สังคมไทย สังคมพุทธ (3)
สุธาวาสน์
ให้ความเห็นเน้นสิ่งถูกตามเหตุผล
คิดให้พ้นทุกข์กระทำที่กล้ำใกล้
อย่าพยาบาทเบียดเบียนบีฑาใคร
รู้วาจางามไซร้สรรพมงคล
รู้ทำดีดำรงชีพสุจริต
พยายามรอนริดเรื่องสับสน
รู้รักษาแล้วสร้างเสริมเพิ่มให้ตน
เพื่อหลุดพ้นอันตรายและภัยพาล
รู้สติเตือนตัวเป็นที่ตั้ง
สติปัฏฐานถึงฝั่งพ้นสังสาร
ด้วยสมาธิมั่นไว้ในสันดาน
สิ้นฟุ้งซ่านเดินทางด้วยตั้งใจ
รู้เท่าทันนิวรณ์ที่หลอนจิต
ให้ยึดติดพึงพอล่อหลงใหล
ทั้ง รูป รส กลิ่น เสียง เพียงพึงใจ
รสสัมผัสชิดใกล้จงสังวร
ความอาฆาตบาดจิตคิดซึมเศร้า
อีกฟุ้งซ่านมัวเมามาหลอกหลอน
ความลังเลสงสัยไม่แน่นอน
ตัวสกัดร้าวรอนรู้ความจริง
ฝึกอบรมบ่มศีลให้พิสุทธิ์
สมาธิจะผ่องผุดพิศาลยิ่ง
ผลปัญญาสง่างามไปตามจริง
สภาวะธรรมนิ่ง คือ นิพพาน
แต่สังคมทุกวันนี้ที่สับสน
เพราะผู้คนห่างศีลที่สร้างสาน
สมาธิจึงห่างไกลไร้วิญญาณ
ตัวปัญญาถูกเผาผลาญย่อยยับลง
มานิยมบ่มฐานะด้วยวัตถุ
ไม่บรรลุ จนธรรมยุ่ยเป็นผุยผง
โลภวิ่งร่าถาโถมสังคมคง
เห็นแก่ตัวจนลืมหลงแก่นความจริง
สร้างฐานะสนองตนพ้นวิถี
สิ้นจารีตประเพณีที่งามยิ่ง
ความเอื้อเฟื้อไม่เหลือหลอพอประวิง
ให้สังคมเพริศพริ้งด้วยน้ำใจ