วัฏจักร์ผลักดันผันชีวิต ไปตามทางลิขิตและความฝัน มีจุดเริ่มเติมแต่งแห่งชีพชั้น ให้มุ่งมั่นตามบทกำหนดมา จากวัยเยาว์เข้าวัยผู้ใหญ่ยิ่ง หลายหลายสิ่งมอมใจให้โหยหา ทั้งลาภยศสินทรัพย์นับเงินตรา เข้าสู่วัยชราไม่ดูตน ลืมความจริงสิ่งรอบข้างอย่างมืดมัว ความพลัดพรากมีทั่วไปทุกหน ความเปลี่ยนแปลงก็แจ้งทุกตัวคน ไม่มีใดคงทนนิรันกาล ใบไม้ร่วงควงลิ่วปลิวจากต้น ใบอ่อนปนหล่นไปในลานบ้าน หาใช่เพียงใบแก่ที่ร้าวราน ปลิดปลิวใบจากก้านได้อย่างเดียว ตะวันขึ้นแล้วลับกลับถิ่นที่ ครั้นบางทีเมฆบังรั้งรอยเสี้ยว ให้ลับหายก่อนเวลาคราลดเลี้ยว หมดสิ้นเรียวรัศมีก็มีมา หาสิ่งใดเป็นไปอย่างยืนยง ชั่วพริบตาดับลงไปต่อหน้า ทุกทุกสิ่งต่างมีไตรลักษณา เป็นผู้กุมชะตาที่แท้จริง
23 มิถุนายน 2546 15:29 น. - comment id 149122
ชีวิต ..เป็นอย่างนี้จริงๆ ....
23 มิถุนายน 2546 23:58 น. - comment id 149254
สรรพสิ่งทั้งหลาย ย่อมเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป เป็นธรรมดา
26 มิถุนายน 2546 07:36 น. - comment id 149689
สุรีย์ศรี รุ่งสาง กลางตะวัน เย็นยามค่ำ ลาแสง จางจากหาย เหล่าฝูงสัตว์ ใหญ่น้อย หากินสบาย ราตรีขจาย หลับนอน ผ่อนกายเบา สรรพสัตว์ วนเวียน วันคืนลับ จนเมื่อกลับ หลับใฝ่ ฝื้นไม่เห็น ทนช้ำชอก น้ำตา ส้านกระเซน มืดมาเกิด ทนเข็น มืดจากลา เสียงแม่แว้ว หวานขาน ไขใจให้ ยลยินใน ใสแสง ส่องทางสวรรค์ ฟังแล้วลืม ไม่ลง ปลงสงบพลัน สติตรองมั่น ติดตาม ตนตลอดไป ใบไม้ม้วน รวมร่วม สายน้ำไหล หัวใจใส ม้วนรวม ธารธรรมไสว เกลียวกลมกอด ไกวกวัด พิพัฒใจ หลั่งธรรมให้ แผ่นดิน ถิ่นเกิดมา อิอิ เขียนได้ไม่เบื่อเลย ลาไปทำงานนิ สายมาอีกนะ
28 มิถุนายน 2546 15:21 น. - comment id 150140
ความสุขใจเสียใจอยู่ในจิต ต้องพินิจให้เป็นเห็นเหตุผล มองความจริงถูกต้องของจิตตน มองสูงพ้นความเปลี่ยนแปลงแห่งอารมณ์ ใจมองสูงเห็นรูปนามความเปลี่ยนแปลง ทุกสิ่งแต่งปรุงจิตคิดผสม ทั้งโศกเศร้าสดชื่นความรื่นรมณ์ ใจต้องชมมองเห็นเป็นสามัญฯ. ให้ความหมายดีมากแต่อย่าไปหวั่นไหวกับความเปลี่ยนแปลงเพราะมีแต่ทุกข์และสุขไม่มีจิรังแน่นอนฯ