สรรพสัตว์หมู่มนุษยชาติ ทั่วทั้งอวกาศเวียนไหว้วัฎฎะสังสาร สิ้นซากเกษมสันต์อนันตกาล หากห่างพระนิรพานเสกวิญญาณชน อสุภซากสัตว์มนุษย์ สิ้นสุดสถุลทรามศาสตร์สับสน เมื่อพบวิมุติวิโมกข์มิ่งมนตร์ หลุดพ้นพิภพพินาศทาสจัญไร พุทธองค์ทรงสั่งสอนสัตว์มนุษย์ ด้วยสัจธรรมวิสุทธิ์วิเศษศรีสมัย เสพวิญญาณทิพย์ทวีนิรามัย ชั่วฟ้าดาราลัยลับจักรวาล ปาฏิโมกข์มิ่งฟ้ารุจิรรัฐ อริยสัจสั่งสอนสถิตย์สมาน อิทธิบาทเบื้องบุรพทิศทวาร วิเศษวิศาลประเสริฐล้ำเลิศไกวัล กราบคุณค่ามหึมาพุทธานุภาพ ที่ขจัดคราบกิเลศตัณหาทุกสิ่งสรรพ์ ให้เวไนยสัตว์พ้นภัยสารพัน ประสบสุขนิรันดร์สืบบุญขจรขจายฯ
2 สิงหาคม 2547 20:39 น. - comment id 304646
แต่งได้ดีมากๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ มาชื่นชมผลงานนะค่ะ
2 สิงหาคม 2547 20:39 น. - comment id 304648
(o_o) size>
2 สิงหาคม 2547 20:40 น. - comment id 304649
พี่ดอยยังสุดยอดเหมือนเดิมเลยนา.. เพราะสุดจะเพราะ..อิอิ คิดถึงมากนะคับ.. ^_^
2 สิงหาคม 2547 21:04 น. - comment id 304665
โยนิโสมนสิการ (การใช้ความคิดถูกวิธี ) โยนิโสมนสิการ การใช้ความคิดถูกวิธี คือ การกระทำในใจโดยแยบคาย มอง สิ่งทั้งหลายด้วยความคิดพิจารณาสืบค้นถึงต้นเค้า สาวหาเหตุผลจนตลอดสาย แยกแยะออกพิเคราะห์ดูด้วยปัญญาที่คิดเป็นระเบียบและโดยอุบายวิธีให้เห็นสิ่ง นั้น ๆ หรือปัญหานั้นๆ ตามสภาวะและตามความสัมพันธ์แห่งเหตุปัจจัย reasoned attention: systematic attention; analytical thinking; critical reflection; thinking in terms of specific conditionality; thinking by way of causal relations or by way of problem-solving) และเป็น ฝ่ายปัญญา (a factor belonging to the category of insight or wisdom) ภิกษุทั้งหลาย เมื่อดวงอาทิตย์อุทัยอยู่ ย่อมมีแสงอรุณขึ้นมาก่อน เป็นบุพนิมิต ฉันใด ความถึงพร้อมด้วยโยนิโสมนสิการ ก็เป็นตัวนำ เป็นบุพนิมิต แห่งการ เกิดขึ้นของอารยอัษฎางคิกมรรค แก่ภิกษุ ฉันนั้น เราไม่เล็งเห็นองค์ประกอบภายในอื่นแม้สักอย่างเดียว ที่มีประโยชน์มาก สำหรับภิกษุผู้เป็นเสขะ เหมือนโยนิโสมนสิการ ภิกษุผู้มีโยนิโสมนสิการ ย่อม กำจัดอกุศลได้ และย่อมยังกุศลให้เกิดขึ้น เราไม่เล็งเห็นธรรมอื่น แม้สักข้อหนึ่ง ซึ่งเป็นเหตุให้สัมมาทิฏฐิที่ยังไม่เกิดก็เกิด ขึ้น ที่เกิดขึ้นแล้ว ก็เจริญยิ่งขึ้น เหมือนโยนิโสมนสิการเลย เราไม่เล็งเห็นธรรมอื่น แม้สักข้อหนึ่ง ซึ่งจะเป็นเหตุให้ความสงสัยที่ยังไม่เกิด ก็ ไม่เกิดขึ้น ที่เกิดขึ้นแล้ว ก็ถูกขจัดเสียได้ เหมือนโยนิโสมนสิการเลย โยนิโสมนสิการ ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์ยิ่งใหญ่, เพื่อความดำรงมั่นไม่เสื่อม สูญ ไม่อันตรธานแห่งสัทธรรม ฯลฯ ธรรมข้ออื่น ที่ได้รับยกย่องคล้ายกับโยนิโสมนสิการนี้ ในบางแง่ ได้แก่ อัปปมาทะ (ความไม่ประมาท - earnestness; diligence), วิริยารัมภะ (การปรารภความเพียร, ทำความเพียรมุ่งมั่น - instigation of energy; energetic effort), อัปปิจฉตา (ความมักน้อย, ไม่เห็นแก่ได้ - fewness of wishes; paucity of selfish desire), สันตุฏฐี (ความสันโดษ - contentment), สัมปชัญญะ (ความรู้ตัว, สำนึกตระหนักชัดด้วยปัญญา - awareness; full comprehension); กุสลธัมมานุโยค (การหมั่นประกอบกุศลธรรม - pursuit of virtue); ฉันทสัมปทา (ความถึงพร้อมแห่งฉันทะ - possession of will), อัตตสัมปทา (ความถึงพร้อมแห่งตนคือมีจิตใจซึ่งพัฒนาเต็มที่แล้ว - self- possession; self-realization), ทิฏฐิสัมปทา (ความถึงพร้อมแห่งทิฏฐิ - possession of right view), และ อัปปมาทสัมปทา (ความถึงพร้อมแห่งอัปปมาทะ - possession of earnestness) S.V.2-30; A.I.11-31; It.9. สํ.ม.๑๙/๕-๑๒๙/๒-๓๖; องฺ.เอก.๒๐/๖๐-๑๘๖/๑๓-๔๑; ขุ.อิติ. ๒๕/๑๙๔/๒๓๖ เมกขออนุญาตเผยแผ่แผ่ธรรมะด้วยนะครับคุณหมึกมรกต
2 สิงหาคม 2547 21:28 น. - comment id 304689
แต่งได้ดีจังเลย.... ทำได้ไงคะนี่ ว่างๆสอนน้องบ้างนะคะๆๆๆ ดีใจที่ได้เข้ามาชื่นชมงานงามๆนะคะ
2 สิงหาคม 2547 21:29 น. - comment id 304691
สวัสดีค่ะคุณหมึกมรกต.. เมื่อถามว่าเมื่อเขียนเกี่ยวกับพุทธศาสนา น้อยคนนักที่อยากจะอ่าน..ไม่เข้าใจเหมือนกัน ก็คงเป็นเพราะว่าต้องมีความรู้สามชั้นคือ หนึ่ง อ่านไทยแล้วต้องแปลเป็นไทย สอง อ่านบาลี สันตกฤติ แล้วต้องแปลเป็นไทย สาม ต้องตีความจากข้อหนึ่งและข้อสองให้รู้ลึก หากได้ศึกษาธรรมมะมาบ้างคงดี และอีกอย่างหนึ่งคือศาสนาพุทธเป็นศาสนาทีอิสระที่สุดกับข้อปฏิบัติของศาสนิกชน ไม่มีกฎเกณฑ์ ไม่มีบังคับ ความรู้ความกระจ่างจึงแทบไม่มี บางคนไม่เคยเข้าวัด เมื่อเข้าไปแล้วต้องต่อสู้กับสังขารร่างกายที่พับเพียบจนเมื่อยขบ อยู่กับความเงียบวังเวงจนอ่อนล้า จึงไม่มีอะไรมาเป็นแรงจูงใจ อญุ่ที่การปลูกฝังของผู้ใหญ่ที่มีต่อเด็กแล้วล่ะ กอกกก็ไม่ได้เข้าวัดนานแล้ว แต่ได้ทำบุญทั้งทางตรงและทางอ้อมเสมอๆ แค่นี้ก็สุขใจ เหมือนได้ปิดทองหลังพระ ก็รบกวนเนื้อที่แสดงความคิดเห็นจากมุมมองของคนธรรมดาๆ คนหนึ่งเท่านั้นนะคะ เขียนยาวจนลืมชมว่าคุณหมึกมรกตเขียนกลอนได้ดีมากค่ะ อ่านง่าย และไม่ยากเกินที่จะเข้าใจค่ะ ขอบคุณนะคะ
2 สิงหาคม 2547 21:42 น. - comment id 304709
....จักจำความที่ได้......................ธรรมมี ตราบดับลับโลกีย์........................ชีพสิ้น เขียนโคลงบ่งวลี.........................รจน์ร่าย- นอบนา ซึมซาบตราบแดดิ้น....................ดับม้วยมรณา ฯ
2 สิงหาคม 2547 22:34 น. - comment id 304761
งานดีจังค่ะ ................ ลี่...ผู้มาเยือน .
3 สิงหาคม 2547 00:38 น. - comment id 304810
อ่านครับ คุณหมึกมรกต..เขียนดีครับ.. ที่คนอ่านน้อยก็คงเป็นแบบที่ท่านข้างบนให้ความเห็นไว้..เกี่ยวกับปรัชญา วันหลังอาจต้องขอความรู้จากคุณบ้าง แบบนี้ผมยังไม่เคยเขียน...สวัสดีครับ..
