ศิลาทรายหลายแท่งบนแหล่งหล้า ต่างราคา ความงาม และความหมาย มีเกลื่อนกล่นบนหนถูกทิ้งดาย แต่บางแท่งกลับกลายเปี่ยมความงาม แกะสลักสักลายในเนื้อผิว ใช้ฆ้อนสิ่วสกัดพร้อยดั่งรอยหนาม แล้วขัดผิวริ้วรายให้ได้ความ เกิดความงามเพราะถูกบั่นหั่นเนื้อทราย ยิ่งประณีตยิ่งกรีดยิ่งสกัด ยิ่งขุดขัดยิ่งแต่งแบ่งเส้นสาย ยิ่งวิจิตรบรรจงลงลวดลาย ยิ่งใช้คมมากมายของเครื่องมือ จึงงดงามยามพิศจิตซึมซาบ บางคราวกราบบูชาพายึดถือ บางชิ้นเป็นมรดกเลื่องระบือ ตั้งราคาให้ซื้อปฏิมากรรม ดั่งมนุษย์ผู้งามด้วยความดี ต้องขัดสีเรือนใจให้เข้มขำ ด้วยทาน ศีล ภาวนา มากระทำ จึงน้อมนำเหนือระดับปรับจิตใจ อุปสรรคคือมีดกรีดลงลาย อย่าเหนื่อยหน่ายทดท้อพ้อหมองไหม้ อดทนรอผลงานอันวิไล อย่าปล่อยใจให้เป็นหินใต้ดินดอน
7 กันยายน 2547 08:35 น. - comment id 325869
งสมในปรัชญาที่บรรจสื่อ เขาเปรียบว่า คนเกิดมาเหมือนผ้าขาว และกาลเวลา ก็แต่งแต้มสีลงบนผ้านั้น..ให้มีลวดลาย ถ้ามีสติสัปชัญญะ....ก็สามารถจะแต้มสี สันบนผืนผ้านั้นให้งดงามสดใส ดูมีต่ามี ราคาน่าทนุถนอม แต่ถ้าหากขาดไร้ซึ่ง สติและหิริโอตตะปะผ้าผืนนั้นก็สกปรก หมองมัว ไม่มีค่าควรมองครับ ๚ะ๛ size>
7 กันยายน 2547 08:37 น. - comment id 325871
~*~เกิดมาก็มีเพียงแค่นี้ หมั่นคอยทำดีเถิดหนา ชีวิตทุกชีวิตย่อมมีค่า อย่าปล่อยเวลาให้ล่วงเลย ~*~คิดดีทำดีมีความสุข คิดชั่วมีทุกข์นะเพื่อนเอ๋ย บางคนทำดีศักครั้งยังไม่เคย เกิดมาละเลยความเป็นคน ~*~เมื่อถึงวันใกล้ดับดิ้น เสียดายชีวินที่สลาย คนเราเกิดมามักกลัวความตาย ยังไม่สายหากคิดกลับใจ อิ_อิ แวะมาเยี่ยมพี่ดอกแก้วนะครับ ฮิๆๆ วันนี้ เมกขอธรรมะธรรมโมหน่อยนะ ก็วันนี้เป็นวันพระนิครับ เด๋วเมกไปทำบุญก่อนนะครับพี่ ที่บ้านเมก ทำบุญเก้าโมงเช้าอ่ะครับ เด๋วจะเอาบุญมาฝากครับพี่ บาย
7 กันยายน 2547 08:44 น. - comment id 325876
งดงามมากค่ะ
7 กันยายน 2547 09:32 น. - comment id 325904
หินวิเศษเลศนัยในเนื้อหิน อยู่ที่ลิ้นหัวใจใช้ขัดถู เกิดเป็นคนยากยิ่งจงตรองดู หากด่าครูนรกคงลงกระบาล สิ่งที่ดีครูบอกจงบอกต่อ ชีวิตหนอพอตายกลายเป็นศาล ลอยละล่องมองหาชั่วเนานาน สิ่งเหนือกาลกตัญญูและรู้คุณ อาภาภัส ร่วมกลอนด้วยความเคารพ
7 กันยายน 2547 09:45 น. - comment id 325914
พกหินคือหนักแน่นของแผ่นผา ไม่อ่อนล้าหูเบาเขลาความอื่น ต้องแน่นหนักผลักตัวตนบนจุดยืน ไม่ล้มครืนด้วยฟังความเสี้ยมห่ามคน
