เมล็ดพืช งอกงาม ตามป่าเขา กลางลำเนา อุดม ชุ่มโชกฝน ต้นจึงโต ตระหง่าน ต้านลมบน เปรียบเช่นคน เกิดกาย เติบใหญ่มา มีนที ไหลเลาะ เซาะตลิ่ง ละลิ่ววิ่ง ล้นหลาก จากภูผา ทั้งกัดกร่อน จนเห็น เป็นธารา พสุธา จึงแตก แยกจากกัน ไม้โตใหญ่ ยังโอน โค่นลงน้ำ ลอยในลำ คงคา ถึงอาสัญ แม้ยืนต้น บนตลิ่ง ยิ่งนานวัน ไม่คงมั่น ต้องถึง ซึ่งเอวัง เมื่อเปรียบคน เมื่อครา อายุมาก ความหลายหลาก มีแท้ แต่หนหลัง พอเวลา ล่วงไป ไม่จีรัง ก็ใกล้ฝั่ง เช่นไม้ ริมสายธาร เงาไม้ใหญ่ ก่อนนี้ มีคุณค่า กิ่งก้านหนา ร่มเย็น เป็นสถาน ที่พึ่งพิง ของสัตว์ป่า มาช้านาน ต้นใช้งาน เมื่อโค่น โดนทำลาย เมื่อเดือนปี ผ่านไป ชีพใกล้ดับ พอนั่งนับ วันวัย แล้วใจหาย ทำอะไร ไว้บ้าง ก่อนวางวาย เร่งขวนขวาย ตอนนี้.. มีเวลา
23 กุมภาพันธ์ 2555 23:17 น. - comment id 1225970
เป็นกลอนที่มีความหมายดีมากๆเลยครับ แต่ถึงยังไม่ใช่ไม้ใกล้ฝั่ง ก็ทำความดีกันได้นะครับ ทำกันไว้ตั้วแต่ตอนนี้ นานนานไป...เราจะได้เป็นไม้ที่ล้มลง อย่างมีคุณค่า
24 กุมภาพันธ์ 2555 08:17 น. - comment id 1226004
ก่อนตาย..ต้องทำความดีให้เป็นที่จดจำ อรุณสวัสดิ์ครับ
24 กุมภาพันธ์ 2555 10:58 น. - comment id 1226036
ถ้าคนกรุงศรีใกล้ฝั่งบุญพร้อมก็เฉียดฝั่งแล้วซิ โอัยเสียวจัง
24 กุมภาพันธ์ 2555 13:07 น. - comment id 1226065
สงสัยต้องจัดชมรมคนใกล้ฝั่งแล้วครับ ผมด้วยคนครับคุณบุญพร้อม คุณศรีสมภพ คงยังไม่ถึงเกณฑ์ แต่ก็ไม่แน่ครับ ลูกเล่นเยอะมากแสดงว่าผ่านโลกมาเยอะพบโรคมามาก
24 กุมภาพันธ์ 2555 13:09 น. - comment id 1226067
ขออภัยเรียกคุณกรุงศรีผิดเป็นคุณศรีสมภพ(ผู้น้อยสมควรตาย)
24 กุมภาพันธ์ 2555 21:21 น. - comment id 1226186
ผิดแล้วคุณสุนทร โรคมันแค่ผ่านไป ไม่เคยมาข้องแวะกับบุญพร้อมเลยครับ
24 กุมภาพันธ์ 2555 22:00 น. - comment id 1226193
ว้า...น่าเสียดาย อย่างนี้แสดงว่าประสบการณ์ครับ
24 กุมภาพันธ์ 2555 22:18 น. - comment id 1226201
เอาละคงต้องเรียงตามดับไหล่กันละขอรับ