๏ “มาตาปิตุ”แม้น .... เหมือนพรหม
เฉก“บุรพเทวะ”สม .... เช่นผู้
”คุรุ” แรกอุดม .... โดยศาสตร์ ปฐมเนอ
“อาหุเนยโย”รู้ .... เลิศล้วนอรหันต์ ๚ะ๛
๏ อัน"มาตาปิตุ”ควรคู่ตั้ง
ดำรงค์รั้งร่มไม้โพธิ์ไทรเสมือน
ยกเทินสูงเยี่ยงเด่นกว่าเพ็ญเดือน
คือเครื่องเตือนเยือนย้ำกตัญญู
๏ เทียบบิดรมารดามีค่าดุจ-
พรหมวิหารพิสุทธิ์-สี่แด่สู
เมตตาก่อการุณค้ำจุนชู
มุทิตารู้อยู่อุเบกขาย้ำ
๏ คือเทวะผู้สรรคอยคั่นชี้
ปกป้องภัยพ่ายหนีตีกระหน่ำ
ถนอมเนื้อเชื้อชอบมิบอบช้ำ
รักเกินใครกล่าวคำนำเทียบเคียง
๏ คือปฐมบรมครูผู้เริ่มสอน-
เกลาปัญญากล้าก่อนจะคลอนเกี่ยง
วางวิถีบาทเอนไม่เบนเอียง
ให้รู้หลบทบเบี่ยงเลี่ยงอบาย
๏ คืออรหันต์บุคคลยึดยลครบ
วิสุทธิ์เทพรู้ภพบรรจบหมาย
เนื้อนาบุญหนุนแกร่งก่อแรงกาย
สาธุชนหญิงชายจงใคร่ตรอง
๏ ผู้บุตรเอยผู้ดำรงค์สืบพงศา
โปรดแลหาผู้สร้างท่านทั้งสอง
ยามท่านอยู่ดูแลตามครรลอง
ประพฤติครองต่อผู้มีพระคุณ ๚ะ๛
+ กิ่งโศก +
๙ สิงหาคม ๒๕๕๖
ขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๙ ปีมะเส็ง
..ใกล้วันแม่..กิ่งโศกขอน้อมรำลึกถึง บุพการีทั้งสอง ..แม้นบัดนี้จะคงมีแต่พ่อเฒ่า พระองค์เดียวในบ้านที่ยังเป็นที่
ยึดเหนี่ยวสายสัมพันธ์ในครอบครัว..ส่วนแม่ ตอนนี้ท่านสถิตย์บนฟ้าบนสรวงสวรรค์แล้ว ลูกขอประพฤติดี กระทำดี เพื่อทดแทนพระคุณ
ของแม่..ส่วนพ่อลูกจะขอทดแทนพระคุณท่านเท่าที่บุตรพึงกระทำได้ ...