7 กันยายน 2547 10:01 น. - comment id 325918
เปรียบเทียบได้ดีให้ข้อคิดเสมอขอบคุณค่ะพี่ดอกแก้ว
7 กันยายน 2547 11:27 น. - comment id 325975
หวัดดีครับ แอบมาอ่านตอนที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ มาอ่านกลอนเพื่อเป็นกำลังใจให้คนที่แสนดี
7 กันยายน 2547 12:14 น. - comment id 326014
อิอิอิแวะมาอีกแระแหมได้ข้อคิดดีอีกแระสมเป็นพี่ดอกแก้วจริงเพิ่งรู้ความคิดผู้ใหญ่อิอิอิไปก่อนนะจะไปเยี่ยมอีกบ้านของพี่ค่ะคิดถึงจังเยย
7 กันยายน 2547 13:02 น. - comment id 326051
@...ทิงนองนอย... สวัสดีค่ะ .. สิ่งที่ไม่เคยถูกทดสอบนั้น ยากที่จะวัดคุณค่าคุณสมบัติได้ แต่หากผ่านการทดสอบหลายๆครั้ง ผ่านการหล่อหลอมหลายๆหน และผ่านการเจียรนัยอย่างประณีต ..ความงดงามและคุณค่าย่อมมีมาก การแต้มสีสันก็ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบด้วยว่า จะวาดสีวาดลายอะไรลงไป ...ลวดลายบางอย่างมีค่า แต่บางอย่างไม่มีค่า บางทีคนเราก็มองเลยไปไกลถึงวัยเด็ก ที่ควรได้รับการเอาใจใส่ให้งดงาม แต่ที่จริงแล้ว ค่านิยมไม่งามที่เกิดขึ้นในสังคมนี้ เกิดจากลวดลายในใจของผู้ใหญ่ ที่เปิดรับวัฒนธรรมใหม่ๆอย่างไม่ลืมหูลืมตา แล้วก็วาดซ้ำๆลงบนความฟุ้งเฟ้อ และชื่อเสียงจอมปลอม..
7 กันยายน 2547 13:02 น. - comment id 326052
@...เมกกะ... มวลมนุษย์เท่าเทียมที่มนุษย์ บริสุทธิ์ที่ใจใช่ที่อื่น มีชีวิตเหมือนกัน..ไม่ยั่งยืน จะแตกตื่นฐานะไปทำไม สิ่งภายนอกใช่บอกถึงความดี ทรัพย์มากมีไม่อาจซื้อใจให้ คลายจากหลงวงบาปที่อาบใจ แต่ต้องใช้ไตรสิกขามาล้างทราม อนุโมทนาค่ะน้องเมก ... ขอให้กุศลที่ได้กระทำนั้นจงส่งผลให้น้องเมก ร่มเย็นอยู่ในธรรม สงบกายสบายจิตยิ่งๆขึ้นไปนะคะ และขอบคุณในกุศลจิตที่คิดเผื่อแผ่กุศลแก่ผู้อื่นด้วยค่ะ..
7 กันยายน 2547 13:03 น. - comment id 326053
@...น้องพุดพัดชา... ชีวิตที่ไม่ได้รับการฝึกฝน ย่อมอดทนต่อสิ่งที่มากระทบได้น้อยนะคะ บางครั้งก็ทนไม่ได้เลย ... ผู้ที่ไม่เคยต่อสู้ ย่อมไม่รู้ว่าตนเองเข้มแข็งแค่ไหน และหากผ่านการต่อสู้มาอย่างโชกโชนแล้ว..จะแพ้กี่ครั้งชนะกี่ครั้ง นั่นก็คือบทพิสูจน์ความแข็งแกร่งที่แท้ ซึ่งในที่สุดก็จะสามารถรองรับได้ทุกสถานการณ์ และปล่อยวางลงได้อย่างไร้ความขัดแย้ง ได้พบกันวันนี้ ดีใจมากค่ะ ขอบคุณนะคะน้องพุด..
7 กันยายน 2547 13:03 น. - comment id 326054
@...อาภาภัส อรุโณทัย... กตัญญูรู้ค่าครูอาจารย์ ผู้สอนการฝึกคัดหัดอ่านเขียน ให้ก้าวสู่ความรู้ในเรื่องเรียน และหมั่นเพียรฝึกฝนได้ผลงาน จักเป็นผู้รุ่งเรืองเฟื่องศักดา และสำเร็จวิชาที่สืบสาน กุศลจิตจะป้องผองภัยพาล ให้แตกฉานผ่านพ้นหนทางภัย ขอบคุณค่ะอาภาภัส เป็นบทกลอนที่ดีมากๆ ในการสื่อถึงมือของผู้ฝึกฝนและวาดลวดลายให้สวยงาม
7 กันยายน 2547 13:04 น. - comment id 326055
@...คุณทิกิ... คือรูปนามความเหมือนเรือนชีวิต ต่างกันที่เรือนจิตที่ปลูกสร้าง ปลูกกุศลผลบุญหนุนเส้นทาง ปลูกความชั่วทำลายร้างสู่อบาย สวัสดีค่ะคุณทิกิ..ขอบคุณมากค่ะ
7 กันยายน 2547 13:04 น. - comment id 326057
@...คนเมืองลิง... ความเข้าใจผิดอย่างหนึ่งก็คือ คิดว่าตนเองนั้นด้อย หรือเหนือกว่าผู้อื่น เพราะโอกาสที่ไม่เท่ากัน แต่ที่จริงแล้วทุกคนมีโอกาสทำความดีเสมอ เช่น การไม่โกรธเวลาที่ถูกนินทาว่าร้าย ..เดินสะดุด ...ทำงานไม่ทัน .. เหตุการณ์เหล่านี้ที่เกิดขึ้นแต่ละครั้ง ก็เหมือนการฝึกฝนจิตใจให้อดทนต่อความไม่พอใจ ไม่จำเป็นต้องเป็นการกระทำจากมือของผู้อื่นก็ได้นะคะ ขอบคุณที่แวะมาค่ะ
7 กันยายน 2547 13:04 น. - comment id 326059
@...ผลิใบสู่วัยกล้า... ขอบคุณค่ะน้องไก่ ... แอบมาตอนที่เจ้าของบ้านไม่อยู่นี่ เห็นอะไรรกบ้างไหม..อิอิ อย่างไรก็ช่วยรับแขกไปพลางก่อนนะคะ ... หรือช่วยรดน้ำต้นไม่ก็ยังดี ..รดกำลังใจไว้ตรงนี้ให้ชุ่มไปเลยค่ะ
7 กันยายน 2547 13:07 น. - comment id 326060
@...เพราะรัก... น้องหวาน...ขอบคุณค่ะมาเยี่ยมเรื่อยเล้ย.. ไม่เหงาๆ ...แล้วมาอ่านอีกเรื่อยๆนะคะ
7 กันยายน 2547 13:56 น. - comment id 326112
สวัสดีค่ะคุณพี่ดอกแก้ว.. เป็นกลอนที่สอนใจได้ดีค่ะ อ่านแล้วนำไปคิดคำนึงถึงคุณค่าเพิ่มค่าทางใจให้ตัวเองค่ะ ขอบคุณนะคะ
7 กันยายน 2547 14:19 น. - comment id 326132
@...กอกก... สวัสดีค่ะกอกก.. ขอบคุณมากนะคะที่เข้ามาอ่าน และแสดงความคิดเห็นที่ให้กำลังใจในการทำงานมากเลยค่ะ
7 กันยายน 2547 22:15 น. - comment id 326481
กระจกมัวสลัวหน้าตาไม่ชัด ค่อยเพียรขัดมองเห็นชัดเจนใส ถ้าไม่ขัดคงหมองหม่นย่นเหี่ยวไป เหมือนจิตใจถ้าไม่ใสให้หมองมัว
8 กันยายน 2547 00:02 น. - comment id 326562
อุปสรรคและปัญหาในคราไหน จึงสู้ไปอย่าย่นย่อท้อใจมั่น เพื่อให้สู้ความสำเร็จเสร็จสมพลัน แล้วเรานั้นจะรู้ค่าอุราตน *-*ชอบมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ*-*
8 กันยายน 2547 03:39 น. - comment id 326600
เยี่ยมครับ ขอชื่นชม
8 กันยายน 2547 15:15 น. - comment id 326997
@...ชัยชนะ... คุณสมบัติสูงค่าศิลาอาสน์ นอกจากความผุดผาดและสวยใส คือความแกร่งอดทนผลพิษภัย รับรองไหวด้วยหนักแน่นแท่นศิลา สวัสดีค่ะชัยชนะ... ผ่องใสช่วยให้เห็นอะไรได้ชัดดีนะคะ
8 กันยายน 2547 15:17 น. - comment id 326998
@...ผู้หญิงไร้เงา... อุปสรรคมักพ่ายผู้ใจสู้ อาวุธที่กอบกู้คือความหวัง ความอดทนเป็นดุจดังพลัง มีความหวังเป็นเสบียงหล่อเลี้ยงใจ ขอบคุณค่ะน้องตูน...
8 กันยายน 2547 15:17 น. - comment id 326999
@...นครา ประไพพงศ์... ขอบคุณมากนะคะ กลอนเรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจจาก.. พระพุทธรูปหินทรายที่งดงามยิ่งค่ะ
8 กันยายน 2547 18:03 น. - comment id 327114
แกร่งด้วยกายดุจหินทรายจากภายนอก แต่อยากบอกแกร่งแท้แน่นักหนา คือที่จิตแกร่งที่ใจไม่นำพา สู้ฟันฝ่ากิเลศสิ้นด้วยยินดี.....ฯ สู้กิเลศด้วยใจของเราเองค่ะ..มาทักทายนะคะ..
11 กันยายน 2547 16:04 น. - comment id 329160
@...น้องราชิกา... ขอโทษนะคะที่มาตอบช้า... ใจที่แกร่งแม้แรงกายจะน้อย จึงไม่ถอยที่ก่อร่างสร้างศักดิ์ศรี ปริมาณคุณค่าและความดี ใช่อยู่ที่ความแกร่งของแรงกาย ขอบคุณค่ะน้องราชิกา