สองปีกว่าจากไกลไปแนวหน้า หว่านเม็ดพืชนานาในทุ่งท้น เก็บเกี่ยวกลืนฝืนฝาดกาจผจญ ประจักษ์จริงขุ่นข้นคละคลุ้งคาว. วิถีทุ่งวิถีนาวิถีมนุษย์ วิถีทางสิ้นสุดลงดับด้าว ภูเขาสูงผาชันกลั่นเรื่องราว จะโดดดิ่งดุ่มก้าวหรือถอยไกล มองเบื้องหลังล้วนหน้าปัจจามิตร คอยทิ่มแทงหวังปลิดชีวิตไหม้ กระหน่ำแทงสับฉึกทะลวงใน ควานลึกล้วงบั่นใส้ชอนไชจินต์ โลหิตแดงพร่างพรายกระจายเกลื่อน ในสำนึกย้ำเตือนไม่สร่างสิ้น เมื่อขาก้าวเท้ากล้าฝ่าชีวิน โสตสดับมิยลยินทุกย้ำเตือน แม้ถาโถมพัวพันกระชั้นสู้ ยิ่งหนักหน่วงพันตูเข้าเชือดเฉือน ถีบโถมแรงยิ่งสะท้อนย้อนสะเทือน ตาต่อตาก็ดูเหมือนเข้าทางมัน ณ. ยอดผาปลายภูของรู้สึก มิลดละสำนึกในทางฝัน มายืนหยัดตั้งอยู่บนผาชัน วางความอยากแล้วกลับหันสู่ความจริง จึ่งเห็นโลกวิมุติพิสุทธิ์สว่าง ความอยากหยาบละวางสลัดทิ้ง สงบจิตตั้งมั่นไม่ไหวติง บนยอดภูสงบนิ่งวิมุติ...กรรม
19 กุมภาพันธ์ 2556 15:13 น. - comment id 1255503
ใช้ความสงบสยบการเคลื่อนไหว....ได้ยินมานานลองเอามาใช้ก็ได้ผลนะคะ ( แต่ไม่ได้ทุกเรื่องหรอกค่ะ )..มาร่วมปล่อยวางด้วยคน. แบกก็หนักหิ้วหน่ายสะพายเหนื่อย หนักขึ้นเรื่อยปัญหาเวลาผ่าน อย่าหลงถือแบกรับจับไว้นาน ไหล่จะกร้านหลังงุ้มไม่คุ้มเอย.
20 กุมภาพันธ์ 2556 07:57 น. - comment id 1255541
บนยอดภูคงดูอะไรๆได้ชัดเจนนะคะ
20 กุมภาพันธ์ 2556 13:47 น. - comment id 1255561
ไม่ได้เขียนมานาน ทำแต่งาน.... เหนื่อย ๆ แวะมาที่บ้านกลอนก็เป็นที่พักสมองได้ดีครับ ขอบคุณที่มาเยือนครับ
20 กุมภาพันธ์ 2556 18:48 น. - comment id 1255608
มะได้แต่งนาน แต่ยังยอดเยี่ยมเช่นเคย คงไว้ซึ่งปรัชญา