3 สิงหาคม 2547 10:22 น. - comment id 304885
คนดี พี่พุดรจนาไว้เรื่องนึงค่ะ ชื่อ *รัศมี...แก้ว..* รอพรุ่งนี้ค่ะจะลงนะคะ และมากระซิบบอกว่า พี่พุดชอบอ่านที่สุด เกี่ยวกับปรัชญาศาสนา จะอ่านซ้ำๆและ จะมีตู้เก็บหนังสือล้ำค่าเหล่านี้ไว้ ใช้เพียรสอน..เพื่อค้นหา..บ้านภายใน ที่จะทำให้..จิตเราเกษมไปชั่วนิจนิรันดร์ค่ะ และขอชื่นชมศรัทธาทุกดวงใจใสล้ำค่าทุกดวง ที่ร่ายรักรจนาสอนให้พบ..ขุมทรัพย์ล้ำค่าแก่นแท้ในตัวมนุษย์ที่ใกล้แสนใกล้ แต่บางที..ภาษาธรรมสำหรับบางคนที่ใช้สอนใจอาจจะฟังยากไปค่ะ เลยสื่อไม่โดนใจนะคะ อย่าท้อจงเพียรรจนาต่อนะคะ พี่พุดจึงจะพยายาม ใช้ภาษาง่ายๆแล้วจะได้โดนจิตค่ะ ด้วยรักชื่นชมศรัทธานะคะ
3 สิงหาคม 2547 12:25 น. - comment id 304954
ฝีมือยังยอดเยี่ยมเหมือนเดิมนะคะ ..แบบว่า..แอบชื่นชม
3 สิงหาคม 2547 12:31 น. - comment id 304959
มาอ่านให้กำลังใจ นะครับ เขียนได้ดีมากเลย
3 สิงหาคม 2547 22:54 น. - comment id 305313
คำที่ใช้แปลกใหม่เตะตาดี น้องหมึกเขียนเรื่องอะไร พี่ว่าคนอ่านอยู่แล้วครับ การเขียนได้หลายหลากมากเรื่องถือว่าเป็นพรสวรรค์ที่แสวงหาได้ยากมากครับ
4 สิงหาคม 2547 00:48 น. - comment id 305364
ถึง พี่ชัยชนะ หมึกมรกต ไม่ได้หมายความว่า แต่งแล้วจะไม่มีใครอ่าน แต่คนไม่ค่อยอยากจะอ่าน เพราะไม่ค่อยสนใจเรื่องธรรมะนะครับ ผลิใบสู่วัยกล้า ขอบคุณสำหรับกำลังใจอันล้นปรี่ครับ มัทนา ขอบคุณครับ พี่พุด กำลังรออ่านอยู่นะครับ ขอบคุณครับ ผู้เฒ่า ขอบคุณครับ ลี่ ขอบคุณเช่นกันครับ ศิษย์พี่ ขอบคุณสำหรับโคลงอันไพเราะครับ กอกก ครับ..ขอบคุณครับ ลูกกวาดสีฟ้า อย่าลืมมาให้สอนแล้วกันครับ :) เมกกะ ดีจังเลยครับ ขอบคุณครับ น้องแพ็ค คิดถึงน้องชายเช่นกันครับ โรเบร์ต ขอบคุณที่มาเยือนกันเสมอๆ ครับ พี่ตูน ขอบคุณครับ
4 สิงหาคม 2547 03:00 น. - comment id 305414
ที่บอกว่าคนอ่านไม่ค่อยมีไม่จริงครับ คุณแต่งได้ละเมียดละไมมาก ภาษา คำเหล่านี้แสดงถึงความไม่ธรรมดาในตัวคุณ ผมชอบครับกลอนบทนี้ของคุณ อยากแต่งให้ได้อย่างนี้ถ้าแต่งได้คงเข้ามาเขียนทุกวัน ขอบคุณครับสำหรับกลอนดีๆของคุณที่มอบให้ทุกคนอ่าน
4 สิงหาคม 2547 20:12 น. - comment id 306059
งดงาม..ในคำสัมผัส ..มากเลยคะ.. พี่ชาย.. สื่อ ..ความหมาย .. ในบทกวี .. ได้มีคุณค่า..มากนะคะ.. เรนไม่รู้ ..พี่ชายเขียน..ได้งัยนะคะ.. เรน..อิจฉาจัง...
4 สิงหาคม 2547 23:04 น. - comment id 306218
ธรรมรสมีมากหลากหลายรส ธรรโมสถดื่มด่ำล้ำสมัย จงเลือกใช้จำเพาะเหมาะกับวัย แล้วจะได้ประโยชน์ไร้โทษเอย
5 สิงหาคม 2547 01:43 น. - comment id 306288
สำหรับผมอ่านได้ทุกแนวขอรับ และชื่นชมผลงานของคุณอยู่เสมอๆ แวะมาชื่นชมผลงานยามดึกขอรับ : )
5 สิงหาคม 2547 23:48 น. - comment id 306997
ขอบคุณ สันโศก น้องเรน pheem เมจิคเซียน ที่มาร่วมรับหลักปรัชญา แห่งชีวิตครับ
6 สิงหาคม 2547 19:36 น. - comment id 307580
ขอแค่มาเยือนและชื่นชม แวะเวียนเอ่ยคำชม อยากเก่งอย่างนี้บ้างจังคะ
15 มกราคม 2548 14:00 น. - comment id 406453
:)