......ไฟ คือสิ่งที่มนุษย์ค้นพบมาช้านาน อาจเป็นเพราะความร้อนอันแรงกล้าของมันจึงทำให้ผู้ที่มิทันระวังตัวต้องถูกแผดเผาเป็นจุลด้วยสิ่งที่เราเรียกว่า ไฟนั่นเอง .....จิตใจมนุษย์นั้นเปรียบได้ดั่งผืนน้ำที่สงบนิ่ง เยือกเย็น มีลมอ่อนละมุนคอยพัดพาไอร้อนระอุให้หมดไปอยู่เสมอ ทุกยุคทุกสมัยมนุษย์จะต้องเผชิญกับสิ่งที่จะรบกวนความเงียบสงบแห่งผืนน้ำ เมื่อจิตใจเปรียบได้ดั่งผืนน้ำ สติก็คงเปรียบได้ดุจเทพเจ้าที่เป็นเจ้าของผืนน้ำแห่งนั้น ยามใดที่เทพเจ้าอ่อนแอ อ่อนล้า ไฟแห่งกิเลสตัณหาจะแทรกซึมผ่านเข้ามาสู่อาณาจักรที่เงียบสงบนี้ได้โดยง่าย แม่น้ำที่ไหลเย็นกลับร้อนระอุ เดือดอย่างบ้าคลั่ง ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดจะดำรงอยู่ได้ ไม่มีละอองแห่งความสุข การแบ่งปัน ความเมตตากรุณา แต่บัดนี้ได้เปลี่ยนเป็นไอประทุแห่งความริษยา ความเกลียดชัง ความโลภ ไปหมดสิ้นทุกอณู .....เมื่อใดที่เทพเจ้ามีแรงพอที่จะลุกขึ้นสู้กับไฟโลกันต์ ความสงบมีวี่แววจะหวนคืนกลับมาสู่สถานที่นี้ได้อีกครั้ง แต่การที่จะพิชิตมันได้มิใช่เรื่องง่าย ต้องอาศัยความพยายาม วิริยอุตสาหะอย่างแท้จริง เพื่อผืนน้ำสีฟ้า ลมอุ่นๆจะกลับคืนมาได้ดังเดิม และสถานที่นี้จะสงบร่มเย็นได้อีกครั้ง .....หากมนุษย์กำลังหลงเข้าสู่ภวังค์แห่งตัณหาเมื่อใด จงปลุกเทพเจ้าขึ้นมาด้วยจิตใจของตนเอง มอบอาวุธที่ดีที่สุดนั่นคือปัญญาและโล่ที่แข็งแกร่งนั่นคือฉันทะให้แก่ท่าน แล้วชัยชนะที่สง่างามจะได้มาอย่างง่ายดาย ปีศาจแห่งอเวจีตนใดก็มิอาจทำอันตรายต่อท่านได้เลย
11 กรกฎาคม 2545 11:51 น. - comment id 60290
I agree with you too.
11 กรกฎาคม 2545 15:57 น. - comment id 60348
จิตใจของ มนุษย์ บางครั้งก็เหมือนคลื่นใต้น้ำนะคะ ภายนอกดูนิ่งสงบแต่ภายในกำลังปั่นป่วนเพราะพายุ
12 กรกฎาคม 2545 00:49 น. - comment id 60424
อืม..ย้าวยาวแฮ่ะ จิตใจมนุษย์ก็เหมือน เหมือนอะไรดีหว่า... อืม.. เอาเป็นว่ามนุษย์เรามีกิเลสเยอะอ่ะ ถ้าไม่มีคงไม่ใช่มนุษย์ ยังไงก็ลดลดไปบ้างนะ...