สูงนั้นสรรค์หนาวสาวไหน ขุนเขาใครใคร่ไขขาน ดิ้นรนดลร้อนดอนราน ไต่ร่านต้านรกตกลง มุ่งหน้ามาในไม่แน่ ร่อแร่ลุกไล่ไหลหลง ปุ่มป่ำปล้ำไปไป่ปลง มั่นคงม่งขั้นหมั่นคลาน คำเว้าเขาว่าค่าว่อน กระชอนกลายฉับกลับฉาน ได้แท่นแดนไท้ใดทาน พิมานผ่านมาพ่าห์เมือง เหนือคนนนท์ครองนองคราบ ใต้ราบตอดหล้าตาเหลือง เหนือใครในคิดนิดเคือง อาจเขื่องเอื้องเคี้ยวเอี้ยวคม เป็นหนึ่งปึ่งนรป้อนนั่ง อิ่มพลั่งอังก์พรอ่อนผม ขึ้นฉิวคิ้วชอนค่อนชม เหยียบจมยมจู่ยู่ใจ จึงใครใจคิดจิตครุ่น มานมุ่นหม่นหมองมองไหม หมายเพียงเมียงเพื่อเมือไพ ตีไรไต๋ร่ำตำลึง ปิดตาป่าตั้งปังสุ์ตับ ไม่เห็นเหม็นหับหมับหึง ใครสวนควนสูขูซึง รำพึงรึงพร่ำรัมย์พัง เขาบ่นข้นบ่มคมบาก ยิ้มฝากอยากใฝ่ไย่ฝัง เขาบอกคอกบ้าค่าบัง เขาเบื่อเคื้อบั้งขังบอ ไปสูงปรุงแสร้งแปลงเส สามัญสรรค์เมเซหมอ กระท่อมกล่อมทักกักทอ เรียบง่ายไร้งอร่องาม ภาพตัดพิมพ์แต่งแพร่งไต่ ตรงข้ามต่างใคร่ไต่ขาม ขึ้นลงคงลับขับราม คุกความคิดคล้องครองคน/.
30 มีนาคม 2546 06:20 น. - comment id 120333
อ่านสองเที่ยวแล้วยังไม่รู้จะเขียนไงดีเลย
30 มีนาคม 2546 08:59 น. - comment id 120350
๕๕๕ สองเที่ยวครึ่งค่ะ สำหรับอัลมิตรา ..
30 มีนาคม 2546 10:29 น. - comment id 120393
นั่นสิค่ะ.. ว่าแต่อย่างนี้..เค้าเรียกอะไรคะน้าราม มี 6 คำ มีสัมผัส..สระ.. สอนรุ่นน้องอีกที..คงไม่เบื่อนะคะ แจมชอบที่จะเรียนรู้อ่ะค่ะ.. หลายบทที่เขียนได้พักหลัง พยายามความรู้ที่น้า, น้าม้าก้านกล้วย, พี่สดายุ.. และน้อง ๆ หลายคนอธิบายนี่แหละค่ะ ขอบคุณที่มีงานดี ๆ ให้อ่านเสมอ ...
30 มีนาคม 2546 19:42 น. - comment id 120539
สวัสดีครับคุณฤกษ์ ชัยพฤกษ์, คุณอัลมิตรา, คุณสีน้ำฟ้า ความจริงตั้งใจจะเล่าเรื่องการสูงสุดคืนสู่สามัญ อย่างที่พบนิยายกำลังภายในน่ะครับ คิดไปคิดมาอีกทีก็อยากจะเขียนยิ้มเย้ยยุทธจักร ไปๆมาๆไม่สมกับที่ตั้งใจ กลับออกมาอีกแบบหนึ่งนี่ล่ะครับ รูปแบบที่ใช้เป็นกลอนหกครับ งานเก่าๆที่จะรู้จักกันดี รู้สึกจะเป็น สามกรุง ของ น.ม.ส. ครับ (จำผิดหรือเปล่าไม่รู้นะครับ) ตอนเขียนพยายามใช้สัมผัสอักษรเป็นหลัก ถ้าหลอมรวมกับสัมผัสสระได้ด้วยก็ยิ่งดี ( ความจริงสัมผัสมาตรฐานเป็นสัมผัสแบบกลอนแปดตามปกตินะครับ) จะยุ่งยากนิดนึ่งตอนตรวจสอบศัพท์กับพจนานุกรม (แต่ถ้าใช้พจนานุกรมคอมพิวเตอร์จะสะดวกกว่าแบบหนังสือมาก เพราะเราไม่ต้องเปิด เครื่องคอมฯจัดการให้) เล่าให้ฟังได้ไม่ปิดบังหรอกครับ ยกตัวอย่าง... เขาบ่นข้นบ่มคมบาก ยิ้มฝากอยากใฝ่ไย่ฝัง เขาบอกคอกบ้าค่าบัง เขาเบื่อเคื้อบั้งขังบอ จะสังเกตว่าสัมผัสสระจะอยู่ที่ คำที่ 2-3 และ4-5 สัมผัสอักษรจะอยู่ที่คำ 2-4-6 สัมผัสสระผมไม่ได้เน้น แต่ไปเน้นสัมผัสอักษร ตอนขึ้นต้นผมขึ้น เขาบ่น คำต่อไปจะต้อง ข บ, ข บ หรือ คบ, ค บ ตรงนี้ถ้าไม่แม่นศัพท์มาก่อน ก็ต้องเปิดพจนานุกรม หาคำสัมผัสที่ 4 และ 6 ให้เจอคร่าวๆก่อน แล้วหาคำอื่นมาเข้าคู่ คำที่ 4 ผมเจอคำว่า บ่ม ผมหาคำเข้าคู่ที่พอให้ความหมายได้แก่ข้น ก็กลายเป็น ข้นบ่ม....เขาบ่นข้นบ่ม จากนั้นไปหาคำที่ 6 ผมได้คำว่าบาก หาคำเข้าคู่ได้คำว่าคม เป็น คมบาก..เขาบ่นข้นบ่มคมบาก มีความหมายเมื่อรวมความจากที่ดำเนินเรื่องมาแต่ต้นว่า เขา (คนนี้) ซาบซึ้งว่ามันมีแต่ความเจ็บปวดและบาดแผลมากมายบนนั้น (ที่สูงที่ใครๆหมายขึ้นไป) ก็ทำอย่างนี้เรื่อยไปจนจบ จุดสำคัญต้องพยายามไม่ให้กลอนพาไป ขอบคุณมากครับ