.....ตะวันโรยโปรยแสงแฝงรอยเศร้า ดูเงียบเหงามัวหม่นทุกหนแห่ง ความกระจ่างจัดจ้ามาอ่อนแรง ความเข้มแข็งคลอนคลายสลายลง ...สายนทีรี่ไหลไปเรื่อยเรื่อย สวะลอยเรื่อยเปื่อยราวใหลหลง สายธารามีขึ้นและมีลง สวะยังอยู่คงเพื่อล่องลอย ...สายลมพัดแกว่งกวัดใบไม้ไหว อาจปลิดปลดบางใบร่วงลงผล็อย หรือปลิดดอกปลิดผลช่อน้อยน้อย ให้ล่องลอยหล่นล่วงควงลงดิน ...มองท้องฟ้า ใบไม้ และสายน้ำ ล้วนมีความเปลี่ยนแปรไม่สุดสิ้น ใจก็ปรุงไปตามที่ยลยิน และตัดสินไปตามความหมายปอง ...ใบไม้หล่น..บางคน...มีความสุข บางคนทุกข์...เสียดาย..ใบไม้หมอง เศษสวะ..มากมาย...ลอยในคลอง บางคนมอง..ว่าสวย...ช่วยทิ้งเติม ....คราอาทิตย์..อัสดง..ลงขอบฟ้า บางคนว่า..ช่างสุขใจ...ได้สร้างเสริม บรรยากาศ..ตามแสงไต้...และคบเพลิง ดูร่าเริง..ก่อกองไฟ...ได้ชีวา ...บางขณะของชีวิตคิดเช่นนั้น พอเปลี่ยนวันก็เปลี่ยนไปไม่หรรษา บางขณะ...ของคนที่มีปัญญา จึงรู้ค่าความเปลี่ยนไปในเปลี่ยนแปลง
20 พฤษภาคม 2546 08:52 น. - comment id 139539
เป็นสภาวะ *บางขณะ*แท้เทียว มีแจม **รู้ค่าความเปลี่ยนไปในเปลี่ยนแปลง** รู้สึกหิว ทานข้าว เปลี่ยนเป็นอิ่ม รู้สึกอิ่ม กินของหวานไม่มีสอง รูปที่สวย ถูกใจ ตาจองมอง เป็นสังขาร ที่ต้อง อนิจจัง รู้สึกดี ที่ใจ ใสใสแท้ รู้สึกแย่ ที่ใจ ใส่ใจเคล้า รู้สึกกาย ใจใส เบาเบา รู้เขารู้เรา เฝ้าดูรู้ ความเปลี่ยนไป ในเปลี่ยนแปลง เขียนตามอารมย์ ผิดพลาดขออภัย ความเปลี่ยนแปลงด้วยนิ
20 พฤษภาคม 2546 11:44 น. - comment id 139554
ข้อคิดที่ได้จากบทประพันธ์ของคุณ ณ รังษี ปรากฎชัดเจนตามบทกวี หยับยกเอาสิ่งไกล้ตัว มารังสรรค์คำได้กินลึกในหัวใจ หาตัวเปรียบยาก นี่แหล่ะ พรสวรรค์ของคนกวี ด้วยชื่นชมครับ
20 พฤษภาคม 2546 14:09 น. - comment id 139600
ความเปลี่ยนไปในเปลี่ยนแปลง เสียงสีแสงขยับไหว ทุกสรรพสิ่งย่อมเปลี่ยนไป ไม่ห่างไกล อนัตตา
20 พฤษภาคม 2546 19:02 น. - comment id 139652
ดวงอาทิตย์ อัศดง ลงขอบฟ้า ดวงจันทรา ส่องสว่าง กลางฟ้าใส ครั้นรุ่งราง สร่างแสง อโณทัย ต้องจากไกล ศศิธร จรจำลา วัฎจักร แห่งโลกเห็น เป็นเช่นนี้ เกิดแตกดับ นั้นย่อมมี ให้ศึกษา อยู่ที่ใจ ต้องเร่งเพียร สร้างปัญญา เพื่อชีวา ได้หลุดพ้น กงเกวียนกรรม....ฯ ไพเราะและให้ข้อคิดที่ดีมากค่ะ..ขอชื่ชชมด้วยใจจริงค่ะ...
