สลักรอย..

อาภาภัส


              รอนเลือนเดือนต่ำเตี้ย       ตามวัน
            ดุจมุ่งถอนรากฝัน                ฟ่านพื้น
           อาจเพราะกร่อนความพันธ์   ผูกสั่ง   สอนนา
           หากมิ่งมิตรจิตชื้น                 ช่วยสร้างกระแส
        
             ราตรีดับแผ่นหล้า               หลากมวล
          ควันกรุ่นอาบอบอวล              กลิ่นไต้
         บดบังหนึ่งนางครวญ               คงเห่      นางเดียว
         รสเปลี่ยวสานสาดไส้              เซ่นแล้ฟาดฝัน
   
             พายุแรงร่ำร้อง                   ริมชล
          คึกคั่กราวใจคน                     เควี่ยงคว้าง
         กระแทกก่อเกินทน                 ทลายถิ่น
         เหมือนดั่งใจเจ็บร้าง                เรื่อยลี้สูญสลาย
            วสันต์สายปลายเปลี่ยนเส้น   สุรีย์
          ผินเผ่นมุดเมฆี                       แข่งขวั้ม(คว่ำ)
          ตราบอนันต์ลั่นฤดี                   ดาลทุ่ง
          ยอมก่อกานท์แกะถ้ำ               ถิ่นแท้ดงสิงห์
             วารีไหลลั่นฟ้า                    ฟากสมุทร
         มิหน่ายหายหาญผุด                แผ่กว้าง
         ใจยอมจ่มนวลนุช                   นึกนิ่ง    นานแล
         จักอยู่ฤารอนร้าง                     ร่วมให้ชาติเหลือ
            หยาดเลือดหยดสั่งสู้            ศึกตน
        หากเหนื่อยจักยังทน               ทุ่มกว้าน
        จารจรดเพื่อกอบกมล              มวลเหล่า    เด็กแฮ
        หวาดหวั่นมิมาต้าน                  ต่อเตื้อภาษา				
comments powered by Disqus
  • ผู้หญิงไร้เงา

    2 สิงหาคม 2547 22:01 น. - comment id 304722

    ขอให้ภาษาไทย
    จงอยู่ไปจงชั่วหลาน
    และตราบเท่ายืนนาน
    อีกกี่กาลไม่สิ้นลง
    
    *-*แต่งได้ดีมากๆๆๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ ชื่นชมในผลงานนะค่ะ*-*
  • ลี่...ชวนมาเยือน

    2 สิงหาคม 2547 22:26 น. - comment id 304756

    ความตั้งใจของคุณอาภาภัสไม่สูญเปล่าแน่ๆ ค่ะ
    เพราะลี่ก็เป็นคนหนึ่งที่ชื่นชมในภาษาเขียนของคุณค่ะ
    
    ลี่เพิ่งหัดเขียน...จะคอยติดตามอ่านงานตัวอย่างภาษาสวยๆ ของคุณนะคะ
    ........................................................................................
    ลี่...ผู้มาเยือน
    .
  • อัลมิตรา

    3 สิงหาคม 2547 08:10 น. - comment id 304833

    .....นวลนงค์คงห่างเจ้า................เยาวมาลย์
    ครวญคร่ำคำพจน์ภาณ................ผ่านถ้อย
    อาลัยบ่ายนงคราญ......................พลันร่ำ โศกสลด
    เกินพร่ำคำสรรค์สร้อย.................สร่างน้ำตาแสลง ฯ
    
    .....เกล็ดแกมแซมแสงใต้...........อุปมา 
    ปานเพ็ชรเกล็ดประภา................พร่างแพร้ว
    วับวาวดุจจันทรา.........................คราเพ่ง 
    พราวพร่างแววคลาดแคล้ว.........เนื่องฟ้ามหรรณพ์ ฯ
    
    .....ระบมตรมแสงใต้....................ฉายฉาน
    เกินห่างยังขับขาน.......................พรั่นแท้
    พลัดพรากหากหักหาญ.................ขวัญภิ- รมย์เฮย
    จำข่มตรมใจแม้..........................ห่างน้องอนงค์นวล ฯ
    
    .....เคียงคลอรอแสงใต้.................มลายเลือน
    พิร่ำยันดาวเดือน.........................เคลื่อนคล้อย
    อิงแอบแนบมิเบือน.....................เตือนพี่ นรสิงห์
    จำจากพรากนงค์น้อย...................สู่ห้วงสรวงสวรรค์ ฯ
    
