เคยบ้างไหมที่ฝังใจกับบางสิ่ง ที่ความจริง มิอาจทำ ให้ลืมได้ จึงปลดปล่อย ท่วงทำนอง ของหัวใจ บรรเลงใส่ อรรถรส ในบทกลอน ทั้งความสุข ความเศร้า ความเหงา..รัก อุปสรรคที่มากมายเกินไถ่ถอน โอดครวญมา ตามแต่ใจ จะเว้าวอน ร้อยอักษร เรียงประพจน์ บทกวี ความผูกพัน พันผูก พันธะสาย มิเคยคลาย กับโคลง, กลอน อักษรศรี อีกฉันท์,กาพย์ จึ่งซึมซาบ อาบฤดี ตามวิถี แต่ละท่านจะพรรณนา อนึ่งนั้น นักเขียน เป็นแสนง่าย ไม่มากมาย แค่หนึ่งเรื่อง เฟื่องศึกษา แต่งดีบ้าง พอใช้บ้าง ตามปัญญา ก็ไขว่คว้า ดาวเด่น ได้มากมาย แต่นักเลง กาพย์กลอน อักษรสวรรค์ แม้เขียนกัน เกลื่อนกระทู้ ดูหลากหลาย ช่างยากนัก เป็น กวีอย่างเต็มกาย ด้วยความหมายของกวี หลากลีลา ทางยังไกลไขว่คว้าไปหาเถิด เราคงเกิดเป็นดาวบ้างกลางฟากฟ้า วิถีทางสายกวี..คลี่ปรัชญา จารึกมา เป็นคำกลอน สอนใจคน ทางยังไกล ไม่เดินไป คงไม่ถึง ถ้ารีบบึ่ง เร็วไป อาจสับสน ค่อยฝึกปรือ ฝีมือ อยู่คู่ตน ทางมืดมน จะสว่าง... ณ กลางใจ
4 เมษายน 2547 00:02 น. - comment id 241129
เคยซิจ๊ะที่ฝั่งใจกับบางสิ่ง แล้วก็ถ่ายทอดจริงให้พบเห็น กับบทกลอนบางบทที่จำเป็น แต่ส่วนใหญ่ที่เห็นมิใช่เรื่องจริง *-*กลอนไพเราะมากๆๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ ชอบมากๆๆๆๆๆๆเลยนะค่ะ แต่งเก่งจัง*-*
4 เมษายน 2547 12:05 น. - comment id 241216
..กลอนไพเราะมากเลยค่ะ... ชื่นชมจริงๆๆๆ.. แวะมาทักทาย..และ.. ...เป็นกำลังใจให้นะคะ..