คนจะเกิด ก็ยื้อแย่ง แข่งกันเกิด คุมกำเนิด ห้ามไว้ ยังไม่ไหว คนจะตาย ปุบปับ ก็หลับไป เหมือนปิดไฟ มืดดับ โดยฉับพลัน การเกิดแก่ เจ็บตาย ในมนุษย์ หมุนดำเนิน ไม่หยุด ดุจกังหัน เก่าไป ใหม่ผลิ มิเว้นวัน เพียงเคี่ยวขัน ให้ผ่าน กาลเวลา สัจธรรม สรรพสิ่ง อิงสมมุติ บั้นปลายสุด คือเอวัง สู่สังขาร์ ถือดังเรื่อง โลกิยะ ธรรมดา ผองชีวา ทั่วถ้วน ล้วนต้องวาย แรกกำเนิด เกิดมา เปรียบฟ้ารุ่ง ต่างหมายมุ่ง ความเลิศ-เลอเฉิดฉาย แท้คืนวัน ผันเปลี่ยน เวียนกลับกลาย มีเช้า-สาย บ่าย-เย็น เป็นนิรันดร์ ครั้นยามใกล้ ม้วยมรณ์ ดั่งตอนค่ำ ตะวันต่ำ อำลา ชีพอาสัญ จบลงแล้ว ชาติหนึ่ง คล้ายคลึงกัน มันแสนสั้น กระไร จริงไหมเอย
16 พฤศจิกายน 2554 20:07 น. - comment id 1215147
สัจธรรมล้ำลื่อโลก ทุกข์,สุข,โศก,วิโยคไหว มนูษย์เอยเปรยสิ่งใด คล้ายว่าใจใคร่ร้อนร้น ปถุชนคนใต้ฟ้า เกิดขึ้นมานภาหม่น ผืนแผ่นดินสินธุ์ธารชล ต่่างปี้ป่นจนมลาย
16 พฤศจิกายน 2554 21:43 น. - comment id 1215167
จะเข้านอนแล้วครับคงตอบไม่ทันครับ
17 พฤศจิกายน 2554 04:50 น. - comment id 1215177
ไม่ต้องตอบทั้งหมดคะคุณลุง คือเมื่อคืนเขามาอ่านบทหนก็แต่งกลอนว่างไว้ทุกบทแหลคะ จะได้รู้ว่าหทัยกาญจน์มาอ่านแล้วคะ อรุณสวัสดิ์คะ
17 พฤศจิกายน 2554 11:22 น. - comment id 1215200
ปุถุชน คนกิเลส แม้รู้เหตุ และรู้ผล ยังตะกาย และว่ายวน ยากหลุดพ้น บนโลกีย์ เรียนมาก รู้ก็มาก แต่ก็ยาก ในวิถี ต้อยต่ำธรรมวิธี เหมือนบุญมี ..แต่กรรมบัง ! หนึ่งนั้น ..คือฉันเอง
17 พฤศจิกายน 2554 21:35 น. - comment id 1215265