    
  • อาภาภัส

    3 สิงหาคม 2547 09:01 น. - comment id 304853

    คุณผู้หญิงไร้เงา
    ขอบคุณมากค่ะ
  • อาภาภัส

    3 สิงหาคม 2547 09:02 น. - comment id 304854

    คุณลี่คะ  ขอบคุณเช่นกัน
  • อาภาภัส

    3 สิงหาคม 2547 09:13 น. - comment id 304859

    เรียนคุณอัลมิตราคะช่วยแปลหน่อยค่ะอ่านแล้วไม่ค่อยเข้าใจ   แต่อยากจะขอบคุณคุณ เพราะที่เขียนโคลงนี้ขึ้นเพราะไปอ่านธคลงที่คุณแต่งแล้วก็เลยจับความว่าเหมือนคุณน้อยใจหรืออะไรก็ไม่รู้ ก็เลยเขียนโคลงเดี๋ยวนั้น จึงได้เป็นสลักรอย อาจเป็นเพียงนอดหนึ่งที่เราดึงภาษา แต่มันมีค่าเกินกว่าที่จะหาสิ่งใดวัดได้   ฉันรักและเคารพบรรพบุรุษ ฉันรำลึกเสมอว่าแผ่นดินมีให้เราได้อยู่กันอย่างสุขพอควรก็ด้วยการเสียสละของท่านๆนะคะ  สิ่งใดที่พอจะเจริญรอยตามได้ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของชาติ แม้เราจะทำได้ไม่ดีนัก แต่ก็ประสงค์ที่จะทำ ใครจะรู้หรือมิรู้มิเป็นไร แต่เรารู้  ฟ้ารู้   
       ขอบคุณคุณอัลมิตรามากๆนะคะ ตัวจริงคุณคงสวยมากเลยนะคะ ชื่อเพราะมากจริงๆ
       อัลมิตรานิ่มเนื้อ              นางโพม
    นวลเปล่งประกายโฉม       สว่างหล้า
    ฤดีพร่างดุจโคม                 แสงสู่  เรือนนา
    พักตร์ยิ่งธิดาฟ้า                ฝ่ากล้าผจญฝัน
  • Robert TingNongNoi

    3 สิงหาคม 2547 09:23 น. - comment id 304862

    
    แต่งได้ดีมากครับสรรพสิ่งบนโลกล้วนมีเกิด
    และดับถือเป็นสัจจัง แต่ก็มีข้อยกเว้นในบาง
    กรณี ผมอยากให้วรรณศิลป์เป็นเช่นนั้น 
    
                   สุรีย์ลับเหลี่ยมฟ้า     ลาจร
         จันทะขึ้นโคจร                   ส่องหล้า
         ศาสตร์ศิลปจักถอดถอน     จากจิต
         หากมิอนุรักษ์ไว้                 จักร้าง   เสื่อมสูญ๚ะ๛
    
    size>
  • พุด

    3 สิงหาคม 2547 10:32 น. - comment id 304893

    สุดยอดงามล้ำค่าค่ะ
    
    ทั้งสองท่านนะคะคุณอัลด้วยค่ะ
    
    ชื่นชมภาษาที่รจนายากหากสูงค่าคลาสสิคค่ะ
    คิดถึงนะคะ
  • )))**--ผลิใบสู่วัยกล้า--**(((

    3 สิงหาคม 2547 12:31 น. - comment id 304960

    มาอ่านให้กำลังใจ  นะครับ
    
    เขียนได้ดีมากเลย
    
    
  • ผลิใบสู่วัยกล้า

    3 สิงหาคม 2547 13:39 น. - comment id 304984

    มาอ่านให้กำลังใจ  นะครับ
    
    เขียนได้ดีมากเลย
    
    
  • แทนคุณแทนไท

    3 สิงหาคม 2547 13:50 น. - comment id 305004

    เจตนาก็เยี่ยม ผลงานก็น่าชื่นชมครับ ให้นึกยินดีที่มีคนคิดเช่นคุณ จะต่อตอบก็เกรงจะทำให้งานงามของคุณ และยิ่งเห็นคุณอัลฯ ยิ่งตรึกตรอง มีเวลาจะมาฝากคำไว้ครับคุณ
  • น่านฟ้า

    3 สิงหาคม 2547 16:37 น. - comment id 305060

    สุดยอดเลยอ่ะ  นับถือเจงๆค่ะ
  • อาภาภัส

    3 สิงหาคม 2547 20:10 น. - comment id 305181

    ตอบคุณ แทนค่ะ ขอบคุณ
  • อาภาภัส

    3 สิงหาคม 2547 20:11 น. - comment id 305183

    ตอบคุณพุดค่ะ ขอบคุณค่ะ
  • อาภาภัส

    3 สิงหาคม 2547 20:13 น. - comment id 305185

    ตอบคุณทิงนองนอยค่ะ โหให้เกียรติมากเลยค่ะ
  • ชัยชนะ

    4 สิงหาคม 2547 04:32 น. - comment id 305418

    ช่วยกันคนละไม้             ละมือ
    หวังเพื่อไทยลายสือ         อยู่ยั้ง
    บทกวีที่ลงสื่อ                   งานแต่ง
    พินิจดูต่อตั้ง                    ลิขิตร้อยถ้อยคำ
    
  • ฤกษ์

    4 สิงหาคม 2547 23:29 น. - comment id 306242

    มาชื่นชม
  • แมงกุ๊ดจี่

    6 สิงหาคม 2547 19:33 น. - comment id 307578

    แต่งได้ดีมากค่ะ  
    ภาษา  ดีมากๆ  
    
    เพิ่งหัดเขียนค่ะ...คอยติดตามอ่านผลงานอยู่นะคะ  และจะคอยชื่นชมคะ
    
    

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน