๏ สำเนียงเสียงเสนาะก้อง กังวาน พฤกษ์เฮย
สำทับถี่นี้เนื่องนาน "นกหว้า"
เพรียกเรียกคู่กู่ขาน คอโก่ง
ฤอัตคัดคู่ค้า ชิดเคล้าแนบเขนย
๏ จักเผยเปรยเล่าร้อย เรียงหลัง
เช้าเกลี่ยลานเกลี้ยงรัง สะอาดแล้ว
ใบไม้เศษหล่นบัง ปากคาบ ทิ้งนา
ลานจึ่งพึงผ่องแผ้ว พิศล้วนเรือนหวง
๏ ลานผูกปลูกสเน่ห์ล้อม คู่เรียง
นางนกตกปลงเคียง แนบเคล้า
ลานรักประจักเพียง รังสวาท
สมสู่ชู้เอินเย้า หยอกเพี้ยงสิเน่หา
๏ ลานสลดกำสรดด้วย หวงลาน
อิริยารู้พราน ทุกผู้
หลาวปักที่โปรดปราณ แปรชีพ
คมไผ่บางเบารู้ ประพฤติเจ้าของเรือน
๏ เบื้องนั้นพลันนกผู้ เล็งเห็น
หลาวเกะกะกลางเป็น ปักชี้
โทสะจิกกระเซ็น กระชาก
ปีกตะปบขบขยี้ บาดเข้าโทรมแผล
๏ แลหลาวปักแน่นด้วย ทักษะชน
สิ้นท่าพามืดมน หมดสิ้น
ศอม้วนมัดรัดวน แรงตวัด ดึงนา
ฆาตปลิดชีวิตดิ้น ดับด้วยลานตน ๚ะ๛
+ กิ่งโศก+
๓ มิถุนายน ๒๕๕๖
๐ เรื่องราวอันหวาดเสียวนี้ ข้าพเจ้า พบในหนังสือนวนิยาย เรื่องเพชรพระอุมา โดยกล่าวถึงพฤติกรรมของ"นกหว้า"
"คล้ายนกยูงแต่ขนมีน้ำตาลไม่เขียวเหมือนนกยูง รำแพนได้สวยกว่านกยูง ป่าไหนมีนกหว้าแปลว่าเป็นป่าลึก เวลาร้องจะร้องโหยหวล
นกหว้าตัวผู้มักจะทำลานไว้สำหรับรำแพนเรียกตัวเมีย เรียกลานนกหว้า มันจะใช้ปีกกวาดจนลานสะอาดไม่ยอมให้แม้ใบไม้สักใบตกลงมา
พรานป่าทุกคน เมื่อพบลานรำแพนของนกหว้า ถ้าเขาต้องการจะได้ตัวมัน เขามีวิธีจะเอาตัวมันได้โดยไม่จำเป็นจะทำบ่วงแร้วดัก หรือเสียลูกปืน
โดยอาศัยสัญชาติญาณรักษาความสะอาดลานของมันนี่แหละเป็นเครื่องฆ่าตัวมันเอง
ตอนนี้หวาดเสียวมาก..(คนยังจะกินนกอีกนิ)
"คือเขาจะเอาไม้ไผ่ยาวสักสองสามคืบมาหลาว วิธีหลาวก็หลาวเฉพาะครึ่งหนึ่งของไม้ไผ่นั้น ให้บางและคมราวกับใบมีดทั้งสองคมขนาดกว้างประมาณหนึ่งเซนติเมตร
ส่วนอีกครึ่งไม่ต้องหลาว เอาด้านที่ไม่ได้หลาวย่องไปปักแน่นไว้กลางลาน ในเวลาที่มันออกไปหากินห่างจากลานโดยให้ใบอันหลาวไว้อย่างคมกริบนั้นโผล่พื้นดินขึ้นมาราวคืบกว่าๆ
พอมันกลับมาถึงลาน เห็นไม้ไผ่ระเกะระกะลูกตาอยู่กลางลานอันแสนหวงแหนของมันเช่นนั้น มันก็หาวิธีเขี่ยออกมาให้พ้น แต่ไม้ไผ่อันนั้นปักแน่นเกินกว่าที่มันจะจิก
หรือคุ้ยให้ออกไปได้ ในที่สุดมันก็จะใช้ลำคอยาวของมันพันเข้ากับไม้ไผ่อันคมกริบนั้น เอาเท้ายันพื้นแล้วกระชากถอนขึ้นโดยแรงเพื่อจะให้หลุดตามประสาของมัน"
......ฮือๆๆๆ โหดร้ายจังมนุษย์...
ปล.ทำไมเม้นไม่ได้ละครับนี่....ใส่พาสเวิด อีเมล ก้อแล้ว เม้นมิได้ขอรับ