ร่อนเรพเนจร แรมรอน เหินห่าง ร้างถิ่น ดั้นด้น กันดาร แดนดิน โบยบิน สู่ฟ้า คว้าดาว เธอเจ็บปวด.ฉันก็ใช่จะไม่เจ็บ เธอหนาวเหน็บ.ฉันก็ใช่จะไม่หนาว ลองไถ่ถามความรักดูสักคราว ใจที่เคยรวดร้าวคงเข้าใจ ดาวดวงนั้นใช่ไหมเธอใฝ่ถึง สักวันหนึ่งจะคว้าฝันนั่นใช่ไหม รู้ทั้งรู้ระยะทางยังยาวไกล จะฝ่าฟันมาให้ได้ในสักครั้ง จะท้อถอยคอยชะตาอย่างนี้หรือ แพ้ต้นมือ--หรือลองสู้ดูสักตั้ง จะแปรเปลี่ยนอุปสรรคเป็นกำลัง หรือจะฝังร่างตนอย่างคนแพ้ พายุกรำกระหน่ำโหมเข้าโถมถั่ง มิอาจหยุดฉุดรั้งผู้แน่วแน่ เปรียบทะเลผันผวน ฟ้าปรวนแปร บททดสอบ มอบแด่.คนสู้ทน ระยางโยงรุ้งพาดสายจากปลายฟ้า คือรางวัลผู้หาญท้าพายุฝน รวงรุ้งงามคือความหวังพลังชน จึงดิ้นรน จึงค้นหา จึงท้าทาย เกิดเพื่อดับ..ระหว่างนี้คือ ชีวิต ต้องรู้คิด มือต้องปีน ตีนต้องป่าย จงยิ้มสู้ จงหยัดยืน ฝืนใจกาย สู่จุดหมายดวงดาราบนฟ้านั้น มนุษย์ทุกคน ล้วนเดินทาง แตกต่าง มีทุกข์ มีสุขสันต์ เก็บเกี่ยว ประสบการณ์ แห่งวารวัน ตักตวงฝัน อันเรืองรอง ของชีวิต แดดหรือฝน สูงหรือต่ำ ดำหรือขาว สั้นหรือยาว คดหรือซื่อ ถูกหรือผิด เลือกเส้นทาง ก้าวต่อไป อย่างใจคิด แล้วลิขิต ดี-ชั่ว ด้วยตัวเอง
30 สิงหาคม 2546 22:22 น. - comment id 164488
จะไม่ท้อรอรับกับโชคชะตา จะไม่รอวันเวลาให้ผ่านผัน จะลุกขึ้นสู้เหมือนผู้รู้ในทุกวัน เพื่อให้ถึงที่ฝั่งใฝ่อย่างที่ฉันได้ตั้งใจ ***งานกลอนอย่างนี้ไม่ต้องทนอ่านหรอกค่ะ เพราะความหมายและเนื้อความอ่านแล้วชวนให้อ่านจนจบเลย ความหมายดีมากๆๆๆๆๆๆเลยด้วย สมแล้วค่ะที่ได้ลงหนังสืออนุสรณ์ของโรงเรียน***