ บรรลุรู้ สิ่งเป็นอยู่ ยกชี้ ตีความหมาย ให้เข้าใจ กระจ่าง ดำด่างคลาย อธิบาย ได้ซาบซึ้ง ตรึงอารมณ์
14 กันยายน 2547 20:50 น. - comment id 331524
@...ชัยชนะ... สิ่งที่ทราบภาพชีวิตที่ติดข้อง หมายให้น้องและพี่ทางนี้หนา มีโอกาสได้พบสบสายตา เผื่อว่าจะมีค่าในสายใจ สวัสดีค่ะชัยชนะ...ขอบคุณมากนะคะ
14 กันยายน 2547 21:32 น. - comment id 331555
สาธุ สาธุ แต่สุดแล้ว คน ก็ยังเป็นคนชอบก่อเรื่องยุ่งๆอยู่เรื่อย **** แวะมาทักพี่น่ะคะ ***
14 กันยายน 2547 21:42 น. - comment id 331569
@...มารน้อย... คนเป็นต้นตอของปัญหามากมาย ..ใช่เลยค่ะน้อง ขอบคุณที่มาทักทายนะคะน้องมารน้อย