มืดสลัวกลัวใจไฟยังจ้า เสียงฟ้าผ่าซ่าซัดลมพัดหวน ฝนไม่โปรยเพราะโรยแรงทนทบทวน เสียงแห้งครวญฟืนฟางครางกลัวเพลิง หนึ่ง, ไม้ตายกลางป่ามาตามกล้า ซับเสียงพร่าคร่าครื่นครืนหื่นพนเหลิง ดินแตกเปลือกเลิกลอกออกเอิกเริง เสียงเปรี้ยงเปิงเสี่ยงเสียดฝ่าลงดิน สอง, ไม้ไหม้เพลิงลุกปลุกนรก หญ้าที่ปกหกท้องป่าห่าทุ่งปลิ้น ไฟมอดหล้าฟ้ามาตรใหญ่ใฝ่เมินหิน เสียงแซ่เซ็งนินนาทแน่จะลาม สาม, เกลื่อนแสงเลงร่วงรุ้งโกเมนเพชร อัคคีเล็ดรุกล่วงโชติเขตขาม ถ่านเชื้อดำนำแดงแรงช่วงตาม เสียงตอช้ำวิทาลน์วากนภา สี่, เกินดับอัคนิรุทรในป่าใจ ไฟ - ฟืน - ไพร รวมเป็นเถ้าลอยเวหา เผาเป็นเสี่ยงละลายหมดมนตรา เสียงวายุปะโล่งเตียน...ไม่เหลือรอย อัคคีใจหม่นไหม้ โลภะ นำเฮย อวัสถาโมหะ หลีกได้ หลงผิดลุโทสะ จักครอบ งำนา เพลิกลุก, ฟืนเลี่ยงไร้ อย่าให้ใส่เติม
8 เมษายน 2546 13:24 น. - comment id 123836
แต่งเก่งนะ แต่ให้ตอบเป็นกลอนตอบไม่ถูกค่ะ ***แวะมาทักทาย***
8 เมษายน 2546 14:37 น. - comment id 123859
ชื่นชมค่ะ
9 เมษายน 2546 07:18 น. - comment id 124217
กลอนใจใช้ใจเขียนนิ
9 เมษายน 2546 07:18 น. - comment id 124218
กลอนใจใช้ใจเขียนนิ
11 เมษายน 2546 13:02 น. - comment id 125409
ขอบคุณทุกๆคนครับ ไม่ต้องตอบเป็นกลอนก็ได้ครับคุณผู้หญิงไร้เงา ผม...บางทีเหมือนคนเก็บกด ชอบคิดว่าตัวเองมีทุกข์หนักหนา ก็เลยแต่งแต่กลอนแบบว่าออกเครียด (จริงๆแล้วเรียนหนักจนปวดประสาท) ได้แบ่งปันความหนักอกก็เหมือนได้เยียวยา จากการแต่งกลอนนี่ล่ะครับ วันหลังผมจะลองแต่งกลอนแบบเบาๆ น่ารักบ้าง...