ไร้นิมิตทิศทางอย่างแน่ชัด หมุนไปตามวงวัฏฏสงสาร ตามกระแสบุญบาปอาบดวงมาน ปฏิสนธิวิญญาณไม่ถ้วนดวง พเนจรรอนแรมแซมตามภพ ไม่รู้จบชีวิตนี้ที่แหนหวง หอบกิเลสติดตามมาลามลวง เป็นแรงถ่วงจำจองดองนที เพียงพริบตาคลาคลาดปราศหายใจ ทอดร่างไว้ให้เห็นว่าเป็นผี มองโลกได้ไม่นานสักกี่ปี จรลีเข้าไฟในกองฟอน ต้องเตร็ดเตร่เร่ไปในอีกภพ ไม่รู้จบดับจิตนิมิตหลอน ปุถุชนคนใคร่ใฝ่นิวรณ์ พเนจรเรื่อยไปในภพภูมิ
11 กันยายน 2546 06:26 น. - comment id 166872
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=373 บัวขาว สวลี ผกาพันธุ์ : : Key Eb เห็นบัวขาว พราวอยู่ ในบึงใหญ่ ดอกใบ บุปผชาติ สะอาดตา น้ำใส ไหลกระเซ็น เห็นตัวปลา ว่ายวน ไปมา น่าเอ็นดู หมู่ภุมริน บินเวียนว่อน ลอยร่อน ดมกลิ่น กลิ่นเกสร พายเรือน้อย คล้อยเคลื่อน ในสาคร ค่อยพาจร ห่างไป ในกลางน้ำ หมู่ภุมริน บินเวียนว่อน ลอยร่อน ดมกลิ่น กลิ่นเกสร พายเรือน้อย คล้อยเคลื่อน ในสาคร ค่อยพาจร ห่างไป ในกลางน้ำ...
11 กันยายน 2546 06:30 น. - comment id 166874
ธรรมดา นรชน..ปนแซมโลก เรื่องทุกข์โศก...ได้ประจักษ์...รักเลือนเร่ ตายแล้วเกิด....ส่งสายใย.....ให้ไกวเปล แม่กล่อมเห่..โตแล้วตาย...ใช้บุญ..กรรม
11 กันยายน 2546 07:59 น. - comment id 166888
พเนจร เร่ร่อน ย้อนตามวัฏ ไม่เคืองขัด บางครา พาพบเศร้า มุ่งหน้าก่อ สานต่อดี ชีวีเรา หวังบรรเทา เรื่องเลวร้าย กลับกลายดี
11 กันยายน 2546 11:02 น. - comment id 166920
อ่านบทนี้ทำให้นึกประหวัดไปถึงเรื่อง เปรตรวัดสุทัศน์ที่เพิ่งจะลาจอแก้วไปไม่นาน บทเพลงประกอบละครเรื่องนี้ บันดาลหัวใจอย่างมาก ตั้งใจว่าจะเขียนเป็นบทกวีนำมาประโลมหัวใจกัน นะครับ อีกหน่อยคงได้อ่านกัน ความจริงที่จีรังยั่งยืนคือ เกิดแก่เจ็บตาย ที่สัตว์โลกหนี้ไม่พ้น จึงต้องยอมรับอย่างเต็มใจ
11 กันยายน 2546 12:15 น. - comment id 166951
พเนจรตามวิถีแห่งวิญญาณ์ นรกาหลากถูมิแก่งแย่งขัน พเนจรเร่ร่อนถ้วนทุกพันธุ์ ไม่มีกั้นพรหมแดนของภพภูมิ
11 กันยายน 2546 22:04 น. - comment id 167075
ไร้นิมิตทิศทางอย่างแน่ชัด ต้องเซ่ซัดรอนแรมไปทุกที่ ไม่ว่าป่าไม่เขาหรือพงพี ไม่มีที่ให้ฉันอยู่แล้วหรือไร ***กลอนแบบนี้แจมลำบากค่ะ ฉะนั้นถ้าผิดพลาดก็โปรดอภัยให้ด้วยแล้วกันนะค่ะ***
11 กันยายน 2546 22:21 น. - comment id 167087
@...น้องพุด... ขอบคุณสำหรับเพลงเพราะๆและความหมายที่งดงามนะคะ บัวขาวพราวบึง หมู่ผึ้งหมายดอม เพียงไล้ความหอม มิอาจน้อมบัวจากบึง
11 กันยายน 2546 22:24 น. - comment id 167091
@...tiki... ต่างกำเนิดเกิดแล้วไม่แคล้วพราก ถึงคราจากเมื่อเป็นเห็นกันได้ ถึงคราจากเมื่อสงบพบความตาย ไม่มีเลยสักรายไม่จากกัน ขอบคุณมากนะคะน้องทิกิ
11 กันยายน 2546 22:30 น. - comment id 167096
@...ชัยชนะ... กระทบธรรม..ยิ่งทำกรรม ..ให้ซ้ำซาก จึงไหลหลากผลตามถามเจ้าของ คือวงวัฏฏ์ตัดไม่พ้นจนเนืองนอง ชีวิตต้องเวียนไปในภพภูมิ อิอิ...ทำกรรมแล้วก้ต้องรอรับผล วนเวียนไปเรื่อยๆทั้งดีและชั่วค่ะ
11 กันยายน 2546 22:37 น. - comment id 167102
@...บุรุษแห่งสายน้ำ.. ขอบคุณนะคะที่แวะมาอ่าน และจะรอบทกวีอันเนื่องมาจากเปรตวัดสุทัศน์นะคะ ..
11 กันยายน 2546 22:43 น. - comment id 167108
@..น้องจ๋า.. ไปมาแล้วทุกถิ่นทั้งอินทร์พรหม ทั้งจ่อมจมอเวจีที่เร่าร้อน เบื้องอบายก็เคยไปในคราวก่อน หากหมายรอน..ต้องตัดใจไม่สร้างเวร
11 กันยายน 2546 22:48 น. - comment id 167114
@..ผู้หญิงไร้เงา.. การไปสู่ภพใหม่อาศัยกรรม ที่กระทำผ่านมาพาเคลื่อนไหว เหมือนสร้างบ้านล่วงหน้าไว้ในใจ เมื่อชีวิตสิ้นไปได้เวรคืน ..ขอบคุณนะคะที่มาแจมด้วยความตั้งใจ เป็นบทที่ดีมากค่ะ ..เข้ากันได้