ทะเลใจ (ตอนที่6 คนตรีแห่งรัก)

พิราบสีขาว

( ปฐมบทนำทะเลใจ)  
          มหาสมุทธว่าลึกสุดหยั่งถึง            แต่ที่ซึ่งลึกกว่าคือทะเลใจ
เป็นที่ซึ่งวกเวียนมาวกเวียนไป            ไม่มีใครยากแท้ที่จะหยั่งถึง
กระแสน้ำช่างเชียวเป็นเกียววน            ช่างสับสนหมุนเวียนเปลี่ยนคะนึง 
พลาดพลั้งตกไปไม่อาจที่จะดึง           แต่ไม่จมถึงก้นบึ้งแห่งทะเลใจ
(บทสอง ไม่มีใครรู้ใจเราเท่าตัวเราเองหรอกนะ)
  
แม้ว่าใครมีรักสมัครสมาน                 มิเคยคราน  รักซึ้งเป็นไฉน
ขอจงรักแต่อย่าไปปักใจ                  เพราะเกียวไหลทะเลใจมันเชี่ยววน                                                                            
เกิดเป็นคนควรคิดให้แยบยน            อย่าหลงกลคำหวาน แห่งวิญญูชน
เพราะความจริงที่ค้นคือใจตน           มิมีใครหนีพ้น ผลกรรมที่ทำมา          
(บทสาม   อย่าเสียน้ำตาให้อดีต)
จงกระทำจิตแห่งใจให้ผุดผ่อง            อย่ามัวมองอดีตที่ไม่ย้อนคืนมา
คิดขึ้นมาทีไรมีแต่ช้ำเสียน้ำตา               อย่ามองหาทะเลใจ  มองไม่เห็น
จงเป็นตัวของตัวเองดีกว่า                 อย่าไปหาทะเลใจของใครให้ยากเย็น
ควรทำในสิ่งที่ดีที่ควรเป็น                    อย่าเป็นเช่นทะเลใจที่ยากหยั่งถึง
(บทสี่  คุยเรื่องเศรษฐกิจไทยกับทะเลใจ)   ตามพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง
ถึงความพอเพียงในเรื่องสันโดษ           ไม่อยากโทษว่ายุคนี้ต้องแข่งขัน
ทุกเวลานาทีมีค่า    ช่างสำคัญ               มีใครกันเห็นคุณค่า ความเพียงพอ
ต่างทำตามค่านิยมอันสิ้นเปลือง             ไม่เคยเรื่องประหยัด เลยร้องขอ
เศรษฐกิจจะดีคนไทยต้องรอ               อย่าเพิ่งท้อเป็นเหยื่อทะเลใจของนายทุน  
(บทที่ห้า  เรื่องของห้วงแห่งทะเลรัก)
เบียงบังบทเบี่ยงเรื่องความรัก                 ได้ประจักษ์พบรักปักห้วงใจ
ไม่มีใครหลีกพ้นคนรักได้                       เหมือนเรือใหญ่ลอยคว้างกลางทะเลใจ
หลายหลากอารมณ์แห่งมรสุม                   ถาโถมรุมเททุ่มขุมแห่งดวงใจ
เปรียบดั่งไฟเผาเร้าร้อนปอนไหม้            ไม่มีใครต้านทะเลรักหักอุรา 
(บทที่หก  ดนตรีแห่งรัก)
 เรียกเรียกเพียกเพียงเสียงสำเนียงรัก         สุดตระหนักหักห้ามใจไหวหวั่น
เรียบร้อยทำนองเพลงเป็นหมื่นพัน                มาพรรณนารักนั้นพรั่นพึงใจ
เสียงบรรเลงแผวพริ้วจนทิวไหว                    เสียงดนตรีใจ ให้ไว้ในรักแท้
แสงยานุภาพแห่งรักมิอาจแก้                         มิอาจแพ้ความใคร่ได้ลุ่มหลง				
comments powered by Disqus
  • พิราบสีขาว

    17 เมษายน 2546 10:53 น. - comment id 127278

    เสียงเพลงบรรเลงแผวพริ้วยามทิวไหว
    เหมือนกับใจไหลไปไม่กลับคืน
    หลับตาฝันครั้งพรันยามตื่น
    ไม่เห็นเธอยืนเคียงข้างหม่นหมองใจ
  • วิจิตร ภู่เงิน

    17 เมษายน 2546 18:47 น. - comment id 127475

    ....ไอ้เราก็คิดว่า...  พี่แอ๊ดคาราบาวมาเปิดคอนเสิร์ต...  ที่ไหนได้ก็คอนเสิร์ตของคุณจิ้งหรีดขาวนี่เอง...  แฮ่ๆ...พิราบสีขาวๆ  ต่างหากละ...  หม้วนหลายเด้อ!
  • พิราบสีขาว

    18 เมษายน 2546 00:18 น. - comment id 127654

    ไม่ได้เปิดคอนเสิร์ตแต่เปิดใจ555555555.......

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน