๏ สงบเย็นเห็นโลกโบกศานติ
ชั่วขณะสมาธิสติตั้ง
ละเลื่อมเงาเทาแสงแสดงพลัง
ฉายมนต์ขลังหยั่งยอดหญ้าระย้างาม
๏ สดใหม่ใสกระจ่างสว่างจิต
ความคิดดิ้นติดกับกับคำถาม
จะหยุดยื้ออย่างไรไว้ในความงาม
ทุกโมงยามยอดหญ้ายังงามอยู่
๏ ลองหยุดย้อนความถามตนก่อน
คำสอนเรื่องความงามตามความรู้
ถูกถกความตามสังคมชมเชิดชู
ต่างตีความตาม "ตัวกู" รู้ว่างาม
๏ งามงดหมดจดจิตบรรเจิด
พิเลิศเพลิดเพลินเกินมองข้าม
ขาวใสไร้ริ้วรอยพลอยเพ้อตาม
นี่คือความงดงามตาม "จิตกู"
๏ ลองหยุดย้อนความถามตนก่อน
กาพย์กลอนสอนใจใยถึงรู้
ดั่งภาษิต " กูคิด จึงมีอยู่ "
จิตจึ่งกระโจนสู่การยึดติด
๏ ชั่วขณะถนัดนึกตึกตรองชัด
กระบวนทัศน์สลัดทิ้งพึ่งพิงจิต
ปล่อยปลด ลด ละ วาง สางความคิด
สิ่งใดใดใช่ถูกผิดจิตปล่อยวาง
๏ ปล่อยวางว่างห่างจากตัวตน
เลิกหาล่าเหตุผลมาก่นอ้าง
เผชิญพบทบทวนด่วนปล่อยวาง
อย่าเก็บกักถักถ่างทางอารมณ์
๏ แล้วโลกจะสงบพบสันติ
ชั่วขณะสมาธิที่เหมาะสม
ผลิโผล่โตเติบจากเปือกตม
จักบานบ่มห่มโลกให้ร่มเย็น
๏ ยอดหญ้าอ้าบานเบ่งเร่งเหี่ยวเฉา
สีสันบั่นบรรเทาทุกสายเส้น
แตกตายสลายรวงร่วงกระเด็น
ความงามที่แลเล่นล้วนลวงเรา
๏ จึงจับจิตจดจ่อปัจจุบัน
สติสงบมั่นกลั่นความเขลา
สว่างสัจธรรมนำร่มเงา
เปิดม่านบ้านจิตเก่าเกิดสุขเย็น
๏สงบเย็นเห็นโลกโบกศานติ
ชั่วขณะสมาธิจิตชัดเด่น
ละเลื่อมเงาเทาแสงแสดงเล่น
ยอดหญ้าเบนเอนไหวในความว่าง !!!