นอนแบเบาะป่วยการนานนักหนาแม้บ่อยครั้งถวิลจินตนา
ไม่ขยับแขนขามาเรียงร้อย
ให้ความรักอักษรเพียงนอนอ่าน
จนหนังสือเต็มบ้านวิมานจ้อย
ตั้งหนังสือเป็นตึกลึกเป็นซอย
เบาะน้อยน้อย"บ้านหนอน"นอนยึดครอง
เล่ห์มารยาสาไถยในมนุษย์
เด่นสะดุดตายลจนคับข้อง
อารมณ์กลอนก้นบึ้งทะลึ่งพอง
เต็มสี่ห้องหัวใจไหลออกมา
อยากถักถ้อยร้อยเรียงเพียงให้สม
สาอารมณ์ข้องขุ่นอันอุ่นกล้า
ลุกขึ้นยืนทันทีไร้ลีลา
ไม่รู้หลักยันขาถลาไป
"ใครคนหนึ่ง"คว้าดึงก่อนถึงพื้น
จับให้ยืนสอนสั่งการตั้งไข่
บอกวิธีก้าวเท้าก้าวอย่างไร
จนเข้าใจน้ำหนักหลักการเดิน
จึงเดินออกนอกบ้านวิมานน้อย
เห็นดาวลอยสกาวกลางหาวเหิน
โอ้ดารานภาลัยไกลเหลือเกิน
เพิ่งหัดเดินเกินจะเหาะเกาะกลุ่มดาว
คงต้องขึ้นบันไดไปตามขั้น
ถ้าขยันวันหนึ่งอาจถึงหาว
จะอดทนทุกขั้นบันไดยาว
แม้ทุกก้าวแข่งขันบนบันได
แม้จะปีนลำบากด้วยขวากหนาม
พยายามตั้งมั่นไม่หวั่นไหว
ขึ้นบันไดดาวกวีต้องมีใจ
พร้อมทุกนัยรสชาติที่อาจเจอ
บนลานดินหน้าบันได "ใครคนนั้น"
คอยปลุกปั้นนักสู้อยู่เสมอ
ด้วยหัวใจ "ทองคำ" วิทย์ล้ำเลอ
ในมือเธออุทิศ "วิทยาทาน"
คอยเชื้อเชิญบรรดาเหล่าทารก
เพิ่งผงกยกหัวทั่วหย่อมย่าน
สอนให้คว่ำให้นั่งทั้งให้คลาน
ปูพื้นฐานปลอบปลุกให้ลุกยืน
สอนให้ลองยกเท้าก้าวเตาะแตะ
พอล้มแผละทารกตระหนกตื่น
"ทิพยจำนรรจ์" เรียกขวัญคืน
ประคองยืนประคองลองอีกครั้ง
สอนตั้งหลักผลักให้ก้าวน้าวให้วิ่ง
เสริมให้ยิ่งไต่เต้าเร้าให้หวัง
เป็นแรงเรี่ยวเคี่ยวเข็ญเป็นพลัง
และอยู่เป็นแนวหลังอยู่ดังเดิม
คอยทารกตกฟากมาฝากเลี้ยง
ไม่เคยเลี่ยงรำคาญกับการเริ่ม
รอคอยคนยื่นหน้ามาให้เจิม
ให้เพิ่มเติมจุนเจือเมื่อขาดแคลน
แจก "อมตเสบียง"ให้เลี้ยงชีพ
ยามปากกัดตีนถีบบีบรัดแน่น
เพื่อผู้เดินทางไกลในดินแดน
และผู้แหงนใฝ่ฝันขึ้นบันได