20 พฤษภาคม 2546 22:00 น. - comment id 139693
แจมงามนิ ทะเลรับแสง ฟ้าใสให้ครามสวย ทะเลแปรหม่นมวย ด้วยฟ้าหมอง ทะเลเขียวขจี ฟ้าสดใสรวีทอง ทะเลดำคล้อง อาทิตย์แดงจมดิ่งลง สรรพธรรมาแปรเปรี่ยนอานัตตา หมุนเวียนกว่าสังขารอนิจจัง สบทุกข์ลุกเร้าสังขารพัง ใจใสหวังพ้นกงกรรมเอย
20 พฤษภาคม 2546 23:18 น. - comment id 139715
สรรพสิ่งไม่จีรังอย่ายั้งถือ เกิดดับคือความจริงทุกสิ่งสรรพ์ เสื่อมชราล่วงไปทุกคืนวัน มีเพียงภาพมายานั้นว่าคงทน ความเปลี่ยนแปลง จึงเปลี่ยนไป ไม่สิ้นสุด ไม่ยั้งหยุดวัฎฎะกรรมทำเหตุ-ผล คนรู้ค่าเพียงเฝ้าดูรู้เล่ห์กล พบไตรลักษณ์จักพ้นกลกงกรรม @ความรู้สึกเปลี่ยนไปเรื่อยนะครับน้ำ.... ไม่รู้จักพอ ..ไม่รู้จักสิ้นสุด.... ชัดมากครับกับลำดับความเปลี่ยนแปลง ทั้งชีวิตและธรรมชาติ... @ขอบคุณครับ..ลำน้ำน่าน.... กรุณาชี้แนะด้วยนะครับ @ใช่ครับ ทุกสรรพสิ่งย่อมเปลี่ยนแปลง....ขอบคุณมากครับ ..ฤกษ์ @อยู่ที่ใจต้องเพียรสร้างปัญญา เพื่อชีวา ได้หลุดพ้น กงเกวียนกรรม..ฯ ขอบคุณมากครับ ..ราชิกา
21 พฤษภาคม 2546 00:51 น. - comment id 139730
ชีวิต.ล้ำค่า.. ค้นหา..ถูกต้อง.. ก็แค่.อยากลอง.. กองไฟ.ลุกโชน.. เจิดจ้า.. ฉันท้า..สู้คน.. ฝ่าแดด..ลมฝน.. อดทน..ด้วยใจ.. ร้อนแรง.. ทดแทน..พ่อให้.. สูญเสีย..วันใส.. ก้าวใหม่..มั่นคง.. มากมาย.. ฉันได้..เมื่อล้ม.. กับค่า..ของคน.. ฉันค้น..ความหมาย.. ..เรน..ขออนุญาต..แจมนะคะ.. ..กรุณา..แนะนำ..เรนด้วย.. แบบว่า.. เรนแต่ง..ยังไม่ดี.เลยค่ะ.. แต่..เรนกล้า..ที่จะโพส..ลงที่นี่.. ก้อ..คุณ..บอกเรน.. เรา..เป็นเพื่อนกัน... ...z zz z z
21 พฤษภาคม 2546 06:27 น. - comment id 139740
อรุณสวัสดิ์ครับคุณเรน... .....ใช่เลยครับ..... .....เราเป็นเพื่อนกัน..... ขอบคุณที่วางใจ ขอบใจที่มาวางอักษร ....ณ.ที่นี้..ที่ณรังษีไงครับ
21 พฤษภาคม 2546 21:30 น. - comment id 139878
เรน..ตื่นสาย..แย่จัง.. แบบ..ตื่นไม่ทัน..นะคะ. ..บทกวี..ของคุณ.. ทำให้เรน..แต่งของเรนได้.. อีกครั้ง. ..บทกวี.. ที่เป็นฝัน..ของเรน.. ...ขอบคุณค่ะ..